ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) เปิดปฏิบัติการไล่ล่าขบวนการหลอกลงทุนผ่านแพลตฟอร์มคริปโตปลอม “FOX Wallet” ภายใต้ชื่อปฏิบัติการ “FOX Hunt” รวบผู้ต้องหาได้ยกแก๊ง 8 ราย ทั้งชาวจีนและคนไทย ตรวจยึดทรัพย์สินรวมมูลค่ากว่า 3 ล้านบาท เบื้องหลังใช้ Tiktok ลวงเหยื่อด้วยภาพลักษณ์หรูหรา อ้างเป็นนักเทรด ก่อนดูดเงินลงทุนผ่านวอลเลตปลอม สุดท้ายเหยื่อถอนไม่ได้ สูญเงินกว่า 1.8 ล้านบาท
ตำรวจสอบสวนกลาง โดยกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. และคณะผู้บังคับบัญชา ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.ณรงค์ฤทธิ์ พุ่มพวง สว.กก.3 บก.ปอท. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนลงพื้นที่ในหลายจังหวัด ได้แก่ นนทบุรี เชียงใหม่ พะเยา และเชียงราย เพื่อติดตามจับกุมกลุ่มผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องกับขบวนการหลอกลวงให้ประชาชนลงทุนผ่านแพลตฟอร์มปลอม FOX Wallet
จากการสืบสวนพบว่าขบวนการดังกล่าวใช้โซเชียลมีเดียอย่าง Tiktok เป็นช่องทางล่อเหยื่อ โดยสร้างโปรไฟล์ปลอมเป็นนักเทรดสกุลเงินดิจิทัล โชว์ไลฟ์สไตล์หรูหราเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ ก่อนติดต่อผ่านแอปฯ LINE แล้วชักชวนให้ร่วมลงทุนในแพลตฟอร์มคริปโตฯ ที่อ้างว่าสามารถถอนเงินได้จริงในช่วงแรก พร้อมรับผลตอบแทน 10-20%
เมื่อเหยื่อเริ่มหลงเชื่อ กลับถูกล่อให้เพิ่มเงินลงทุนเพื่อให้ได้ผลตอบแทนสูงถึง 30-50% แต่เมื่อโอนเงินเพิ่มแล้ว กลับไม่สามารถถอนเงินได้อีก แม้พยายามติดต่อแอดมิน ก็ถูกเรียกให้โอนเงินเพิ่มอ้างว่าเพื่อ "ปลดล็อกยอดเงิน" จนเงินเหยื่อหมดตัว สุดท้ายจึงรู้ตัวว่าถูกหลอก และเข้าแจ้งความกับ บก.ปอท. รวมความเสียหายกว่า 1.8 ล้านบาท
เจ้าหน้าที่สืบสวนพบหลักฐานว่ามีการโอนเงินไปยัง “บัญชีม้า” จำนวนมาก ก่อนนำไปฟอกเงินต่อด้วยหลายวิธี ทั้งการกดเงินสดผ่านตู้ ATM, การฟอกผ่านวอลเลตคริปโต และนำไปซื้อรถยนต์หรูเป็นทรัพย์สินลวงตา
ศาลได้อนุมัติหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 8 ราย ได้แก่
1. นายหวัง (สัญชาติจีน) อายุ 45 ปี – ผู้รับผลประโยชน์รายใหญ่
2. นายอภิสิทธิ์ อายุ 22 ปี – หน้าที่หาบัญชีม้าและถอนเงิน
3. นายสราวุธ อายุ 19 ปี – หน้าที่กดเงินสด
4. นายปฏิภาณ อายุ 32 ปี – หน้าที่กดเงินส่งให้ชาวลาว
5. นายชนินทร์ อายุ 39 ปี – บัญชีม้า
6. นายจำรัส อายุ 52 ปี – บัญชีม้า
7. นางกาญจนี อายุ 62 ปี – บัญชีม้า
8. นางไพรรินทร์ อายุ 48 ปี – บัญชีม้า
ขณะที่ของกลางที่ตรวจยึดได้ประกอบด้วยรถยนต์ 2 คัน มูลค่ารวมกว่า 2 ล้านบาท จับกุมได้จากหลากหลายพื้นที่ทั้งบ้านพักและโรงแรมที่พักของผู้ต้องหา
จากการสอบสวนเบื้องต้น นายหวัง ชาวจีน ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา โดยอ้างว่ารถยนต์ที่ครอบครองได้มาจากเงินของเพื่อนที่โอนมาให้
ขณะที่นายอภิสิทธิ์ รับสารภาพว่าได้รับค่าจ้างวันละ 2,000 บาท เพื่อหาบัญชีม้าและโอนเงินผ่านวอลเลต
ส่วนนายปฏิภาณ และ นายสราวุธ ให้การรับสารภาพว่าถูกว่าจ้างโดยชาวลาวให้กด ATM และส่งเงินข้ามแดนไปฝั่งลาว
ส่วนผู้ต้องหาบัญชีม้าทั้ง 4 ราย ยอมรับว่าเปิดบัญชีเพื่อรับโอนเงินจริง โดยได้รับค่าจ้างตั้งแต่ 2,000–10,000 บาทต่อบัญชี
โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ส่งตัวผู้ต้องหาทั้งหมดให้พนักงานสอบสวน กก.3 บก.ปอท. ดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมขยายผลหาตัวผู้ร่วมขบวนการที่ยังหลบหนี
สำหรับประชาชนที่อาจเคยหลงเชื่อหรือตกเป็นเหยื่อของแพลตฟอร์มลักษณะดังกล่าว สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ พ.ต.ท.ณรงค์ฤทธิ์ พุ่มพวง โทร. 090-985-5532