การเคลื่อนไหวของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ในการซื้อคืนพันธบัตรรัฐบาล อาจเป็นแรงหนุนสำคัญที่ผลักดันราคาบิทคอยน์ให้ทะยานขึ้นเหนือระดับ 100,000 ดอลลาร์ ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง นักลงทุนเริ่มมองหาทางเลือกใหม่ในการป้องกันความเสี่ยงจากความผันผวนของระบบการเงินแบบดั้งเดิม
อาร์เธอร์ เฮย์ส ผู้ร่วมก่อตั้ง BitMEX และประธานเจ้าหน้าที่การลงทุนของ Maelstrom แสดงความคิดเห็นว่า การซื้อคืนพันธบัตรของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ อาจเป็น "อาวุธลับ" ที่ผลักดันราคาบิทคอยน์ให้พุ่งทะยาน โดยเขาเตือนว่า "นี่อาจเป็นโอกาสสุดท้ายในการซื้อบิทคอยน์ในราคาต่ำกว่า 100,000 ดอลลาร์"
โดยการซื้อคืนพันธบัตรหมายถึงการที่รัฐบาลสหรัฐฯ เข้าซื้อพันธบัตรที่ออกไปแล้วกลับคืนจากตลาด เพื่อเพิ่มสภาพคล่อง จัดการหนี้สาธารณะ หรือรักษาเสถียรภาพของอัตราดอกเบี้ย ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวสามารถเพิ่มเงินเข้าสู่ระบบการเงิน และมักส่งผลดีต่อสินทรัพย์เสี่ยง เช่น บิทคอยน์
ด้านเจมี คูตส์ หัวหน้านักวิเคราะห์คริปโตของ Real Vision คาดการณ์ว่า การขยายตัวของปริมาณเงินในระบบเศรษฐกิจ (M2) อาจผลักดันราคาบิทคอยน์ให้ทะยานขึ้นเหนือ 132,000 ดอลลาร์ภายในสิ้นปีนี้
โดยล่าสุดเมื่อเร็วๆ นี้บิทคอยน์ได้ปรับตัวขึ้นแตะ 93,110 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกในรอบเกือบสามสัปดาห์ หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศมาตรการภาษีนำเข้าสินค้าตอบโต้เมื่อวันที่ 2 เมษายนที่ผ่านมา ซึ่งอังเดร ดราโกช หัวหน้าฝ่ายวิจัยประจำยุโรปของ Bitwise ระบุว่า "ดูเหมือนว่าบิทคอยน์กำลังพุ่งขึ้นจากการอ่อนค่าของดอลลาร์อย่างต่อเนื่อง" โดยดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ (DXY) แตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2565
นอกจากนี้ไรอัน ลี หัวหน้านักวิเคราะห์ของ Bitget Research กล่าวกับ Cointelegraph ว่า "ปริมาณการซื้อขายที่แข็งแกร่งและสัญญาณทางเทคนิคจากการทะลุแนวโน้มขาลงชี้ให้เห็นถึงความเป็นไปได้ที่ราคาจะทดสอบแนวต้านที่ 90,000 ดอลลาร์ โดยมีปัจจัยมหภาค เช่น การอ่อนค่าของดอลลาร์และความสัมพันธ์ที่เพิ่มขึ้นกับทองคำ เสริมความน่าสนใจของบิทคอยน์ในฐานะสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยง"
ทั้งนี้แม้จะมีการปรับฐานราคาเมื่อเร็วๆ นี้ แต่บริษัทลงทุนจากญี่ปุ่นและสหราชอาณาจักรยังคงลงทุนในบิทคอยน์หลายร้อยล้านดอลลาร์ แสดงถึงการยอมรับในระดับสถาบันที่เพิ่มขึ้น ซึ่งอาจเร่งวงจรการเติบโตของบิทคอยน์ในรอบสี่ปี
อย่างไรก็ตามการเคลื่อนไหวของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ และการอ่อนค่าของดอลลาร์อาจเป็นปัจจัยสำคัญที่ผลักดันราคาบิทคอยน์ให้ทะยานขึ้นในอนาคตอันใกล้