xs
xsm
sm
md
lg

eToro เล็งเข้าเทรด IPO ใน Nasdaq ตั้งเป้ามูลค่า 4 พันล้านดอลลาร์ ดันธุรกิจคริปโตสู่ตลาดทุนสหรัฐฯ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



แพลตฟอร์มเทรดหุ้นและคริปโตชื่อดังจากอิสราเอล ยื่นแผนเสนอขายหุ้น IPO บน Nasdaq พร้อมดึงทุน 500 ล้านดอลลาร์ เสริมแกร่งการขยายธุรกิจในสหรัฐฯ ท่ามกลางความชัดเจนของกฎระเบียบคริปโต และแรงดันจากคู่แข่งอย่าง Robinhood

แพลตฟอร์มซื้อขายหุ้นและสินทรัพย์ดิจิทัล eToro เตรียมยื่นเสนอขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) บนตลาด Nasdaq Global Select Market โดยมีเป้าหมายระดมทุนสูงสุดถึง 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 18,000 ล้านบาท และประเมินมูลค่าบริษัทไว้สูงถึง 4 พันล้านดอลลาร์

จากเอกสารที่ยื่นต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ (SEC) เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคมที่ผ่านมา eToro มีแผนเสนอขายหุ้นรวม 10 ล้านหุ้น ในช่วงราคา 46–50 ดอลลาร์ต่อหุ้น โดยแบ่งเป็นหุ้นใหม่จากบริษัท 5 ล้านหุ้น และอีกครึ่งหนึ่งมาจากผู้ถือหุ้นเดิม

ผู้ถือหุ้นรายเดิมที่ร่วมขายหุ้นใน IPO นี้ ได้แก่ Yoni Assia ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของบริษัท พร้อมด้วยน้องชาย Ronen Assia และกลุ่มนักลงทุนรายใหญ่ อาทิ Spark Capital, BRM Group และ Andalusian Private Capital

ในเอกสารระบุว่า ยักษ์ใหญ่อย่าง BlackRock แสดงความสนใจเข้าซื้อหุ้นมูลค่าสูงถึง 100 ล้านดอลลาร์ในการ IPO ครั้งนี้ ขณะที่หุ้นจำนวน 500,000 หุ้นถูกกันไว้สำหรับโครงการหุ้นเป้าหมาย ซึ่งเน้นมอบให้พนักงานและพันธมิตรยุคแรกของบริษัท

อย่างไรก็ดีแม้ตลาดคริปโตจะยังผันผวน แต่ eToro ยังคงเห็นโอกาสโต โดยระบุว่าธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับคริปโตสร้างรายได้รวมในปี 2567 ถึง 12.1 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจาก 3.4 พันล้านดอลลาร์ในปี 2566 อย่างไรก็ตาม คาดว่ารายได้จากคริปโตจะคิดเป็นสัดส่วนค่าคอมมิชชันรวมที่ลดลงเล็กน้อยในไตรมาสแรกปี 2568

นอกจากนี้ eToro ยังวางตัวเป็นคู่แข่งรายสำคัญของ Robinhood โดยเน้นจุดขายที่ค่าคอมมิชชันต่ำและอินเทอร์เฟซใช้งานง่าย อย่างไรก็ตาม บริษัทก็ยอมรับว่าการเติบโตยังต้องเผชิญอุปสรรคหลายด้าน ทั้งแรงต้านจากกฎระเบียบในสหรัฐ และค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นจากข้อบังคับของสหภาพยุโรปภายใต้กฎ MiCA

ที่น่าสนใจคือ การยื่น IPO ครั้งนี้ eToro เคยดำเนินการแบบลับเมื่อเดือนมกราคม ก่อนจะเปิดแผนต่อสาธารณะในเดือนมีนาคม แต่กระบวนการต้องชะงักชั่วคราวหลังตลาดผันผวนอย่างหนักจากนโยบายการค้าของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เมื่อวันที่ 2 เมษายน ส่งผลให้หลายบริษัทเลื่อนการจดทะเบียนออกไป

ขณะที่กระแส IPO ไม่ได้หยุดอยู่ที่ eToro เท่านั้น บริษัทด้านคริปโตชื่อดังอื่น ๆ อย่าง Circle และ Kraken ต่างกำลังจับตาโอกาสเข้าสู่ตลาดทุนด้วยเช่นกัน ซึ่งสะท้อนการเคลื่อนไหวเชิงกลยุทธ์ของอุตสาหกรรมในช่วงที่แนวโน้มกฎระเบียบมีความชัดเจนมากขึ้น

ขณะที่หลังจาก พอล แอตกินส์ ได้เข้ารับตำแหน่งประธานคณะกรรมการ ก.ล.ต. สหรัฐ (SEC) ซึ่งนับเป็นข่าวดีสำหรับวงการคริปโต เพราะภายใต้การนำของเขา SEC ได้ยกเลิกคดีความสำคัญหลายกรณี เช่น การฟ้องร้อง Coinbase, Cumberland DRW และปิดการสืบสวน Uniswap Labs ไปโดยไม่มีการดำเนินคดี

ท่ามกลางสัญญาณบวกนี้ eToro จึงเดินเกมรุกเต็มที่ เตรียม IPO ภายใต้ความร่วมมือกับธนาคารชั้นนำอย่าง Goldman Sachs, Jefferies, UBS Investment Bank และ Citigroup