ราคาของเหรียญมีม Trump Coin เริ่มสะดุดหนัก หลังนักลงทุนเทขายกว่า 800 ล้านดอลลาร์ในช่วงต้นสัปดาห์ กระแสความไม่มั่นใจเพิ่มขึ้นหลังพรรคเดโมแครตเดินเกมสกัดกฎหมาย Stablecoin ขณะที่ครอบครัวทรัมป์ถูกตั้งข้อสงสัยว่าหาผลประโยชน์จากโครงการคริปโต
ตามข้อมูลจาก CoinMarketCap ระบุว่าเหรียญ Trump Coin (TRUMP) เหรียญมีมชื่อดังที่ผูกโยงกับภาพลักษณ์ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เริ่มแสดงสัญญาณขาลงอย่างชัดเจน โดยราคาล่าสุดอยู่ที่ราว 11 ดอลลาร์ต่อโทเค็น ลดลงราว 5% จากจุดสูงสุดช่วงเช้าวันจันทร์ที่ผ่านมา ส่งผลให้มูลค่าตลาดรวมอยู่ที่ประมาณ 2.2 พันล้านดอลลาร์
อย่างไรก็ตามแม้จะดูไม่มากนัก แต่ความน่ากังวลอยู่ที่ตัวเลขปริมาณการซื้อขายภายใน 24 ชั่วโมงที่พุ่งทะลุ 800 ล้านดอลลาร์ ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่าเป็นสัญญาณของกลุ่มนักลงทุนรายใหญ่ กำลังเคลื่อนย้ายทุนออกจากเหรียญมีมตัวนี้อย่างเงียบ ๆ
หนึ่งในแรงกดดันสำคัญคือการเคลื่อนไหวทางการเมืองในสหรัฐ เมื่อวุฒิสมาชิกจากพรรคเดโมแครตเริ่มรวมตัวกันคัดค้านร่างกฎหมาย Stablecoin ที่คาดว่าจะส่งผลดีต่อโครงการ USD1 ซึ่งเชื่อมโยงกับครอบครัวทรัมป์โดยตรง
ขณะที่ USD1 ซึ่งเป็นสเตเบิลคอยน์ที่ออกโดย World Liberty Financial ซึ่งถูกจับตามองว่าเป็นโครงการคริปโตที่เชื่อมโยงกับตระกูลทรัมป์อย่างมีนัยสำคัญ มูลค่าตลาดของเหรียญนี้เพิ่งทะลุ 2 พันล้านดอลลาร์ในช่วงที่ผ่านมา ท่ามกลางข้อครหาว่าเป็น “ดีลลับ” ระหว่างครอบครัวทรัมป์และนักลงทุนจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
นอกจากนี้วุฒิสมาชิก Elizabeth Warren ซึ่งเป็นนักวิจารณ์ตัวกลั่นของวงการคริปโต ถึงกับออกมาเรียกโครงการนี้ว่า “ข้อตกลงที่ไม่โปร่งใส” และชี้ว่าอาจเปิดช่องให้ตระกูลทรัมป์หาผลประโยชน์ส่วนตัวจากนโยบายการเงินของประเทศ
สถานการณ์ร้อนแรงยิ่งขึ้นเมื่อประธานาธิบดีทรัมป์เคยประกาศในช่วงปลายเดือนเมษายนว่า ผู้ถือ TRUMP Coin 220 อันดับแรกจะได้รับสิทธิเข้าร่วมงานเลี้ยงส่วนตัวกับเขา สร้างกระแสหวือหวาและคำถามถึงความเหมาะสม
แม้ในบทสัมภาษณ์ล่าสุดกับ NBC ทรัมป์จะปฏิเสธเสียงแข็งว่าเขาไม่ได้แสวงหากำไรเกินควรจากตำแหน่ง แต่เสียงวิจารณ์จากฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองเริ่มดังขึ้นเรื่อย ๆ ว่าเขาและครอบครัวกำลังใช้ตำแหน่งทางการเมืองเพื่อขับเคลื่อนผลประโยชน์ในโลกคริปโต
อย่างไรก็ตาม แม้ราคา TRUMP จะลดลงจากจุดสูงสุด แต่ยังถือว่าเพิ่มขึ้นกว่า 50% จากจุดต่ำสุดในช่วงต้นเดือนเมษายน ซึ่งอยู่ที่ราว 7 ดอลลาร์ ทำให้เกิดคำถามสำคัญว่านี่คือจังหวะซื้อหรือสัญญาณหนี?
ทรัมป์คอยน์จะร่วงอีก? นักวิเคราะห์เตือนฤดูกาลเหรียญมีมอาจหมดเสน่ห์
นักวิเคราะห์มองว่าเศรษฐกิจมหภาคขณะนี้ยังไม่เอื้ออำนวย ขณะที่เฟดจ่อใช้ท่าทีเข้ม เสี่ยงบีบความต้องการลงทุนในคริปโต นักวิเคราะห์ชี้เหรียญ TRUMP อาจอ่อนตัวลงต่อท่ามกลางกระแสต่อต้านเชิงนโยบาย
ท่ามกลางความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจสหรัฐ ตลาดยังเฝ้ารอการประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (FOMC) ในสัปดาห์นี้ ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่าเฟดอาจส่งสัญญาณคุมเข้มนโยบายต่อไป ซึ่งทำให้ภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันกำลังเผชิญความเสี่ยง 2 ด้าน ทั้งเงินเฟ้อที่อาจเร่งตัวจากภาษีศุลกากรและปัญหาห่วงโซ่อุปทาน ขณะที่อีกด้านคือความเสี่ยงต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ ซึ่งกำลังชะลอตัวเช่นกัน
อย่างไรก็ดีนี่คือสภาพแวดล้อมที่ท้าทายอย่างยิ่งสำหรับทั้งเฟดและนักลงทุน โดยเฉพาะกลุ่มที่เก็งกำไรในเหรียญมีมซึ่งต้องพึ่งพาความคึกคักและความเชื่อมั่นของนักลงทุนเป็นหลัก ทำให้นักวิเคราะห์บางรายถึงกับชี้ว่า ราคาของ TRUMP มีแนวโน้มจะปรับฐานต่อในช่วงสัปดาห์และเดือนข้างหน้า มากกว่าที่จะทะยานขึ้นใหม่อีกครั้ง
แม้จะยังไม่สามารถตัดโอกาสที่ทรัมป์หรือคนใกล้ชิดจะออกมา "ปั่น" ราคา TRUMP ได้ในอนาคต เหมือนที่เคยเกิดขึ้นเมื่อเดือนก่อนซึ่งราคาพุ่งกว่า 75% ในวันเดียว หลังมีข่าวว่าอดีตประธานาธิบดีเตรียมเปิดร้านอาหารร่วมกับผู้ถือเหรียญ แต่ความเสี่ยงที่ซ่อนอยู่ก็มากขึ้นเรื่อยๆ เช่นกัน
SUBBD เหรียญใหม่มาแรง สร้างคลื่นลูกใหม่ในวงการคริปโตผู้สร้าง
ในขณะที่ Trump Coin เผชิญแรงกดดัน SUBBD กลายเป็นม้ามืดในตลาดคริปโต ดึงดูดนักลงทุนด้วยเทคโนโลยี AI สนับสนุนครีเอเตอร์ พร้อมรางวัล Staking สูงถึง 20% ต่อปี
กระแสความนิยมเริ่มเทไปหา SUBBD โทเคนใหม่ที่กำลังจุดกระแสในโลก Web3 ด้วยจุดขายที่ชัดเจน เน้นสนับสนุนเศรษฐกิจของผู้สร้างคอนเทนต์ มูลค่ากว่า 85,000 ล้านดอลลาร์ ด้วยแพลตฟอร์มสมัครสมาชิกที่ขับเคลื่อนด้วย AI
อย่างไรก็ดีแม้จะอยู่ในช่วงขายล่วงหน้า (presale) ที่ราคาเพียง 0.0553 ดอลลาร์ต่อเหรียญ แต่ SUBBD ก็สามารถระดมทุนได้แล้วถึง 300,000 ดอลลาร์ในเวลาอันสั้น สะท้อนความมั่นใจของนักลงทุนที่เชื่อในโมเดลธุรกิจของโครงการนี้
ขณะที่แพลตฟอร์มของ SUBBD ใช้ AI เพื่อยกระดับการสร้างเนื้อหา มอบประสบการณ์เฉพาะตัวให้กับผู้ติดตาม ด้วยระบบโทเคน เนื้อหาสุดเอ็กซ์คลูซีฟ และรางวัล staking สูงถึง 20% APY อีกทั้งยังมีโมเดล “ซื้อคืนและเผา” เพื่อจำกัดจำนวนเหรียญในระบบ
ทั้งนี้ด้วยฐานผู้ติดตามบนโซเชียลมากกว่า 250 ล้านครั้ง SUBBD ได้รับการคาดหมายว่าจะกลายเป็น "Hidden Gem" ของปีนี้ โดยนักวิเคราะห์บางรายคาดว่าราคาจะพุ่ง 5.5 เท่าแตะ 0.301 ดอลลาร์ภายในสิ้นปี และบางสำนักถึงกับประเมินว่าจะทะยาน 100 เท่าหลังเปิดตัวในตลาด