xs
xsm
sm
md
lg

สถาบันทุบตลาดเทบิทคอยน์ 1 พันล้านเหรียญ ถอนจาก Coinbase ภายในวันเดียว นักวิเคราะห์เตือน “ช็อกอุปทาน” อาจใกล้ระเบิด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



Coinbase เจอปรากฏการณ์ไหลออกของบิทคอยน์มากที่สุดในปี 2568 มูลค่ากว่า 1 พันล้านดอลลาร์ในวันเดียว ขณะที่นักวิเคราะห์เตือนว่าโลกอาจเข้าสู่ภาวะ "Supply Shock" อันตรายจากความต้องการล้นตลาดแต่ของไม่มีให้ซื้อ ชี้องค์กรใหญ่แห่กวาดเหรียญแรงไม่หยุด ด้าน Glassnode เผยสัญญาณชัด นักลงทุนสายแข็งยังสะสมไม่หยุด

เกิดแรงสั่นสะเทือนตลาดคริปโตเมื่อ Coinbase แพลตฟอร์มเทรดสินทรัพย์ดิจิทัลยักษ์ใหญ่ อันดับ 3 ของโลก เผชิญเหตุ “เทเหรียญ” ครั้งประวัติศาสตร์ เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคมที่ผ่านมา พบว่ามีบิทคอยน์ถูกถอนออกจากระบบสูงถึง 9,739 เหรียญ คิดเป็นมูลค่ากว่า 1.04 พันล้านดอลลาร์ หรือราว 38,000 ล้านบาทภายในวันเดียว

อองเดร เดอร์กูส หัวหน้าฝ่ายวิจัยยุโรปของ Bitwise ยืนยันว่า นี่คือการไหลออกสุทธิรายวันที่สูงที่สุดของ Coinbase ในปี 2568 สะท้อนถึงกระแสการลงทุนของกลุ่มทุนสถาบันที่พุ่งสูงขึ้นแบบไร้เบรก

ที่มา : อองเดร เดอร์กูส
“ความต้องการของสถาบันสำหรับบิทคอยน์กำลังเร่งเครื่องเต็มสปีด” เดอร์กูส ระบุผ่านโพสต์บนแพลตฟอร์ม X เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม พร้อมเสริมว่าความเคลื่อนไหวนี้อาจเป็นจุดเริ่มต้นของ "Supply Shock" ที่จะพลิกเกมทั้งตลาดคริปโตในระยะต่อไป

อย่างไรก็ตามจากการที่แรงซื้อที่ท่วมท้นเกิดขึ้นขณะที่ราคาบิทคอยน์ทะยานแตะระดับเหนือ 103,600 ดอลลาร์ โดยได้รับแรงหนุนจากบรรยากาศตลาดที่เริ่มคลี่คลาย หลังจากทำเนียบขาวของสหรัฐฯ ประกาศระงับการเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนชั่วคราวเป็นเวลา 90 วัน

มาตรการชั่วคราวนี้ ช่วยลดแรงกดดันทางเศรษฐกิจระดับโลก และเพิ่มความกล้าเสี่ยงของนักลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงอย่างคริปโตและหุ้น

แถลงการณ์ร่วมเกี่ยวกับการประชุมระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่เจนีวา ที่มา: ทำเนียบขาว
โอเรลี บาร์แตร์ นักวิเคราะห์อาวุโสจาก Nansen เผยกับ Cointelegraph ว่า “การเลื่อนเก็บภาษีรอบนี้เท่ากับเปิดประตูให้สินทรัพย์เสี่ยงทะยาน เพราะความกลัวนโยบายเข้มงวดฉับพลันลดลง”

แต่สิ่งที่น่าจับตาคือผลกระทบในระดับ “โครงสร้างอุปทาน” ของบิทคอยน์ที่อาจเข้าสู่ภาวะตึงเครียดอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

อย่างไรก็ดี เดอร์กูส เตือนว่า หากแนวโน้มนี้ยังดำเนินต่อไป ความต้องการที่ระเบิดออกจากนักลงทุนสถาบันและองค์กรต่างๆ จะทำให้อุปทาน BTC ที่หมุนเวียนในตลาดแลกเปลี่ยนหดหาย จนนำไปสู่ปรากฏการณ์ “ภาวะช็อกจากอุปทาน (Supply Shock)” ซึ่งอาจทำให้ราคาพุ่งทะยานโดยไม่มีใครเบรกได้

อุปทาน Bitcoin ขาดสภาพคล่อง แหล่งที่มา: Glassnode
“ในปี 2568 เพียงปีเดียว บริษัทเอกชนซื้อบิทคอยน์มากกว่ากองทุน ETF ของสหรัฐฯ รวมกันถึง 4 เท่า! และตอนนี้เรากำลังพูดถึง BTC กว่า 200,000 เหรียญแล้ว ซึ่งเทียบเท่ากับอุปทานใหม่ของบิทคอยน์ทั้งปีเลยทีเดียว” เดอร์กูส ชี้

แม้จะมีมุมบวกในระยะกลางถึงยาว แต่เขาก็ยอมรับว่า บิทคอยน์อาจเจอแรงขายระยะสั้นจากภาวะ “นักลงทุนหัวร้อนเกินเหตุ” ซึ่งหมายถึงความคาดหวังที่สูงเกินจริงในเวลาสั้น

ขณะเดียวกัน ข้อมูลจาก Glassnode เผยว่า ปริมาณ “บิทคอยน์อุปทานที่ไม่เคลื่อนไหว” หรือ illiquid supply พุ่งแตะระดับสูงสุดที่ 14 ล้านเหรียญแล้ว นั่นหมายความว่า มีนักลงทุนรายใหญ่ที่เลือกจะ HODL ไม่ขาย ไม่เคลื่อนย้าย มากกว่าที่เคยเกิดขึ้นในประวัติศาสตร์