นักวิเคราะห์ชี้ บิทคอยน์อาจวิ่งทะยานแตะระดับสูงสุดใหม่ หากกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ยังคงถอนเงินจากบัญชี TGA อัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบการเงิน เพิ่มพลังบวกให้ตลาดสินทรัพย์เสี่ยง โดยมีเป้าหมายที่ระดับ $137,000 ภายในไตรมาส 3 ปีนี้
นักวิเคราะห์ด้านเศรษฐกิจการเงินมหภาคเผยว่า บิทคอยน์ (Bitcoin) มีแนวโน้มพุ่งแตะระดับ 137,000 ดอลลาร์ภายในไตรมาสที่ 3 ของปี 2568 หากกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ยังคงเดินหน้านโยบายอัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการถอนเงินจากบัญชีทั่วไปของกระทรวง (Treasury General Account - TGA)
นับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สหรัฐฯ ได้อัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบการเงินกว่า 500,000 ล้านดอลลาร์ โดยการดึงเงินทุนจากบัญชี TGA ซึ่งมีบทบาทในการดำเนินการของรัฐบาล เช่น การชำระค่าใช้จ่ายและการจัดเก็บภาษี หลังจากที่สหรัฐฯ ทะลุเพดานหนี้ 36 ล้านล้านดอลลาร์เมื่อวันที่ 2 มกราคม 2568
โทมัส นักวิเคราะห์การเงินมหภาค ระบุว่า การเพิ่มขึ้นของสภาพคล่องดังกล่าวทำให้สภาพคล่องสุทธิของธนาคารกลางสหรัฐฯ พุ่งแตะระดับ 6.3 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งอาจส่งแรงหนุนให้ราคาของบิทคอยน์พุ่งสูงขึ้น แม้ว่าจนถึงขณะนี้จะยังไม่สะท้อนชัดในสินทรัพย์เสี่ยงก็ตาม
บัญชี TGA ทำหน้าที่เป็นที่เก็บเงินของรัฐบาลกลางในธนาคารกลางสหรัฐฯ การที่ยอดเงินในบัญชีลดลง หมายถึงเงินทุนเหล่านั้นถูกผลักเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ ส่งผลให้เกิดสภาพคล่องเพิ่มขึ้นในตลาด
โทมัสเผยว่าการถอนเงินจากบัญชี TGA เริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 12 กุมภาพันธ์ หลังจากที่มาตรการพิเศษหมดลงเมื่อชนเพดานหนี้ ส่งผลให้ยอดเงินในบัญชี TGA ลดลงจาก 842,000 ล้านดอลลาร์ เหลือเพียง 342,000 ล้านดอลลาร์ และคาดว่าจะเพิ่มสภาพคล่องแตะระดับ 600,000 ล้านดอลลาร์ภายในสิ้นเดือนเมษายน
อย่างไรก็ตาม เขาเตือนว่า ฤดูกาลภาษีที่กำลังดำเนินอยู่ในขณะนี้อาจทำให้สภาพคล่องลดลงในระยะสั้น แต่การอัดฉีดเงินน่าจะกลับมาอีกครั้งในเดือนพฤษภาคม หากการเจรจาเรื่องเพดานหนี้ลากยาวถึงเดือนสิงหาคม สภาพคล่องสุทธิอาจแตะระดับสูงสุดในรอบหลายปีที่ 6.6 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งจะส่งผลบวกต่อราคาบิทคอยน์
ขณะที่ข้อมูลจากงานวิจัยของลิน อัลเดน นักวิเคราะห์การเงิน ระบุว่าบิทคอยน์มีความสัมพันธ์กับสภาพคล่องทั่วโลกถึง 83% ในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา งานวิจัยชื่อ “Bitcoin: A Global Liquidity Barometer” พบว่า BTC มีความไวต่อกระแสเงินมากกว่าสินทรัพย์อื่น ๆ เช่น S&P500 ทองคำ หรือกองทุน VT
ในอดีต การถอนเงินจากบัญชี TGA ในช่วงปี 2565–2566 ก็เคยเป็นแรงผลักดันให้สินทรัพย์เสี่ยงโดยเฉพาะบิทคอยน์ปรับตัวสูงขึ้น ดังนั้น หากการอัดฉีดเงินกว่า 600,000 ล้านดอลลาร์ในไตรมาสที่ 2-3 ยังเดินหน้าต่อ อาจส่งให้ราคาของ BTC พุ่งขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ หากสภาพตลาดไม่เปลี่ยนแปลง
ด้าน Titan of Crypto เทรดเดอร์และนักวิเคราะห์คริปโตชื่อดัง โพสต์ผ่าน X ว่า BTC มีโอกาสพุ่งขึ้นถึงระดับ 137,000 ดอลลาร์ ภายในเดือนกรกฎาคมถึงสิงหาคม 2568 โดยชี้ให้เห็นรูปแบบ “ธงสามเหลี่ยมขาขึ้น” บนกราฟรายวัน ซึ่งมักเป็นสัญญาณบวกของการทะลุแนวต้านทางเทคนิค
อย่างไรก็ตามแต่ก่อนที่บิทคอยน์จะเดินหน้าเข้าสู่แนวโน้มขาขึ้นรอบใหญ่ จะต้องสามารถยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบเอ็กซ์โปเนนเชียล (EMA) ระยะ 200 วันให้ได้เสียก่อน โดยในกราฟปัจจุบัน BTC ยังคงเผชิญแรงต้านจากเส้น EMA ระยะ 50 วัน 100 วัน และ 200 วัน โดยหากราคาสามารถยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ยหลักทั้ง 3 ได้ในกรอบเวลาที่สูงขึ้น อาจยืนยันแนวโน้มขาขึ้นอย่างแข็งแกร่ง และเปิดโอกาสให้ BTC พุ่งแตะระดับหกหลักได้อีกครั้ง