xs
xsm
sm
md
lg

เบิร์นสไตน์มองแนวโน้มบิตคอยน์สดใส คาดสเตรทเตอจีจุดพลุลงทุน$3.3แสนล้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


เบิร์นสไตน์คาดบริษัทต่างๆ จะยอมรับและทุ่มลงทุนในบิตคอยน์มากขึ้น โดยมีสเตรทเตอจีเป็นผู้นำกระแส
นักวิเคราะห์ของเบิร์นสไตน์คาดบริษัทต่างๆ จะทุ่มทุนซื้อบิตคอยน์รวมมูลค่า 330,000 ล้านดอลลาร์ภายใน 5 ปี โดยมีสเตรทเตอจีของไมเคิล เซย์เลอร์ เป็นผู้นำ ขณะเดียวกัน ทิม เดรเปอร์ นักลงทุนชื่อดังเตือนหากแนวโน้มทางการเงินและความตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์ปัจจุบันยังคงอยู่ ความเชื่อมั่นในดอลลาร์จะยิ่งลดลง ส่งให้บีทีซีกลายเป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าไร้ขีดจำกัดเมื่อแปลงเป็นสกุลเงินสหรัฐฯ ในท้ายที่สุด

บิตคอยน์ (บีทีซี) ในวันนี้ไม่ใช่แค่สินทรัพย์เพื่อการเก็งกำไร แต่ดูเหมือนกลายเป็นตัวเลือกที่จริงจังมากขึ้นสำหรับการลงทุนของภาคธุรกิจ

สเตรทเตอจีของเซย์เลอร์ที่เป็นผู้สนับสนุนสำคัญของบิตคอยน์ ทั้งขายหุ้น ออกตราสารหนี้ และใช้กระแสเงินสดของบริษัทในการระดมทุนซื้อบีทีซี ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนการริเริ่มระยะยาว “21/21” ที่ล่าสุดเพิ่มเดิมพันอีกเท่าตัวเป็น 84,000 ล้านดอลลาร์ในแผนการใหม่ที่ชื่อว่า “42/42”

ในรายงานเมื่อวันที่ 5 พ.ค. เบิร์นสไตน์คาดว่า การที่สเตรทเตอจีทุ่มซื้อบิตคอยน์ถึง 124,000 ล้านดอลลาร์ ไม่เพียงส่งเสริมสถานะความโดดเด่นของบริษัทแห่งนี้ในแวดวงบิตคอยน์เท่านั้น แต่ยังเป็นการส่งสัญญาณไปยังบริษัทอื่นๆ เกี่ยวกับโอกาสจากกลยุทธ์นี้ โดยเบิร์นสไตน์ประเมินว่า บริษัทที่มีเงินสดสำรองเกิน 100 ล้านดอลลาร์และมีแนวโน้มการเติบโตจำกัดอาจเข้าซื้อบิตคอยน์รวมกันเป็นมูลค่า 190,000 ล้านดอลลาร์ และอีก 11,000 ล้านดอลลาร์อาจมาจากบริษัทขนาดเล็กที่มีการเติบโตสูงภายในปี 2026

การคาดการณ์แบบอนุรักษนิยมมากขึ้นยังบ่งชี้ว่า การจัดสรรเงินทุน 5,000 ล้านดอลลาร์จากบริษัทใหญ่เพียง 10 แห่งภายในปี 2027 อาจทำให้เกิดจุดเปลี่ยนในการยอมรับบิตคอยน์ในหมู่ธุรกิจกระแสหลัก

อย่างไรก็ตาม เบิร์นสไตน์ตั้งข้อสังเกตว่า โมเดลการลงทุนของสเตรทเตอจีไม่ใช่สิ่งที่ลอกเลียนแบบได้ง่ายๆ เนื่องจากความสำเร็จของบริษัทแห่งนี้ไม่ได้เกิดจากความเชื่อมั่นในบิตคอยน์เท่านั้น แต่ยังมาจากนวัตกรรมทางการเงินของบริษัท

แนวทางของสเตรทเตอจีได้ปรับเปลี่ยนขอบเขตด้านการเงินขององค์กรธุรกิจ ด้วยการพัฒนาและใช้โครงสร้างเงินทุนที่ซับซ้อนที่รวมถึงหุ้นกู้และหุ้นกู้แปลงสภาพที่ค้ำด้วยบิตคอยน์ สเตรทเตอจีได้สร้างโมเดลการเงินที่ธุรกิจส่วนใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจขนาดเล็กหรือธุรกิจดั้งเดิม ไม่สามารถเทียบเคียงได้

นับจากปี 2020 บริษัทแห่งนี้ซื้อบิตคอยน์แล้วกว่า 555,000 บีทีซี มูลค่าราว 38,000 ล้านดอลลาร์ หรือกว่า 2.6% ของซัปพลายบิตคอยน์ทั้งหมด การสะสมบีทีซีเชิงรุกนี้ส่งให้สเตรทเตอจีกลายเป็นหนึ่งในผู้ถือครองบิตคอยน์ประเภทสถาบันใหญ่ที่สุดในโลก

นอกจากนั้นการที่บริษัทจำนวนมากขึ้นยอมรับบิตคอยน์อาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เกี่ยวกับวิธีที่องค์กรธุรกิจจัดการงบดุล รายงานของเบิร์นสไตน์ชี้ว่า ในไม่ช้าบิตคอยน์อาจกลายเป็นส่วนปกติของงบดุลธุรกิจ ช่วยให้บริษัทต่างๆ ได้รับการปกป้องจากภาวะเงินเฟ้อ และกระจายพอร์ตการลงทุน รวมทั้งปรับโฉมการเงินขององค์กรธุรกิจครั้งสำคัญ

ขณะเดียวกัน ทิม เดรเปอร์ นักลงทุนในธุรกิจร่วมลงทุนที่โด่งดังจากการลงทุนบิตคอยน์ตั้งแต่ยุคแรกๆ คาดการณ์ว่า บิตคอยน์อาจกลายเป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าไร้ขีดจำกัดเมื่อแปลงเป็นดอลลาร์ หากแนวโน้มทางการเงินและความตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์ปัจจุบันยังคงอยู่

ดัชนีดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเป็นดัชนีชี้วัดมูลค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินหลัก 6 สกุล ได้แก่ ยูโร เยน ปอนด์สเตอร์ลิง ดอลลาร์แคนาดา โครนาสวีเดน และฟรังก์สวิสนั้น ประเดิมต้นปีนี้เลวร้ายที่สุดในรอบ 4 ทศวรรษ ซึ่งเดรปเปอร์เตือนว่า ถ้าความตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์รุนแรงขึ้นอย่างมาก ความเชื่อมั่นในดอลลาร์จะยิ่งลดลง ในทางกลับกัน บิตคอยน์จะมีสถานะเป็นสินทรัพย์ที่มีการจัดเก็บบันทึกอย่างเปิดกว้างและโปร่งใส รวมทั้งจัดเก็บง่ายดายขึ้น

ส่วนทองคำนั้น เดรเปอร์มองว่า อยู่คนละชั้นกับบิตคอยน์ เนื่องจากมีความท้าทายในการจัดเก็บและขนส่ง พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า ขณะนี้บิตคอยน์ได้รับการยอมรับจากภาครัฐมากขึ้น เห็นได้จากการที่รัฐบาลหลายประเทศเก็บบิตคอยน์ในคลังสำรองทางยุทธศาสตร์เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากสถานการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์

แม้บางคนแย้งว่า ความผันผวนบ่อนทำลายศักยภาพของคริปโตสกุลนี้ในการเป็นสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงที่เชื่อถือได้ แต่ยังมีอีกหลายคนเชื่อว่า ด้วยซัปพลายที่ตายตัวและเครือข่ายแบบกระจายศูนย์จะทำให้บิตคอยน์เป็นเครื่องมือสำคัญในการปกป้องนักลงทุนจากวิกฤตการณ์ในยุคดิจิทัล
กำลังโหลดความคิดเห็น