Metaplanet บริษัทญี่ปุ่นสายเทใจบิทคอยน์ จัดหนักอีกรอบซื้อ BTC เพิ่มอีก 1,241 เหรียญ รวมถือครองทะลุ 6,796 BTC แซงหน้าเอลซัลวาดอร์แบบไม่เห็นฝุ่น พร้อมปักธงลุยถึง 10,000 BTC ภายในสิ้นปี 2568 ขณะที่ยักษ์ใหญ่สหรัฐฯ อย่าง MicroStrategy ก็ไม่ยอมน้อยหน้า เข้าเก็บคอยน์เพิ่มอีกเกือบ 2,000 เหรียญ ด้าน Beat Holdings ไม่อยู่เฉย ซื้อ ETF BlackRock จนโกยกำไรเป็นล้าน
Metaplanet บริษัทลงทุนชื่อดังที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์โตเกียว โชว์ความมั่นใจในบิทคอยน์เต็มพิกัด ล่าสุดเทเงินกว่า 18,400 ล้านเยน (ราว 126 ล้านดอลลาร์) ซื้อ BTC เพิ่มอีก 1,241 เหรียญ ดันยอดถือครองรวมเป็น 6,796 BTC หรือกว่า 706 ล้านดอลลาร์ ณ ปัจจุบัน
ดีลครั้งนี้ทำให้ Metaplanet แซงหน้าเอลซัลวาดอร์ ซึ่งถือบิทคอยน์อยู่ที่ 6,174 BTC กลายเป็น “เจ้าบิทคอยน์ภาคเอกชน” รายใหญ่ที่สุดในเอเชีย และติดอันดับ 11 ของโลกในแง่การถือครองบิทคอยน์ของบริษัทมหาชน
Metaplanet เผยว่าซื้อครั้งล่าสุดในราคาสูงถึง 102,119 ดอลลาร์ต่อ BTC ซึ่งถือเป็นราคาซื้อเฉลี่ยที่แพงที่สุดนับตั้งแต่เริ่มต้นแผน Bitcoin Treasury Operations เมื่อเดือนเมษายน 2567 แต่บริษัทก็ยังมั่นใจในกลยุทธ์ระยะยาว โดยใช้ตัวชี้วัดเฉพาะที่เรียกว่า BTC Yield เพื่อประเมินผลตอบแทนเทียบกับมูลค่าหุ้นของบริษัท
ในไตรมาส 2 ปี 2568 นี้ เพียงแค่ผ่านไปไม่กี่เดือน Metaplanet ก็ทำ BTC Yield ได้แล้วถึง 38% โดยไตรมาสก่อนหน้าเคยทำได้ถึง 95.6% และในไตรมาส 4 ปี 2567 ทำสถิติพุ่งทะลุ 309.8%
เป้าหมายถัดไปของ Metaplanet คือการถือครอง BTC ให้ครบ 10,000 เหรียญภายในสิ้นปี 2568 โดยอ้างอิงโมเดลการสะสมของ Michael Saylor ผู้ก่อตั้ง MicroStrategy เจ้าพ่อ บิทคอยน์แห่งสหรัฐฯ ที่ปัจจุบันถือครอง BTC มากกว่า 555,000 เหรียญทั่วโลก
*Metaplanet Acquires Additional 1,241 $BTC* pic.twitter.com/zrJYzaZJq6— Metaplanet Inc. (@Metaplanet_JP) May 12, 2025
ขณะที่อีกหนึ่งบริษัทญี่ปุ่น Beat Holdings ก็ไม่ยอมน้อยหน้าโดยประกาศเมื่อสัปดาห์ก่อนว่าได้เพิ่มวงเงินลงทุนใน ETF ที่อิงกับบิทคอยน์จาก 6.8 ล้านดอลลาร์ เป็น 34 ล้านดอลลาร์ และได้ซื้อหน่วยลงทุน iShares Bitcoin Trust (IBIT) ของ BlackRock ไปแล้วกว่า 131,000 หน่วย สร้างกำไรที่ยังไม่ได้รับรู้กว่า 681,000 ดอลลาร์
อย่างไรก็ตามเพื่อระดมทุนซื้อ ETF เหล่านี้ Beat ได้เบิกเงินจากวงเงินสินเชื่อหมุนเวียนราว 2.8 ล้านดอลลาร์ และต้องจ่ายดอกเบี้ยราว 150,000 ดอลลาร์ภายในสิ้นปีนี้
ฟากฝั่งสหรัฐฯ MicroStrategy ของไมเคิล เซเลอร์ ก็ยังคงเดินหน้าลุยบิตคอยน์ต่อ ล่าสุดซื้อ BTC เพิ่มอีก 1,895 เหรียญ มูลค่ารวม 180 ล้านดอลลาร์ ทำให้ตอนนี้บริษัทถือครองบิตคอยน์มูลค่ารวมทะลุ 52,000 ล้านดอลลาร์ ย้ำชัดว่าบิทคอยน์คือสินทรัพย์สำรองขององค์กรระดับโลก
และยังไม่จบ! MicroStrategy ยังประกาศจะเพิ่มแผนระดมทุนจากเดิม 42,000 ล้านดอลลาร์ เป็น 84,000 ล้านดอลลาร์ โดยยื่นขอขายหุ้นสามัญเพิ่มเติมมูลค่า 21,000 ล้านดอลลาร์ และเตรียมออกตราสารหนี้เพิ่มอีก 21,000 ล้านดอลลาร์ รวมยังมีวงเงินอนุมัติเหลือให้ใช้ได้อีก 14,600 ล้านดอลลาร์
ในไตรมาสแรกของปีนี้ MicroStrategy เพิ่มการถือครองบิตคอยน์ขึ้นอีก 16.1% สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างไม่ลดละ แม้ตลาดยังผันผวน
อย่างไรก็ตามในส่วนของฝั่งรัฐบาลสหรัฐฯ กลับเลือกที่จะอยู่ข้างสนาม โดยอาร์เธอร์ เฮย์ ผู้ร่วมก่อตั้ง BitMEX ระบุว่า สหรัฐฯ ไม่น่าจะเพิ่มการถือครอง BTC ในเร็วๆ นี้ เนื่องจากกังวลเรื่องหนี้สาธารณะที่พุ่งสูง และภาพลักษณ์ทางวัฒนธรรมที่ยังเชื่อมโยงกับนักลงทุนนอกระบบกฏหมาย