xs
xsm
sm
md
lg

PTG ปันผลเพิ่มอีก 0.25 บ.-ปีนี้ลุย Non-oil

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ผู้ถือหุ้น "พีทีจี เอ็นเนอยี " ขานรับมติจ่ายเงินปันผลงวดปี 2567 เพิ่มอีกในอัตรา 0.25บาทต่อหุ้น กำหนดจ่ายเงินปันผลวันที่ 16 พ.ค.นี้ ฟากซีอีโอ ระบุแนวโน้มธุรกิจปี 68 สดใส รับอานิสงส์จากธุรกิจ Non-Oil เติบโตโดดเด่น ชูธงกาแฟพันธุ์ไทยเป็นธุรกิจขับเคลื่อนสำคัญ จากแผนขยายสาขาตั้งเป้าสิ้นปีแตะกว่า 2,000 สาขา  พร้อมตั้งเป้ายอดขายน้ำมันเติบโต 5-10 %  
นายพิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) (PTG) เปิดเผยว่า ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ได้มีมติอนุมัติให้จ่ายเงินปันผล สำหรับงวดปี 2567 (1 มกราคม -31ธันวาคม 2567) ให้กับผู้ถือหุ้นเป็นเงินสดเพิ่มอีกในอัตราหุ้นละ 0.25 บาท โดยบริษัทฯ ได้ดำเนินการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล (1 มกราคม - 30 กันยายน 2567) ให้แก่ผู้ถือหุ้นไปแล้วเมื่อวันที่12 ธันวาคม 2567 ในอัตราหุ้นละ 0.10 บาท รวมจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นสำหรับงวดปี 2567 ในอัตราหุ้นละ 0.35 บาท รวมเป็นเงินปันผลทั้งสิ้น 584,500,000 บาท  ซึ่งกำหนดวันจ่ายเงินปันผล ในวันที่  16 พฤษภาคม 2568

 
“การจ่ายเงินปันผลในครั้งนี้ถือเป็นการจ่ายที่สอดคล้องกับผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ที่ยังเติบโตได้อย่างสม่ำเสมอ  ซึ่งต้องขอขอบคุณผู้ถือหุ้นที่เชื่อมั่นและไว้วางใจในผู้บริหาร ธุรกิจ และผลประกอบการที่เติบโตอย่างมีศักยภาพ โดยบริษัทฯ ยังคงเดินหน้าในการเสริมสร้างระบบนิเวศทางธุรกิจเพื่อสร้างการเติบโตและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับองค์กร เพื่อเป้าหมายให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงสิทธิประโยชน์ได้อย่างครอบคลุม และสามารถใช้ชีวิตภายใต้ระบบนิเวศของบริษัทฯ ได้อย่าง อยู่ดี มีสุข ซึ่งในส่วนของผู้ถือหุ้นอยากให้เติบโตไปพร้อม ๆ กัน  รวมทั้งขอให้เชื่อมั่นในทีมผู้บริหารว่าจะทุ่มเททำงานอย่างเต็มที่ เพื่อนำพาบริษัทฯ ก้าวต่อไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคงและแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น” นายพิทักษ์ กล่าว

สำหรับทิศทางธุรกิจของกลุ่มบริษัทฯ ในปี 2568  เชื่อว่าจะยังคงเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง  โดยบริษัทฯ ยังคงเน้นการขยายเครือข่ายธุรกิจในทุกมิติ พร้อมพัฒนาระบบนิเวศ (Ecosystem) ที่ตอบสนองต่อพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งตั้งเป้าหมายการเติบโตของปริมาณการจำหน่ายน้ำมันธุรกิจ Oil ไว้ที่ 5-10% จากปีก่อน  เนื่องจากได้รับแรงหนุนจากการขยายเครือข่ายสถานีบริการ PT อย่างต่อเนื่องควบคู่กับการ Renovate สถานีบริการและพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกให้ครบวงจรและทันสมัย รองรับระบบบดิจิทัล เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป รวมถึงการเติบโตของฐานสมาชิก PT Max Card และ PT Max Card Plus ซึ่งปัจจุบันมีจำนวนกว่า 25 ล้านคน โดยตั้งเป้าหมายเพิ่มจำนวนสถานีบริการให้ครบ 2,279 สาขา ภายในสิ้นปีนี้ 2568 

นอกจากนี้ ยังได้รับอานิสงส์จากธุรกิจ Non-Oil  โดยเฉพาะกาแฟพันธุ์ไทยที่ยังคงเป็นตัวขับเคลื่อนหลักของธุรกิจจากการขยายสาขาอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งคาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะมีอยู่กว่า 2,000สาขา โดยยังคงพัฒนาแคมเปญส่งเสริมการขายรวมถึงเมนูใหม่ๆ เพื่อกระตุ้นการใช้บริการซ้ำ

อีกทั้งยังได้รับแรงสนับสนุนจากการเติบโตของยอดขายจากสาขาเดิมที่ขยายตัวต่อเนื่องจากความต้องการของลูกค้าสมาชิกและบุคคลทั่วไปที่เพิ่มขึ้น  และบริษัทฯ ยังเดินหน้าขยาย Autobacs, Max Mart และ Subway ซึ่งเป็น Touchpoints สำคัญที่ช่วยเสริมระบบนิเวศทางธุรกิจให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น   โดยตั้งเป้าการเติบโตของรายได้ (ไม่รวม LPG)ธุรกิจ Non-Oil ไว้ที่ 40-50% จากปีก่อน


กำลังโหลดความคิดเห็น