หุ้นปิดเช้าลบ 3.37 จุด นักวิเคราะห์ เผยตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับลงตอบรับความผิดหวังท่าทีสหรัฐเปลี่ยนมาไม่เร่งเจรจาจีน ทำให้มีแรงขายทำกำไรออกมา อีกทั้งราคาน้ำมันย่อลงกดดันหุ้นกลุ่มพลังงาน และตัวเลขนักท่องเที่ยวโตน้อยกว่าคาด แม้มีแรงเก็งกำไรหุ้นชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์หลังส่งออกโตกระฉูด แต่มองเป็นเพียงปัจจัยระยะสั้น เพราะมาจากการเร่งนำเข้าก่อนสหรัฐขึ้นภาษี แนวโน้มช่วงบ่ายคาดตลาดซึมตัว ให้แนวรับ 1,140 จุด แนวต้านที่ 1,160 จุด
นายวทัญ จิตติ์สมนึก ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์ บล.พาย กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงหลังจาก 1-2 วันขึ้นมาได้ต่อเนื่องจากความคาดหวังสงครามการค้าสหรัฐ-จีนผ่อนคลาย แต่ล่าสุดรัฐมนตรีคลังสหรัฐฯแสดงท่าทีไม่เร่งรีบเจรจาจีน แม้วานนี้นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐรับว่าเรียกภาษีจีนสูงเกินไป ทำให้ตลาดผิดหวังตลาดหุ้นสหรัฐไปต่อไม่สุด ขณะที่ราคาทองคำทำนิวไฮที่ 3,500 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์ก่อนร่วงมาหลุด 3,300 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์ แต่วันนี้ราคาทองกลับมาดีดตัวขึ้นสะท้อนความไม่แน่นอนการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน
จากปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้ตลาดหุ้นไทยมีแรงขายทำกำไรออกมาและราคาน้ำมันดิบปรับลง กดดันหุ้นกลุ่มพลังงานด้วย ขณะที่นักท่องเที่ยวตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน (YTD) เติบโตเพียง 0.5% จากที่ตลาดคาดเติบโต 8% ในปีนี้ เป็นสัญญาณว่าเศรษฐกิจไม่ดีทำให้มีแรงขายกลุ่มท่องเที่ยวด้วย แม้ว่าส่งออกของไทยในเดือน มี.ค.เติบโตสูงถึง 17.8% แต่เป็นเพราะมีการเร่งนำเข้า-ส่งออกสินค้าก่อนที่สหรัฐจะเริ่มขึ้นภาษี คาดว่าตัวเลขไตรมาส 3/68 น่าจะปรับตัวลง อย่างไรก็ดี วันนี้มีแรงเก็งกำไรหุ้นกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่ส่งออกได้มาก
ด้านภาวะตลาดหุ้นไทยปิดการซื้อขายครึ่งวันเช้าที่ระดับ 1,150.40 จุด ลดลง 3.37 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -0.29% มูลค่าซื้อขายราว 23,287 ล้านบาท
แนวโน้มตลาดหุ้นในช่วงบ่าย คาดว่าตลาดน่าจะซึมๆ ไม่ไหนไม่ไหว โดยมองว่าในช่วง 90 วันที่สหรัฐฯเลื่อนการเก็บภาษีตอบโต้นั้นจะชะลอลงทุน สุดท้ายสงครามการค้าทำให้เศรษฐกิจมี downside และมองว่าถึงแม้จะมีเม็ดเงินกองทุน Thai ESGX เข้ามาช่วยตลาดแต่คงเป็นแค่ระยะสั้นเท่านั้น พร้อมให้แนวรับ 1,140 จุด แนวต้านที่ 1,160 จุด