3 ยักษ์ใหญ่การเงินแห่งยูเออีจับมือ เปิดเกมใหญ่ Stablecoin ใหม่บนบล็อกเชนฝีมือชาติ! ทะยานสู่ยุคเศรษฐกิจดิจิทัลเต็มขั้น ลุยใช้จริงในชีวิตประจำวัน รองรับ IoT, AI และธุรกรรมอัตโนมัติ ซึ่งการเคลื่อนไหวครั้งนี้ไม่ใช่แค่เรื่องเหรียญใหม่ แต่คือแผนสร้างฐานอำนาจใหม่ของโลกดิจิทัล ภายใต้การขับเคลื่อนของรัฐที่รู้ทันอนาคต
อาบูดาบีเปิดเกมรุกสุดล้ำในสมรภูมิเศรษฐกิจดิจิทัล เมื่อกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ ADQ, กลุ่ม International Holding Company (IHC) และธนาคาร First Abu Dhabi (FAB) จับมือเปิดตัว “Stablecoin เดอร์แฮมดิจิทัล” ที่ออกภายใต้การกำกับดูแลของธนาคารกลางสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (CBUAE)
โดยโทเค็นใหม่นี้จะทำงานบนเครือข่ายบล็อกเชน ADI ซึ่งพัฒนาขึ้นภายในประเทศโดยมูลนิธิ ADI เอง
Stablecoin ตัวนี้ไม่ได้ถูกออกแบบมาแค่ใช้โอนเงินแบบเดิม ๆ แต่จะเป็นสกุลเงินดิจิทัลประจำชาติที่พร้อมรองรับชีวิตยุคใหม่ ทั้งการชำระค่าสินค้า บริการ ใช้ในธุรกิจ และที่สำคัญคือรองรับธุรกรรม Machine-to-Machine และระบบอัตโนมัติที่ขับเคลื่อนด้วย AI อย่างแท้จริง
ในแถลงการณ์ร่วมของทั้งสามสถาบัน ระบุว่า “Stablecoin ใหม่นี้จะกลายเป็นสกุลเงินที่เชื่อถือได้สำหรับทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นประชาชนทั่วไป ผู้บริโภค หรือองค์กรธุรกิจขนาดใหญ่”
กลยุทธ์สร้าง "มหานครคริปโต" กลางทะเลทราย
การเปิดตัว Stablecoin ใหม่นี้เป็นหนึ่งในแผนยุทธศาสตร์ระยะยาวของยูเออีในการยกระดับตัวเองสู่การเป็น ศูนย์กลางระดับโลกด้านสินทรัพย์ดิจิทัล
ก่อนหน้านี้ ยูเออีได้อนุญาตให้ใช้คริปโตในการชำระเงิน เปิดประตูรับการลงทุนบล็อกเชน และวางกรอบกำกับดูแลที่ชัดเจนมาตั้งแต่ต้น โดยเฉพาะในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา รัฐได้เปิดตัว “AE Coin” ซึ่งเป็น Stablecoin ตัวแรกอย่างเป็นทางการ
ต่อมาในเดือนที่แล้ว กลุ่มลงทุน MGX จากท้องถิ่น ได้ทุ่มเงินกว่า 2 พันล้านดอลลาร์ เข้าถือหุ้นใน Binance ซึ่งถือเป็นดีลคริปโตครั้งใหญ่ระดับโลก
พันธมิตรผู้เปิดตัว Stablecoin เชื่อว่า โครงการนี้จะยกระดับโครงสร้างพื้นฐานด้านการเงินดิจิทัลของประเทศ และจะกลายเป็นกลไกขับเคลื่อนสู่เวที Fintech โลกอย่างมั่นคง
หัวเรือใหญ่อาหรับแบงก์ฟันธงจุดเปลี่ยนสู่เศรษฐกิจอัจฉริยะ
HE Mohamed Hassan Alsuwaidi ซีอีโอของ ADQ ระบุว่า โครงการ Stablecoin นี้ “เป็นก้าวสำคัญของความมุ่งมั่นในการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลของยูเออี” พร้อมชูจุดขายเรื่องความปลอดภัย ปรับขนาดได้ และรองรับระบบเศรษฐกิจที่เชื่อมต่อกันอย่างทั่วถึง
ทางด้าน Hana Al Rostamani ซีอีโอของธนาคาร FAB ยืนยันว่า โครงการนี้เป็น “การพัฒนาครั้งสำคัญ” ที่จะพลิกโฉมระบบชำระเงินบนบล็อกเชนให้เข้ากับอุตสาหกรรมทุกรูปแบบ พร้อมเสริมว่า FAB เตรียมออกเหรียญ stablecoin ทันทีที่ได้รับไฟเขียวจากหน่วยงานกำกับ
ขณะที่ Syed Basar Shueb ซีอีโอของ IHC กล่าวว่า ความร่วมมือนี้จะเปิดประตูสู่นวัตกรรมการเงินระดับภูมิภาคและนำมาซึ่งโอกาสใหม่ ๆ อย่างมหาศาล
Stablecoin ตั้งเป้าเป็นมากกว่าการเงินแห่งโลกอนาคต
Stablecoin นี้ไม่ได้หยุดแค่การเป็น "เงินดิจิทัล" แต่ยังออกแบบมาเพื่อ รองรับการทำธุรกรรมอัจฉริยะทั้งระหว่างเครื่องจักร (M2M) และการเงินที่ขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์ (AI) โดยชูจุดยืนชัดเจนว่ารัฐบาลยูเออีกำลังลงทุนกับอนาคตอย่างเต็มกำลัง
ขณะที่ Guillaume de La Tour ซีอีโอของมูลนิธิ ADI ยืนยันว่าเครือข่ายบล็อกเชน ADI จะ “มอบการทำธุรกรรมที่ปลอดภัย โปร่งใส และมีประสิทธิภาพในระดับมหภาค” ซึ่งถือเป็นกุญแจสำคัญของระบบเศรษฐกิจดิจิทัลแบบยั่งยืน
ADQ ซึ่งถือครองสินทรัพย์กว่า 225 พันล้านดอลลาร์ เป็นหัวเรือใหญ่ในการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลของอาบูดาบี โดยโครงการ Stablecoin ล่าสุดนี้ถือเป็นอีกก้าวของการพลิกโฉมระบบชำระเงิน สร้างแรงดูดบุคลากร Fintech จากทั่วโลกเข้าสู่ดินแดนตะวันออกกลาง