ผลสำรวจชี้คนอเมริกันกำลังหมดศรัทธาในตัว "อีลอน มัสก์" และ Tesla ท่ามกลางความผันผวนทางการเมือง เศรษฐกิจ และกระแสคริปโตที่เปลี่ยนไป ขณะเดียวกัน Tesla รายงานกำไรร่วงแรงในไตรมาสแรก สะท้อนแรงสั่นสะเทือนจากทั้งตลาดและมุมมองสาธารณชน
ผลสำรวจล่าสุดของ CNBC เผยความคิดเห็นของสาธารณชนต่อ อีลอน มัสก์ และบริษัท Tesla กำลังอยู่ในช่วงขาลงอย่างชัดเจน โดยคนอเมริกันครึ่งหนึ่งมอง อีลอน มัสก์ ในแง่ลบเพิ่มมากขึ้น ขณะที่กำไรไตรมาสแรกของ Tesla หดตัวถึง 71% ท่ามกลางภาวะตลาดที่ผันผวนและแรงกดดันจากกระแสการเมือง
ผลสำรวจ "All-America Economic Survey" ของ CNBC ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 9-12 เมษายนที่ผ่านมา พบว่า 50% ของผู้ตอบแบบสอบถามมีมุมมองเชิงลบต่อ อีลอน มัสก์ และ 47% ไม่รู้สึกดีกับ Tesla ขณะที่มีเพียง 27% ที่ยังคงมองบริษัทในแง่บวก และอีก 24% อยู่ในกลุ่มกลางๆ ไม่รักไม่เกลียด
ในส่วนของ อีลอน มัสก์ เอง ผู้ซึ่งมีบทบาทสำคัญในหลายบริษัทตั้งแต่ Tesla, SpaceX ไปจนถึง X (Twitter เดิม) ก็ได้รับคะแนนความนิยมที่ลดลง โดยมีเพียง 36% เท่านั้นที่มองเขาในแง่ดี และอีก 16% รู้สึกเฉยๆ
การที่ภาพลักษณ์ของ อีลอน มัสก์ ตกต่ำลงอาจสะท้อนถึงบทบาทใหม่ของเขาในฐานะที่ปรึกษาพิเศษของรัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งบางฝ่ายมองว่าเป็นสาเหตุของความรู้สึกแตกแยกในหมู่ประชาชน โดยเฉพาะในแวดวงนักลงทุนคริปโตที่ครั้งหนึ่งเคยยกเขาเป็น “เจ้าพ่อ Dogecoin”
ขณะที่ผลประกอบการของ Tesla ก็ไม่น่าชื่นใจนัก โดยรายงานผลไตรมาสแรกของปี 2568 ระบุว่าบริษัทมีกำไรลดลงถึง 71% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และรายได้รวมลดลง 9% จากปีที่แล้ว โดย Tesla ให้เหตุผลว่าความไม่แน่นอนของตลาดและนโยบายการค้าระดับโลกได้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อห่วงโซ่อุปทานและต้นทุน
"ความรู้สึกทางการเมืองที่เปลี่ยนไป และสภาพเศรษฐกิจโลกที่ไม่แน่นอน อาจส่งผลกระทบต่อความต้องการสินค้าเราในระยะใกล้" Tesla ระบุในรายงาน
ผลกระทบดังกล่าวไม่เพียงจำกัดแค่ในกระดานบัญชีเท่านั้น เพราะราคาหุ้นของ Tesla ร่วงลงกว่า 40% ตั้งแต่ต้นปี โดยในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา บริษัทต้องเผชิญกับเหตุโจมตีต่อโชว์รูม รถยนต์ และสถานีชาร์จของตัวเองในหลายพื้นที่ สะท้อนถึงแรงต้านที่เพิ่มขึ้น
ในเวทีศาลากลางที่จัดขึ้นโดยกลุ่มสนับสนุนคริปโต America PAC Elon Musk ยอมรับตรงๆ ว่าการเมืองกำลังเล่นงานธุรกิจของเขา
“หุ้น Tesla ของผม และของทุกคนที่ถือหุ้น ลดลงไปเกือบครึ่งหนึ่ง” มัสก์กล่าวบนเวที พร้อมชี้ว่าเรื่องนี้ “ใหญ่และกระทบมากกว่าที่หลายคนคิด”
ขณะที่แรงกดดันยังรุมเร้า ไม่ว่าจะจากผลกำไรที่หดหาย ความเชื่อมั่นของประชาชนที่ลดลง หรือบทบาททางการเมืองที่กลายเป็นดาบสองคม อนาคตของ อีลอน มัสก์ และ Tesla กำลังเดินอยู่บนเส้นทางที่ท้าทายยิ่งกว่าที่เคยเป็นมา
