นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้(18เม.ย.68) ที่ระดับ 33.36 บาทต่อดอลลาร์ “อ่อนค่าลงเล็กน้อย”จากระดับปิดวันที่ผ่านมา ณ ระดับ 33.29 บาทต่อดอลลาร์ และมองกรอบเงินบาทในช่วง 24 ชั่วโมง คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 33.15-33.40 บาท/ดอลลาร์ โดยนับตั้งแต่ช่วงคืนวันที่ผ่านมา เงินบาท (USDTHB) ทยอยอ่อนค่าลงบ้าง ในลักษณะ Sideways Up (แกว่งตัวในกรอบ 33.24-33.44 บาทต่อดอลลาร์) ตามจังหวะการปรับตัวลดลงของราคาทองคำ (XAUUSD) ที่มีจังหวะการปรับตัวลงราว -50 ดอลลาร์ต่อออนซ์ กดดันโดยการทยอยปรับตัวสูงขึ้นของบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ และแรงขายทำกำไรของผู้เล่นในตลาดบางส่วน อย่างไรก็ดี ภาวะระมัดระวังตัวของผู้เล่นในตลาด ท่ามกลางความไม่แน่นอนของนโยบายการค้าของรัฐบาลสหรัฐฯ และช่วงทยอยรับรู้ผลประกอบการของบรรดาบริษัทจดทะเบียน ยังคงหนุนความต้องการถือทองคำ และช่วยให้ราคาทองคำสามารถรีบาวด์ขึ้นกลับสู่ระดับก่อนเผชิญแรงขายได้ ซึ่งการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำดังกล่าวก็ช่วยชะลอการอ่อนค่าลงของเงินบาท
ส่วนเงินดอลลาร์เคลื่อนไหวในกรอบ Sideways แม้ว่า ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะตัดสินใจลดดอกเบี้ยนโยบาย (Deposit Facility Rate) 25bps สู่ระดับ 2.25% ตามคาด พร้อมแสดงความกังวลแนวโน้มเศรษฐกิจจากผลกระทบของนโยบายการค้าของสหรัฐฯ แต่เงินยูโร (EUR) กลับไม่ได้อ่อนค่าลง และยังคงแกว่งตัวในกรอบ Sideways
สำหรับในช่วง 24 ชั่วโมงหลังจากนี้ บรรดาผู้เล่นในตลาดจะรอติดตามถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด เพื่อประกอบการประเมินแนวโน้มการดำเนินนโยบายการเงินของเฟด ทั้งนี้ ในช่วงวันศุกร์ ตลาดการเงินฝั่งยุโรปและสหรัฐฯ จะปิดทำการ เนื่องในวันหยุด Good Friday ทำให้ปริมาณการทำธุรกรรมอาจเบาบางลง
สำหรับ แนวโน้มของค่าเงินบาท เราประเมินว่า เงินบาทอาจแกว่งตัวในกรอบ Sideways ท่ามกลางปริมาณการทำธุรกรรมที่อาจเบาบางลง จากวันหยุดทำการของตลาดการเงินฝั่งสหรัฐฯ และยุโรป เนื่องในวันหยุด Good Friday โดยเงินบาทจะมีโซนแนวต้านแถวระดับ 33.40-33.50 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งเรามองว่า อาจเป็นโซนที่ผู้เล่นในตลาดบางส่วนเพิ่มสถานะ Long THB (มองเงินบาทแข็งค่าขึ้น) ทำให้เงินบาทอาจต้องอ่อนค่าทะลุโซนดังกล่าวได้อย่างชัดเจนและต่อเนื่อง จึงจะทำให้ผู้เล่นในตลาดดังกล่าวมีการปรับสถานะถือครอง ลดสถานะ Long THB ได้ นอกจากนี้ เรามองว่า เงินบาทอาจพอได้แรงหนุนบ้าง จากการรีบาวด์ขึ้นของราคาทองคำ ซึ่งอาจหนุนให้ผู้เล่นในตลาดต่างทยอยขายทำกำไรทองคำได้ ขณะที่โซนแนวรับอาจติดอยู่แถว 33.00-33.10 บาทต่อดอลลาร์ หากบรรยากาศระมัดระวังตัวของตลาดการเงินสหรัฐฯ และยุโรป ได้ส่งผลกดดันบรรยากาศในฝั่งตลาดการเงินเอเชียด้วยเช่นกัน อีกทั้ง เรามองว่า ผู้เล่นในตลาดบางส่วน อย่างฝั่งผู้นำเข้า อาจรอทยอยเข้าซื้อเงินดอลลาร์บ้าง ในช่วงโซนแนวรับดังกล่าว