xs
xsm
sm
md
lg

ตลาดหุ้นไทยผลงานแย่ที่สุดในโลก รอความคาดหวังข้อตกลงการค้า

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



บล.กสิกรไทย หุ้นไทยผลงานแย่ที่สุดในโลก ตลาดรอความคาดหวังข้อตกลงการค้า เนื่องจากรัฐบาลไทยพยายามเร่งเจรจากับสหรัฐฯ เพื่อหลีกเลี่ยงการเพิ่มภาษีนำเข้าหลังจากสิ้นสุดช่วงผ่อนผัน 90 วัน ลุ้นกองทุน Thai ESGX เม็ดเงินใหม่จะไหลเข้า 1.0-1.50 หมื่นล้านบาท หนุน SET Index ปรับตัวขึ้น 20-30 จุด


บล.กสิกรไทย เปิดเผยวา "ตลาดหุ้นทั่วโลก"ในเดือน เม.ย. มีความผันผวนอย่างรุนแรง แต่ตลาดพลิกฟื้นตัวขึ้นแรงหลังทรัมป์ประกาศผ่อนผันมาตรการดังกล่าวเป็นเวลา 90 วัน ส่งผลให้ SET ปรับตัวขึ้น 3.4% ในเดือน เม.ย. ซึ่งดีกว่าดัชนีอ้างอิงตลาดหุ้นโลกที่ปรับตัวขึ้น 0.8% ในเดือนนั้น

อย่างไรก็ตาม SET Index ยังคงเป็นหนึ่งในดัชนีที่ทำผลงานแย่ที่สุดในโลก โดยปรับตัวลงอย่างมากถึง 14.5% YTD ไม่เพียงแต่เพราะความกังวลเกี่ยวกับภาษีศุลกากรของทรัมป์เท่านั้น แต่ยังรวมถึงกระแสเงินทุนที่ไหลออกจากกองทุน LTF ในช่วงต้นปีนี้อีกด้วย

ทั้งนี้ ทรัมป์กำหนดมาตรการภาษีนำเข้าขั้นต่ำ ต่อคู่ค้าของสหรัฐฯ ทั้งหมดในอัตรา 10% ในเดือน เม.ย. และมีแผนที่จะบังคับใช้ภาษีศุลกากรตอบโต้ในช่วงต้นเดือน ก.ค. หลังจากประกาศผ่อนผันมาตรการดังกล่าวเป็นเวลา 90 วัน ส่งผลให้เศรษฐกิจไทยที่คาดว่าจะขยายตัวราว 2.5-3.0% ในครึ่งแรกของปี 2568 อาจชะลอตัวลงเหลือ 1% หรือต่ำกว่าในครึ่งหลังของปี 2568 เนื่องจากได้รับผลกระทบจากมาตรการภาษีของสหรัฐฯ และไม่มีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่ อย่างไรก็ตาม ตลาดหวังเห็นข้อตกลงทางการค้า เนื่องจากรัฐบาลไทยพยายามเร่งเจรจากับสหรัฐฯ เพื่อหลีกเลี่ยงการเพิ่มภาษีนำเข้าหลังจากสิ้นสุดช่วงผ่อนผัน 90 วัน

อย่างไรก็ตาม กองทุน Thai ESGX ใหม่เสนอขายหุ้น IPO ในวันที่ 2-8 พ.ค. โดยผู้ลงทุนสามารถซื้อกองทุนใหม่เพื่อรับสิทธิประโยชนทางภาษีได้ตั้งแต่วันที่ 2 พ.ค. ถึง 30 มิ.ย. เราคาดว่าเม็ดเงินใหม่จะไหลเข้าตลาดจากกองทุนดังกล่าว โดยประเมินจะอยู่ที่ราว 1.0-1.50 หมื่นล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะจัดสรรให้กับหุ้นไทยเป็นมูลค่า 6.50 พันล้านบาท -1 หมื่นล้านบาท ซึ่งเราประเมินว่าเม็ดเงินดังกล่าวอาจช่วยหนุน SET Index ให้ปรับตัวขึ้น 20-30 จุด
นอกจากนี้ รัฐบาลกำลังพิจารณาปรับเพิ่มเพดานหนี้สาธารณะจากปัจจุบันที่ 70% ต่อ GDP เพื่อให้มีพื้นที่ทางนโยบายสำหรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อรับมือกับ downside risk จากมาตรการภาษีของสหรัฐฯ

โดยมุมมองของเรามองว่า บรรยากาศการลงทุนเอียงไปในทางบวกบนความหวังเห็นข้อตกลงการค้า คงเป้า SET Index ปี 2568 ไว้ตามเดิมที่ 1,145 จุด เนื่องจากปัจจัยเสี่ยงด้านนโยบายการค้าและภาษีนำเข้าของสหรัฐ รวมถึง upside ต่อการประเมินมูลค่าหุ้นที่จำกัด เราจึงยังคงมุมมองที่ระมัดระวังต่อตลาดหุ้นไทย

อย่างไรก็ดี ในระยะสั้นปัจจัยเสี่ยงเชิงลบดูเริ่มจำกัด ข่าวร้ายส่วนใหญ่รับรู้ในราคาหุ้นแล้ว และยังไม่มีปัจจัยเชิงลบใหม่ๆ ที่ชัดเจนเข้ามาเพิ่มเติม นอกจากนี้ นักลงทุนเริ่มให้ความสำคัญกับความคืบหน้าที่อาจเกิดขึ้นในการเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ, การปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพิ่มเติมของ ธปท., มาตรการกระตุ้นทางการคลังในครึ่งหลังปี 2568, และเม็ดเงินลงทุนใหม่จากกองทุน Thai ESGX

ดังนั้น บรรยากาศการลงทุนเชื่อเอียงไปทางบวกต่อเนื่องได้ในเดือนพ.ค. โดยเราคาดว่า SET Index จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,145-1,275 จุด ในเดือน พ.ค. โดยได้รับแรงหนุนจากหลายปัจจัยบวกที่อาจผลักดันให้ SET Index ขึ้นไปทดสอบระดับ 1,275 จุด หรือเทียบเท่า -0.5SD ของ PE band ในระยะยาว

หุ้นเด่นในเดือน พ.ค.เราชอบหุ้นในกลุ่มธุรกิจที่เน้นพึ่งอุปสงค์ภายในประเทศ, มีความผันผวนต่ำ, และมีศักยภาพที่จะได้รับประโยชน์จากข้อตกลงทางการค้าอย่าง CPALL, GPSC, PR9, SCGP, และ AMATA


กำลังโหลดความคิดเห็น