xs
xsm
sm
md
lg

หวังรวยทางลัด! นักเทรดเทเงินใส่เหรียญมีม จุดระเบิดความโลภรอบใหม่ในตลาดคริปโตร้อนระอุ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ข้อมูลจาก Santiment ชี้ชัด กระแสโซเชียลพุ่ง ตลาดคริปโตครึกโครมรับปลายเดือนเมษายน เหรียญมีมแซงทางโค้งขึ้นแท่นฮีโร่แห่งความหวัง หลังนักเทรดรายย่อยเทกระจาดหวังทำกำไรเร็วในจังหวะบิทคอยน์ดีดแรงทะลุ 90,000 ดอลลาร์ ชี้สัญญาณ "ฤดูกาลเหรียญทางเลือก" กลับมาอีกครั้ง ขณะที่ FOMO ยังแผดเผาตลาดอย่างไม่มีทีท่าจะชะลอ

ขณะที่ตลาดรอบเดือนเมษายนปี 2568 ปิดฉากลงตลาดคริปโตกลับเปิดฉากความร้อนระอุอีกระลอกโดยเฉพาะในกลุ่ม “เหรียญมีม” ที่ราคาพุ่งทะยานจนกลายเป็นเป้าหมายใหม่ของนักเทรดสายล่าโอกาสจากการเก็งกำไรแบบฉับไวในช่วงที่ตลาดบิทคอยน์ฟื้นตัวรุนแรงกลับสู่ระดับ 94,000–96,000 ดอลลาร์ ทำให้บรรยากาศในวงการเปลี่ยนจากเงียบเหงากลายเป็นคึกคักอีกครั้ง

ข้อมูลเชิงวิเคราะห์จากแพลตฟอร์ม Santiment ชี้ว่าแนวโน้มการลงทุนในเดือนปลายเดือนมิถุนายนนี้จะพุ่งตัวขึ้น ไม่เพียงกระตุ้นให้พอร์ตนักลงทุนกลับมา “เขียว” แต่ยังจุดชนวนกระแส “รีเทลฟีเวอร์” เนื่องจากปรากฏการณ์ที่นักลงทุนรายย่อยหลั่งไหลเข้ามาอย่างรวดเร็ว หวังโหนกระแสทำกำไรจากเหรียญรอง โดยเฉพาะเหรียญมีมที่ขึ้นชื่อว่า “เสี่ยงสูงกำไรแรง”

ที่มา : Santiment
อย่างไรก็ตามแม้ว่าบิทคอยน์จะขยับขึ้นเพียง 7% ในช่วง 8 วันสุดท้ายของเดือน แต่ตลาด altcoin กลับขยับขึ้นเฉลี่ยถึง 10% โดยเฉพาะกลุ่มเหรียญที่ไร้ฟันธงพื้นฐานทางเทคนิคแต่ขับเคลื่อนด้วยอารมณ์หมู่และกระแสออนไลน์

Santiment ระบุว่า นี่คือ “สูตรสำเร็จแห่งความโลภ” ที่เกิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า เมื่อบิทคอยน์ พุ่งแล้วนิ่งเทรดเดอร์จะหันไปหาสินทรัพย์ที่มีความผันผวนมากกว่า ซึ่งเหรียญมีมก็มักจะขึ้นเวทีในจังหวะนี้เสมอ โดยเฉพาะช่วงที่คำอย่าง “altseason” และ “bull run” กลับมาเป็นคำยอดฮิตในโซเชียลอีกครั้ง

แต่ Santiment ก็เตือนว่า อย่าเพิ่งหลงระเริง เพราะการพูดถึงอย่างล้นหลามในโลกโซเชียลอาจเป็นสัญญาณว่าตลาดกำลังจะถึง “จุดสูงสุดแห่งความโลภ” ซึ่งในอดีตมักจะเป็นสัญญาณนำของการปรับฐานใหญ่

ที่มา : Santiment
จากความกลัวสู่ความฟุ้งฝันบิทคอยน์อาจเปลี่ยนเทรนด์

เพียงไม่กี่สัปดาห์ก่อนหน้านี้ นักลงทุนยังอยู่ในภาวะกังวล หลังบิทคอยน์หลุดความสัมพันธ์กับ S&P 500 และถูกคาดการณ์ว่าอาจรูดหนักกลับไปแตะ 70,000 ดอลลาร์ หรือแม้แต่ 50,000 ดอลลาร์ แต่โชคชะตากลับพลิกผันบิทคอยน์ทะยานฝ่าด่านต้าน พร้อมลากความมั่นใจให้ตลาดทั้งระบบฟื้นตัวตาม

ช่วงวันที่ 6–18 เมษายน ความรู้สึกโดยรวมในโซเชียลสะท้อนชัดถึงความกังวล แต่เมื่อ BTC ดีดขึ้นแรง ความเห็นในโลกออนไลน์กลับตาลปัตร เสียงเชียร์ท่วมฟีด คาดการณ์กันไปไกลถึงระดับ 100,000–159,000 ดอลลาร์

ขณะที่ในพื้นที่โซเชียลมีเดียปริมาณการพูดถึงบิทคอยน์ยังคงครองสัดส่วนสูงถึง 25% ของการพูดถึงคริปโตทั้งหมดโดยความเห็นเชิงบวกเพิ่มขึ้นในอัตราสูงแบบก้าวกระโดด

ขณะที่ความรู้สึกแบบ “FOMO” นี้ทำให้นักลงทุนรายย่อยเทความสนใจไปยัง altcoin ขนาดเล็ก ซึ่งในอดีตพบว่าคลื่นแบบนี้มักจะนำไปสู่ความผันผวนที่รุนแรงในตลาดเหรียญรอง

ที่มา : Santiment
ความนิยม Ethereum นิ่งราคาซึมยาว

อย่างไรก็ดีแม้บิทคอยน์จะโลดแล่นแต่ในทางตรงกันข้าม Ethereum กลับดูอ่อนแรงและไม่ดึงดูดนักลงทุนรายย่อยในปี 2568 โดยส่วนแบ่งการพูดถึง ETH ลดจาก 10% ในช่วงปี 2565 – 2566 เหลือเพียง 6–7% ในปีนี้

ในขณะที่ Solana และ XRP กลับเป็นขวัญใจรายใหม่ โดยเฉพาะ XRP ที่กระแสความหวังว่าจะมีการอนุมัติ ETF ภายในปีนี้เพิ่มสูงจาก 65% เป็น 85% ภายใต้บรรยากาศที่หน่วยงานกำกับดูแลสหรัฐฯ อย่าง SEC มีท่าทีเป็นมิตรมากขึ้น

ที่มา : Santiment
Solana และ Dogecoin แม้จะคนละขั้ว...แต่ยังอยู่ในกระแสหลัก

ด้าน Solana อยู่ในสถานะที่ “พูดถึงเยอะ แต่เล่นจริงน้อย” โดยมีสัดส่วนการพูดถึงในโซเชียลลดลงเหลือ 4.4% จากเดิม 6–7% ในเดือนมกราคม ทั้งที่ก่อนหน้านี้มีความหวังจากการพัฒนาระบบและประสิทธิภาพที่ดีขึ้น แต่ราคาที่ต่ำกว่าคาดถึง 38% ทำให้ความนิยมลดลง

ในทางกลับกัน Dogecoin กลับก้าวเข้าสู่เวทีของ “สถาบัน” แบบไม่คาดฝัน เมื่อ 21Shares และ Bitwise ยื่นขอจดทะเบียน Dogecoin Spot ETF พร้อมทั้ง Nasdaq ก็ร่วมวง ส่งสัญญาณว่าตลาดทุนเริ่มมองเห็นศักยภาพของเหรียญมีมตัวนี้อย่างจริงจัง

แม้ SEC จะยังชะลอการพิจารณาไปถึงกลางมิถุนายน แต่เพียงแค่ข่าวการยื่นเอกสารก็เพียงพอจะเขย่าชุมชน DOGE ให้คึกคักและดึงดูดนักลงทุนหน้าใหม่เข้ามาได้แล้ว

ที่มา : Santiment
นักวิเคราะห์ชี้ "ตลาดกำลังวิ่งด้วยอารมณ์...ไม่ใช่เหตุผล"

รายงานของ Santiment สรุปชัดว่าภาพรวมตลาดขณะนี้ไม่ได้เคลื่อนไหวด้วยกลยุทธ์ระยะยาว แต่ถูกขับเคลื่อนด้วยความตื่นเต้นของฝูงชน ตั้งแต่การดีดกลับของบิทคอยน์จนถึงการเก็งกำไรแบบ “ตามน้ำ” กับเหรียญมีมและ altcoin ขนาดเล็ก

ทั้งนี้คำถามใหญ่คือ กระแสนี้จะไปต่อหรือแค่พลุแตก? นักลงทุนควรจับตาท่าทีของสถาบันอย่างใกล้ชิด และระวังไม่ให้ตัวเองกลายเป็นเหยื่อของตลาดที่ขับเคลื่อนด้วยความหวังลมๆ แล้งๆ