ล้มโต๊ะเจรจาภาษีทรัมป์..ชนวนหุ้นขาลง / สุนันท์ ศรีจันทรา

แนวโน้มตลาดหุ้นทำท่าจะกลับมาสู่ความสดใส แต่แล้วสถานการณ์ต้องพลิกผัน กลายเป็นความไม่แน่นอน หลังจากสหรัฐขอเลื่อนการเจรจาต่อรองการค้ากับผู้แทนจากประเทศไทยโดยไม่มีกำหนด

ตามกำหนดเดิม วันพุธที่ 23 เมษายนนี้ นายพิชัย ชุณหวชิร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จะนำคณะผู้แทนการค้าจากประเทศไทย นั่งโต๊ะเจรจากับผู้แทนการค้าสหรัฐ เพื่อยื่นขอเสนอขอต่อรองลดภาษีการนำเข้าสินค้าจากประเทศไทยที่ถูกเรียกเก็บเพิ่มขึ้นอีก 36%

แต่การเจรจารอบแรกถูกล้มโต๊ะโดยสหรัฐ โดยไม่ทราบสาเหตุ และนายพิชัยก็ไม่ได้เดินทางไปสหรัฐ ซึ่งไม่รู้ว่า นายพิชัยรู้ล่วงหน้าว่าจะถูกล้มโต๊ะเจรจา หรือจงใจที่จะไม่เดินทางไปเจรจาอยู่แล้ว

สำหรับตลาดหุ้นไม่ได้รับรู้ถึงการเลื่อนเจรจาต่อรองลดภาษีทรัมป์ โดยการซื้อขายภาคบ่ายวันจันทร์ที่ 21 เมษายน ดัชนีหุ้นทรุดฮวบลงอย่างหนัก ลงไปเกือบ 20 จุด ก่อนจะดีดตัวขึ้นมาปิดที่ 1134.71 จุด ลดลง 16.34 จุด และหลังปิดตลาดแล้ว นักลงทุนจึงรู้ว่า หุ้นที่ถูกถล่มขายจากนักลงทุนต่างชาติอย่างหนัก เกิดจากข่าวสหรัฐเลื่อนเจรจากับผู้แทนการค้าไทยออกไปโดยไม่มีกำหนด และยังไม่มีใครอธิบายเหตุผลใด ๆ ได้

ข่าวดี ๆ ที่กำลังมีเข้ามาหลังสงกรานต์ ไม่ว่าการคาดหมายลดดอกเบี้ยของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 30 เมษายนนี้ การจัดตั้งกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืนหรือ TESGX ซึ่งจะเปิดให้นักลงทุนเริ่มลงทุนในเดือนพฤษภาคมและมิถุนายนนี้ รวมทั้งการประกาศผลประกอบการกลุ่มธนาคารพาณิชย์ไตรมาสแรก กำลังถูกกลบด้วยข่าวร้ายชิ้นใหญ่การเลื่อนเจรจาต่อรองลดภาษีทรัมป์

กลุ่มธนาคารพาณิชย์ประกาศผลประกอบการไตรมาสแรกปีนี้ออกมาครบถ้วนแล้ว และแม้ผลกำไรจะเติบโตขึ้นเล็กน้อย ตามความคาดหมายของนักวิเคราะห์ แต่สินเชื่อไม่ได้ขยายตัว และตัวเลขหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดราบได้หรือ NPL มีแนวโน้มสูงขึ้น นอกจากนั้น กนง.เตรียมประกาศลดดอกเบี้ย ซึ่งส่งผลกระทบทำให้ผลกำไรของธนาคารลดลง

หุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์จึงไม่ได้ตอบรับผลประกอบการไตรมาสแรก และยังปรับตัวลงตามภาวะตลาดอีกด้วย

การถูกเลื่อนเจรจาการค้ากับสหรัฐ ถือเป็นปัจจัยลบชิ้นใหญ่ เพราะทำให้ไม่อาจคาดหมายได้ว่า การเจรจาจะเริ่มต้นขึ้นเมื่อไหร่ และบทสรุปออกมาอย่างไร ทันกับระยะเวลา 90 วันที่ถูกขยายออกไปก่อนภาษีมีผลบังคับใช้หรือไม่

นอกจากนั้น ตลาดหุ้นสหรัฐยังเกิดความปั่นป่วน เพราะประธานาธิบดีทรัมป์ กำลังกดดันผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟดอย่างหนัก บีบให้ลาออกจากตำแหน่ง เพราะไม่สนองตอบข้อเรียกร้องให้ลดดอกเบี้ยลง

บรรยากาศการลงทุนที่สดใสหลังสงกรานต์กำลังเปลี่ยนไป จากแนวโน้มขาขึ้นในระยะสั้น และมีโอกาสทะยานขึ้นไปแตะที่ระดับ 1200 จุด กลับหัวสู่แนวโน้มขาลง และอาจถอยลงมาแตะระดับ 1100 จุดอีกครั้ง

นักลงทุนต้องปรับกลยุทธ์ใหม่อย่างฉับไว เพราะสถานการณ์รอบด้านไม่นิ่ง ช่องว่างการทำกำไรระยะสั้นกำลังถูกปิดกัน และเปลี่ยนไปสู่ภาวะที่มีความเสี่ยงสูง จนไม่ควรผลีผลามเข้าไปช้อนซื้อหุ้น

สงครามการค้าที่ประธานาธิบดีทรัมป์จุดชนวนขึ้น กำลังย้อนกลับไปสร้างความปั่นป่วนกับเศรษฐกิจและตลาดหุ้นสหรัฐ จนแรงต่อต้านทรัมป์ขยายวงมากขึ้นในหมู่อเมริกันชน

ตลาดหุ้นไทยตกอยู่ในกระแสธารความปั่นป่วนของตลาดหุ้นทั่วโลก และข่าวดีภายในประเทศ ไม่อาจต้านทานหรือถ่วงดุลจากผลกระทบจากปัจจัยภายนอกได้

นักลงทุนจึงต้องถนอมเนื้อถนอมตัว สำรองกระสุนไว้ก่อน ไม่ต้องรีบร้อนซื้อหุ้นเก็บ เพราะเสี่ยงเจ็บตัวซ้ำหนักเข้าไปอีก