xs
xsm
sm
md
lg

10 หุ้นบิ๊กแคป สุดแกร่งฟื้นตัวแรงสุด จากจุด SET ต่ำสุดปี 68 (1,074 จุด)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



จากสถิติของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในปี 2568 นั้น ดัชนี SET ปิดสูงสุด 1,390.88 จุดในวันที่ 7 มกราคม 2568 และปิดต่ำสุด 1,074.59 ในวันที่ 8 เมษายน 2568 และล่าสุด 2พฤษภาคม 2568 ดัชนีSET ปิด1,198.98 จุด เพิ่มจากจุดต่ำสุดในปีนี้ 124.39 จุด ฉะนั้นพาไปส่อง SET100 ฟื้นตัวแรงสุด โดยเทียบจากวันที่ 8 เมษายน 2568 จนถึง วันที่ 2 พฤษภาคม 2568

1.DELTA บริษัทเดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) วัน SET ต่ำสุด 8 เม.ย.68 ปิด 59.50 บาท,วันที่ 2 พ.ค.68 ปิด 101.50 บาท เพิ่มขึ้น 42.00 บาท หรือ +70.59%,ผลตอบแทนราคาตั้งแต่ต้นปี 68 คือ -33.44%,ราคาหุ้นสูงสุด/ต่ำสุดรอบ52สัปดาห์ 173.50/51.25บาท,ค่า P/E 60.76 เท่า,ปันผล YTD ปี 68 คือ 0.47%

DELTA กำไรสุทธิไตรมาส 1/68 เท่ากับ 5,488 ล้านบาท เติบโตสูงร้อยละ 27.4 จากปีก่อน คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิร้อยละ 12.8 และกำไรสุทธิต่อหุ้น 0.44บาท เทียบกับ 0.35 บาทต่อหุ้นในไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ส่วนยอดขายสินค้าและบริการในไตรมาสนี้ อยู่ที่ 42,736 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.5 จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนและปรับตัวดีขึ้นร้อยละ 2.4 จากไตรมาสที่แล้ว

2.EA บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) วัน SET ต่ำสุด 8 เม.ย.68 ปิด 1.80 บาท,วันที่ 2 พ.ค.68 ปิด 2.60 บาท เพิ่มขึ้น 0.80 บาท หรือ +44.44%,ผลตอบแทนราคาตั้งแต่ต้นปี 68 คือ -34.34%,ราคาหุ้นสูงสุด/ต่ำสุดรอบ52สัปดาห์ 22.27/1.73บาท,ค่า P/E -เท่า,ปันผล YTD ปี 68 คือ -%

EA ได้รับการจัดอันดับด้านความยั่งยืน สิ่งแวดล้อม สังคมและธรรมาภิบาล (ESG) จากสถาบัน MSCI ESG Research หน่วยงานที่มีความเชี่ยวชาญและความน่าเชื่อถือในด้านดัชนีความยั่งยืนระดับนานาชาติ โดยได้รับการปรับระดับจาก A สู่ระดับ AAและบริษัทได้รับการกล่าวถึงว่าเป็น “ผู้นำในกลุ่มธุรกิจประเภทเดียวกันในด้านความพยายามด้านเทคโนโลยีสะอาด”

3.SJWD บริษัท เอสซีจี เจดับเบิ้ลยูดี โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) วัน SET ต่ำสุด 8 เม.ย.68 ปิด 6.15 บาท,วันที่ 2 พ.ค.68 ปิด 8.15 บาท เพิ่มขึ้น 2.00บาท หรือ +32.52%,ผลตอบแทนราคาตั้งแต่ต้นปี 68 คือ -23.83%,ราคาหุ้นสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์ 15.00/5.75 บาท,ค่า P/E 12.78 เท่า,ปันผลYTD ปี 68 คือ 3.54%

บอร์ดอนุมัติโครงการซื้อหุ้นคืนเพื่อบริหารการเงิน วงเงินสูงสุดที่ใช้ในการซื้อหุ้นคืน ไม่เกิน 300 ล้านบาท จำนวนหุ้นที่จะซื้อคืน ไม่เกิน 50 ล้านหุ้น

4.GPSC บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด(มหาชน) วัน SET ต่ำสุด 8 เม.ย.68 ปิด 23.50 บาท,วันที่ 2 พ.ค.68 ปิด 30.50 บาท เพิ่มขึ้น 7.00 บาท หรือ +29.79%,ผลตอบแทนราคาตั้งแต่ต้นปี 68 คือ -20.26%,ราคาหุ้นสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์ 51.50/22.40 บาท,ค่า P/E 21.69 เท่า,ปันผล YTDปี 68 คือ 2.88%

นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) คาดกำไรปกติไตรมาส 1/68 เติบโตทั้งจากไตรมาสก่อน และช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยการเติบโตจากไตรมาสก่อน แม้สเปรด SPPลดลง แต่ถูกชดเชยด้วยค่าซ่อมบารุงและ OPEX ลดลงตามฤดูกาลและเก็คโค่-วันขาดทุนลดลงตามการหยุดเดินเครื่องตั้งแต่ 20 ธ.ค.

5.HANA บริษัท ฮานา ไมโครอิเล็คโทรนิคส จำกัด (มหาชน) วัน SET ต่ำสุด 8 เม.ย.68 ปิด 14.90 บาท,วันที่ 2 พ.ค.68 ปิด 19.30 บาท เพิ่มขึ้น 4.40 บาท หรือ +29.53%,ผลตอบแทนราคาตั้งแต่ต้นปี 68 คือ -21.86%,ราคาหุ้นสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์ 49.75/14.00 บาท,ค่า P/E - เท่า,ปันผล YTD ปี 68 คือ 3.89%

โบรกฯคาดการณ์ยอดขายในช่วงไตรมาส 1/68จะปรับตัวดีขึ้น จากการเร่งผลิตและส่งออกก่อนที่สหรัฐจะขึ้นภาษีนำเข้า และหลังจากมีการประกาศเลื่อนเก็บภาษีนำเข้าไปอีก 90 วัน ทำให้ในช่วงไตรมาส 2/68จะยังคงได้รับอานิสงส์จากการเร่งสั่งออเดอร์เตรียมสต๊อกรองรับไว้ความไม่แน่นอนของสงครามการค้า

6.BTG บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน) วัน SET ต่ำสุด 8 เม.ย.68 ปิด 18.50 บาท,วันที่ 2 พ.ค.68 ปิด 23.80 บาท เพิ่มขึ้น 5.30 บาท หรือ+28.65 %,ผลตอบแทนราคาตั้งแต่ต้นปี 68 คือ +26.60%,ราคาหุ้นสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์ 25.50/16.30 บาท,ค่า P/E 18.59 เท่า,ปันผล YTD ปี 68 คือ 2.11%

โบรกฯคาด BTG มีปัจจัยกระตุ้นระยะสั้นจากโมเมนตัมกำไรที่ยังแข็งแกร่ง โดยไตรมาส 1/68 คาดมีกำไรปกติ 1.65 พันล้านบาท เทียบกับขาดทุน 126 ล้านบาท ในไตรมาส 1/67 และ เพิ่มขึ้น 73% QoQ และจะแข็งแกร่งต่อเนื่องในไตรมาส 2/68 (ทรงตัว หรือ เพิ่มขึ้น QoQ และเพิ่มขึ้น YoY) จากราคาสุกรในประเทศที่สูงขึ้นท่ามกลางต้นทุนอาหารสัตว์ระดับต่ำ

7.SCGP บริษัท เอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด(มหาชน) วัน SET ต่ำสุด 8 เม.ย.68 ปิด 11.30 บาท,วันที่ 2 พ.ค.68 ปิด 14.50 บาท เพิ่มขึ้น 3.20 บาท หรือ +28.32%,ผลตอบแทนราคาตั้งแต่ต้นปี 68 คือ -26.02%,ราคาหุ้นสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์ 35.25/10.70 บาท,ค่า P/E 16.36 เท่า,ปันผลYTDปี 68 คือ 3.90%

SCGP รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 1/68 ที่ 900 ล้านบาท ลดลง 48% จากช่วงเดียวกันปีก่อน หรือ YoT แต่พลิกกลับจากไตรมาสก่อน หรือ QoQ และมีกำไรหลักอยู่ที่ 918 ล้านบาท ลดลง 45% YoY แต่เพิ่มขึ้น 186% QoQ ซึ่งผลประกอบการสูงกว่าที่โบรกฯคาด 26% และสูงกว่าที่ตลาดคาด 12% เนื่องจากอัตรากำไรสูงกว่าคาด และค่าใช้จ่ายในการขายและบริการที่ต่ำกว่าคาด

8.CCET บริษัท แคล-คอมพ์ อีเล็คโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) วัน SET ต่ำสุด 8เม.ย.68 ปิด 4.74 บาท,วันที่ 2 พ.ค.68 ปิด 6.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.26บาท หรือ +26.58%,ผลตอบแทนราคาตั้งแต่ต้นปี 68 คือ -40.59%,ราคาหุ้นสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์ 11.00/2.26 บาท,ค่าP/E 23.89 เท่า,ปันผลYTDปี 68 คือ 3.36%

บริษัทมีมติอนุมัติจ่ายปันผล ในอัตราหุ้นละ 0.20 บาท และเนื่องจากในปีที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลไปแล้วรวมหุ้นละ 0.07 บาท จึงเหลือเงินปันผลที่จะจ่ายอีกในอัตราหุ้นละ 0.13 บาท และจ่ายเงินปันผลในวันที่ 20 พฤษภาคม 2568

9.OR บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) วันSETต่ำสุด 8 เม.ย.68 ปิด 11.50 บาท,วันที่ 2 พ.ค.68 ปิด 14.50 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท หรือ +26.08%,ผลตอบแทนราคาตั้งแต่ต้นปี 68 คือ +9.02%,ราคาหุ้นสูงสุด/ต่ำสุดรอบ52สัปดาห์ 18.90/10.10 บาท,ค่าP/E 22.74 เท่า,ปันผล YTD ปี 68 คือ 2.76%

โบรกฯคาด OR ไตรมาส 1/68 คาดกำไรสุทธิ 4,364 ล้านบาท ขยายตัว +17% y-y และ +46% q-q แม้ปริมาณขายหดตัว แต่ค่าใช้จ่ายลดลงอย่างมาก

10.SCC บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) วัน SET ต่ำสุด 8 เม.ย.68 ปิด 130.00 บาท,วันที่ 2พ.ค.68 ปิด 160.50 บาท เพิ่มขึ้น 30.50 บาท หรือ +23.46%,ผลตอบแทนราคาตั้งแต่ต้นปี 68 คือ -4.46%,ราคาหุ้นสูงสุด/ต่ำสุดรอบ52สัปดาห์ 255.00/124.50 บาท,ค่าP/E 30.28 เท่า,ปันผลYTD ปี 68 คือ 3.13%

SCC ประกาศกำไรไตรมาส 1/68 อยู่ที่ 1,099 ล้านบาท ลดลง 55% จากช่วงเดียวกันปีก่อน แต่กำไรดีขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาส 4/67 ที่มีผลประกอบการที่ขาดทุน 512 ล้านบาท ซึ่งผลดำเนินงานที่ดีขึ้น เป็นผลจากการบริหารจัดการภายในและการปรับปรุงประสิทธิภาพของทุกธุรกิจ รวมถึงจากความต้องการตามฤดูกาลที่ปรับเพิ่มขึ้น จากธุรกิจที่เกี่ยวกับซีเมนต์และการก่อสร้าง ประกอบกับผลดำเนินงานที่ดีขึ้นจากเอสซีจึเคมิคอลส์ และเอสซีจีพี

นอกจากนี้ ยังมีหุ้น SET100 ที่ฟื้นตัว เกินกว่า 20% อีก 3 หลักทรัพย์ คือ BGRIM +22.83%, AMATA +20.60%,EGCO +20.11%


กำลังโหลดความคิดเห็น