xs
xsm
sm
md
lg

Krungthai GLOBAL MARKETS เผยค่าบาทเปิดที่ 33.43-อ่อนค่าแรง-รับดอลลาร์รีบาวด์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้(15พ.ค.68) ที่ระดับ 33.43 บาทต่อดอลลาร์ “อ่อนค่าลงหนัก”จากระดับปิดวันที่ผ่านมา ณ ระดับ 33.21 บาทต่อดอลลาร์ และมองกรอบเงินบาทในช่วง 24 ชั่วโมง คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 33.25-33.60 บาท/ดอลลาร์ โดยนับตั้งแต่ช่วงคืนที่ผ่านมา เงินบาท (USDTHB) พลิกกลับมาอ่อนค่าลง เข้าใกล้โซนแนวต้าน 33.50 บาทต่อดอลลาร์ อีกครั้ง (แกว่งตัวในกรอบ 33.18-33.48 บาทต่อดอลลาร์) กดดันโดยการทยอยรีบาวด์แข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์ หนุนโดยมุมมองของผู้เล่นในตลาดที่ต่างเชื่อว่า เฟดอาจลดดอกเบี้ยได้ราว 2 ครั้ง ในปีนี้ หลังผู้เล่นในตลาดทยอยรับรู้ถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด กอปรกับผู้เล่นในตลาดยังมีความหวังต่อแนวโน้มการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับบรรดาประเทศคู่ค้า

นอกจากนี้ เงินบาทยังเผชิญแรงกดดันเพิ่มเติมจากการปรับตัวลดลงต่อเนื่องของราคาทองคำ (XAUUSD) จนเข้าใกล้โซนแนวรับสำคัญ หลังทั้งเงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ต่างปรับตัวสูงขึ้น ขณะเดียวกัน ราคาทองคำก็ขาดปัจจัยสนับสนุนใหม่ๆ เพิ่มเติมในช่วงนี้

สำหรับในช่วง 24 ชั่วโมงหลังจากนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ ผ่านรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญ อย่าง ยอดค้าปลีก (Retail Sales) ยอดผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงาน (Jobless Claims) รวมถึง ดัชนีภาคธุรกิจจากบรรดาเฟดสาขาต่างๆ พร้อมกันนั้น ผู้เล่นในตลาดจะรอติดตามถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด โดยเฉพาะ ประธานเฟด Jerome Powell เพื่อประเมินทิศทางนโยบายการเงินของเฟด ที่ล่าสุด ผู้เล่นในตลาดกลับมาเชื่อว่า เฟดอาจลดดอกเบี้ยได้ราว 2 ครั้ง ในปีนี้ สอดคล้องกับคาดการณ์ของเฟดใน Dot Plot เดือนมีนาคม

ส่วนในฝั่งยุโรป ผู้เล่นในตลาดจะรอลุ้นรายงานอัตราการเติบโตเศรษฐกิจของยูโรโซนและอังกฤษ ในไตรมาสแรกของปีนี้ โดยภาพดังกล่าว รวมถึงถ้อยแถลงบรรดาเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) และธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) จะเป็นปัจจัยที่ผู้เล่นในตลาดใช้ประเมินแนวโน้มการดำเนินนโยบายการเงินของทั้ง ECB และ BOE โดยล่าสุด ผู้เล่นในตลาดได้ปรับลดความคาดหวังต่อแนวโน้มการลดดอกเบี้ยอีก 2 ครั้ง ของ ECB และ BOE ลง ท่ามกลางความหวังแนวโน้มเศรษฐกิจที่ดีขึ้น หากสหรัฐฯ สามารถบรรลุข้อตกลงการค้ากับบรรดาประเทศคู่ค้าได้สำเร็จ

ส่วนในฝั่งเอเชีย ในช่วงราว 6.50 น. ตามเวลาประเทศไทยของเช้าวันศุกร์ที่ 16 พฤษภาคม นี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอลุ้น รายงานอัตราการเติบโตเศรษฐกิจของญี่ปุ่น ในไตรมาสแรกเช่นกัน

และนอกเหนือจากปัจจัยข้างต้น ผู้เล่นในตลาดจะลุ้นรายงานผลประกอบการของบรรดาบริษัทจดทะเบียน รวมถึงพัฒนาการของนโยบายการค้าของสหรัฐฯ โดยเฉพาะความคืบหน้าของการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับบรรดาประเทศคู่ค้า

สำหรับ แนวโน้มของค่าเงินบาท เรามองว่า การอ่อนค่าของเงินบาทเข้าใกล้โซนแนวต้าน 33.50 บาทต่อดอลลาร์ ในช่วงคืนที่ผ่านมานั้น อาจมีแรงกดดันเพิ่มเติมจากโฟลว์ธุรกรรมซื้อทองคำ (Buy on Dip) หลังราคาทองคำปรับตัวลดลงเข้าใกล้โซนแนวรับ ซึ่งหากราคาทองคำสามารถทยอยรีบาวด์สูงขึ้นได้จากโซนแนวรับดังกล่าว อย่างน้อย +20 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก็อาจช่วยชะลอการอ่อนค่าของเงินบาทได้ ทำให้ แนวต้าน 33.50 บาทต่อดอลลาร์ ยังเป็นโซนแนวต้านที่อาจผ่านได้ยากในช่วงนี้

อย่างไรก็ดี หากราคาทองคำปรับตัวลดลงต่อเนื่อง หลุดโซนแนวรับดังกล่าว ก็อาจปรับตัวลดลงต่อได้อีกราว -2.5% ถึงโซนแนวรับสำคัญถัดไป ซึ่งหากประเมินจาก Beta ระหว่างเงินบาทกับราคาทองคำ ราว 0.3-0.5 อาจสะท้อนได้ว่า เงินบาทก็มีโอกาสอ่อนค่าลงได้อีกราว 0.75%-1.25% ทดสอบโซนแนวต้านถัดไป 33.75-33.85 บาทต่อดอลลาร์ ได้ โดยเรามองว่า ภาพดังกล่าวจะเกิดขึ้นได้ หากเงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้นต่อ พร้อมกับภาวะเปิดรับความเสี่ยงของตลาดการเงินสหรัฐฯ ซึ่งจำเป็นต้องเห็นรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในคืนนี้ (ที่จะทยอยรับรู้ในช่วงตั้งแต่ 19.30 น. ตามเวลาประเทศไทย) ล้วนออกมาดีกว่าคาด ทำให้ผู้เล่นในตลาดคลายกังวลแนวโน้มการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจสหรัฐฯ พร้อมปรับลดโอกาสเศรษฐกิจสหรัฐฯ เสี่ยงชะลอตัวลงจนเข้าสู่ภาวะ Stagflation หรือแม้กระทั่ง Recession

อนึ่ง เรามองว่า บรรดาผู้ส่งออกและผู้เล่นในตลาดบางส่วนที่มีสถานะ Short THB (มองเงินบาทอ่อนค่า) อาจรอทยอยขายเงินดอลลาร์ ในช่วงโซนแนวต้านของเงินบาทดังกล่าว ทำให้ การอ่อนค่าของเงินบาทอาจมีลักษณะค่อยเป็นค่อยไป ทั้งนี้ แรงขายสินทรัพย์ไทยจากบรรดานักลงทุนต่างชาติ รวมถึงโฟลว์ธุรกรรมจ่ายเงินปันผลให้กับบรรดานักลงทุนต่างชาติ จะยังคงเป็นปัจจัยที่ทำให้เงินบาทอาจยังไม่สามารถกลับมาแข็งค่าขึ้นได้ชัดเจน โดยโซนแนวรับของเงินบาทยังอยู่ในช่วง 33.15 บาทต่อดอลลาร์ โดยมีโซนแนวรับสำคัญแถว 33.00 บาทต่อดอลลาร์ ตามเดิม
กำลังโหลดความคิดเห็น