ผู้สมัครตัวเต็งชิงตำแหน่งผู้นำเกาหลีใต้ ประกาศหนุนสินทรัพย์ดิจิทัลเต็มสูบ หวังสร้างโอกาสใหม่ให้คนรุ่นใหม่ พร้อมยกระดับการลงทุนให้ปลอดภัยและถูกกฎหมายมากยิ่งขึ้น ขณะที่ทั้งสองขั้วการเมืองต่างแย่งชิงพื้นที่นโยบายคริปโต หวังช่วงชิงคะแนนเสียงจากประชากรยุคดิจิทัล
อี แจ-มยอง ผู้นำพรรคประชาธิปไตยของเกาหลีใต้ และผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีคนสำคัญ ได้ประกาศเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคมว่า หากได้รับเลือก เขาจะผลักดันให้เกาหลีใต้กลายเป็นประเทศที่เป็นมิตรต่อสินทรัพย์ดิจิทัล พร้อมอนุญาตให้มีการซื้อขายกองทุน ETF ที่อ้างอิงกับคริปโตอย่างถูกกฎหมาย
โดยคำมั่นนี้เป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์หาเสียงที่มุ่งเน้นกลุ่มผู้มีสิทธิเลือกตั้งรุ่นใหม่ ซึ่งกำลังมองหาโอกาสสร้างความมั่งคั่งในสภาวะเศรษฐกิจโลกที่ไม่แน่นอน โดยอี แจ-มยองให้คำมั่นว่าจะ “สร้างสภาพแวดล้อมการลงทุนที่ปลอดภัย เพื่อให้คนรุ่นใหม่สามารถสร้างสินทรัพย์และวางแผนสำหรับอนาคตได้” ตามรายงานของ Korea Economic Daily (KED)
ด้านนโยบายคริปโตของอี แจ-มยอง ประกอบด้วยการทำให้ ETF สกุลเงินดิจิทัลถูกต้องตามกฎหมาย ลดค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรม และออกมาตรการคุ้มครองผู้บริโภคเพิ่มเติม ทั้งนี้ พรรคของเขามีคะแนนนิยมสูงถึง 42% จากผลสำรวจของ National Barometer Survey ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 24–30 เมษายน นำหน้าคู่แข่งสำคัญอย่างนายกรัฐมนตรีรักษาการ ฮัน ดั๊กซู ซึ่งมีคะแนนนิยมเพียง 13%
อย่างไรก็ดีนี่ถือเป็นครั้งแรกที่อี แจ-มยอง กล่าวถึงนโยบายเกี่ยวกับคริปโตอย่างเปิดเผยในช่วงการหาเสียงเลือกตั้ง แม้ว่าพรรคประชาธิปไตยจะเคยผลักดันนโยบายด้านสินทรัพย์ดิจิทัลมาก่อน โดยเฉพาะในแคมเปญเลือกตั้งทั่วไปปี 2567 ที่มีข้อเสนอให้ผ่านกฎหมายรองรับ ETF คริปโต แต่ความคืบหน้าของกฎหมายยังคงหยุดชะงัก
ในขณะเดียวกัน พรรคพลังประชาชน (PPP) ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลในปัจจุบัน ก็ได้เคลื่อนไหวอย่างแข็งขัน โดยให้คำมั่นว่าจะผลักดันกรอบกฎหมายคริปโตที่ชัดเจน รวมถึงยกเลิกกฎ “หนึ่งตลาด–หนึ่งธนาคาร” ที่จำกัดความสามารถของแพลตฟอร์มคริปโตในการจับคู่กับสถาบันการเงิน โดยกฎดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อป้องกันการฟอกเงิน โดยกำหนดให้การแลกเปลี่ยนคริปโตแต่ละแห่งต้องเชื่อมโยงกับธนาคารเพียงแห่งเดียวเท่านั้น แม้จะมีเจตนาดี แต่กลับสร้างแรงกดดันต่อการแข่งขันและนวัตกรรมในภาคธุรกิจคริปโตของเกาหลีใต้
ทัง้นี้ปัจจุบัน อุตสาหกรรมคาดว่ามีชาวเกาหลีใต้มากถึง 16 ล้านคน หรือคิดเป็น 31% ของประชากรทั้งประเทศที่สามารถเข้าถึงบัญชีสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งทำให้ประเด็นนี้กลายเป็นหนึ่งในหัวข้อสำคัญของการเลือกตั้ง
อย่างไรก็ดี พรรคพลังประชาชนกำลังเผชิญแรงสั่นสะเทือนจากความไม่แน่นอนทางการเมือง หลังคิม มุนซู ได้รับการเสนอชื่อเป็นผู้สมัครคนใหม่แทนอดีตผู้นำ ยุน ซอก ยอล ที่เพิ่งถูกศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยถอดถอนจากตำแหน่งด้วยมติเอกฉันท์ 8 ต่อ 0 ภายหลังประกาศกฎอัยการศึกเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา
นอกจากนี้เหตุการณ์ดังกล่าวส่งแรงสั่นสะเทือนต่อราคาคริปโตอย่างมีนัยสำคัญ โดย บิทคอยน์และเหรียญอื่น ๆ ร่วงลงอย่างฉับพลัน ก่อนที่จะฟื้นตัวกลับมาเมื่อกฎอัยการศึกถูกยกเลิกภายใน 6 ชั่วโมงหลังประกาศ
ในขณะที่เกาหลีใต้กำลังเดินหน้าเข้าสู่การเลือกตั้งประธานาธิบดีในเดือนมิถุนายนนี้ นโยบายคริปโตได้กลายเป็นเวทีใหม่ในการชิงพื้นที่ทางการเมือง ท่ามกลางความคาดหวังของประชากรรุ่นใหม่ที่ต้องการมองเห็นผู้นำที่เข้าใจการเปลี่ยนแปลงของโลกการเงินยุคดิจิทัล