xs
xsm
sm
md
lg

ไอแบงก์โชว์ปี67รายได้เพิ่ม21%-เดินหน้า4กลยุทธเสริมแกร่ง-เร่งปรับโครงสร้างหนี้,

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นายทวีลาภ ฤทธาภิรมย์ กรรมการและผู้จัดการธนาคาร ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ไอแบงก์) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานประจำปี 2567 พร้อมชี้แจงรายละเอียดทางการเงินตามงบการเงินและหมายเหตุประกอบงบการเงิน สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2567 ในการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ว่า ธนาคารมีผลการดำเนินงานเติบโตอย่างโดดเด่น โดยมีรายได้ทางการเงินรวม 3,396 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 21 เมื่อเทียบกับปี 2566 โดยธนาคารมีกำไรจากการดำเนินงาน จำนวน 482 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 234 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 94 ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจในปี 2567 ที่ยังขยายตัวได้ไม่เต็มที่และภาวะหนี้ครัวเรือนที่ยังอยู่ในระดับสูง แต่ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจในการดำเนินงานตามพันธกิจ ทำให้ธนาคารมีการขยายสินเชื่อได้ในระดับที่สอดคล้องกับระบบสถาบันการเงิน
พร้อมกันนั้น ธนาคารได้ช่วยเหลือลูกหนี้กลุ่มเปราะบางอย่างทันท่วงที ทำให้ธนาคารสามารถควบคุมคุณภาพสินเชื่อได้ ส่งผลให้ภาระการตั้งสำรองหนี้รองรับหนี้ด้อยคุณภาพลดลง ธนาคารมีอัตราส่วนการกันสำรองเพื่อรองรับหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPF Coverage Ratio) เกินกว่าร้อยละ 100 ซึ่งดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับปีก่อน

ทั้งนี้ ตลอดปี 2567 ที่ผ่านมา ไอแบงก์ได้ดำเนินกลยุทธ์ 4 แกนหลัก ได้แก่ แผนยุทธศาสตร์ด้านธุรกิจ เน้นการเติบโตอย่างยั่งยืนของพอร์ตสินเชื่อและสนับสนุนผู้ประกอบการ SMEs พร้อมบริหารจัดการหนี้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะการช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติ ,แผนยุทธศาสตร์ด้านพันธกิจ โดยการขยายฐานลูกค้าเงินฝาก โดยเฉพาะเงินฝากอัลฮัจย์และอุมเราะห์ ซึ่งเติบโตกว่า 4 เท่า พร้อมยกระดับการบริการดิจิทัลผ่าน ibank Application โมบายแบงก์กิ้งไอแบงก์ที่ให้บริการตามหลักชะรีอะฮ์บนแอปพลิเคชันเป๋าตัง ในระยะที่ 2 ซึ่งมีจำนวนธุรกรรมทั้งสิ้นกว่า 2.4 ล้านรายการ และเปิดบริการ Virtual Teller Machine (VTM) แทน ATM เพื่อความทันสมัยและประสิทธิภาพสูงสุด

ด้านแผนยุทธศาสตร์ด้านองค์กร ไอแบงก์มุ่งพัฒนาศักยภาพบุคลากรให้พร้อมรับการเปลี่ยนแปลง และขับเคลื่อนองค์กรตามหลัก ESG โดยในปี 2567 ธนาคารได้รับคะแนนประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสของหน่วยงานภาครัฐสูงถึง 95.59 คะแนน และแผนทิศทางองค์กรในอนาคต มุ่งส่งเสริมความเข้าใจในหลักการเงินอิสลามและหลักชะรีอะฮ์ในกลุ่มคนรุ่นใหม่ รวมทั้งการสรรหาพันธมิตรทางธุรกิจที่มีความเข้มแข็ง เพื่อเสริมสร้างความยั่งยืนและความแข็งแกร่งในการดำเนินธุรกิจในอนาคต
นอกจากนี้ ธนาคารได้ออกแคมเปญ “ไอแบงก์..เรา..ไม่ทิ้งกัน” เพื่อช่วยเหลือลูกหนี้กลุ่มเปราะบาง ลูกหนี้ที่มีรายได้ฟื้นตัวไม่เต็มที่ สร้างโอกาสให้ก้าวต่อ สานต่อจากมาตรการของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) โดยปรับลดอัตรากำไรสินเชื่อลง 0.20% ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงเหลือ 1.75% ในวันที่ 30 เมษายน 2568 โดยธนาคารได้ส่ง SMS ให้กับลูกค้าที่เข้าเกณฑ์มาตรการดังกล่าวแล้ว ซึ่งลูกค้าที่ได้รับ SMS และสนใจเข้าร่วม สามารถลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม - 30 มิถุนายน 2568
กำลังโหลดความคิดเห็น