xs
xsm
sm
md
lg

Krungthai GLOBAL MARKETS เผยค่าบาทเปิดที่ 33.46-จับตาทิศทางเงินหยวน-ราคาทองคำ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทยมองกรอบค่าเงินบาทสัปดาห์นี้ ที่ระดับ 33.30-33.80 บาท/ดอลลาร์ และกรอบเงินบาทในช่วง 24 ชั่วงโมงข้างหน้า คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 33.35-33.60 บาท/ดอลลาร์ (ระวังความผันผวนในช่วงตลาดทยอยรับรู้รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ) จากระดับเปิดเช้านี้(16เม.ย.68) ที่ระดับ 33.46 บาทต่อดอลลาร์“แข็งค่าขึ้น”จากระดับปิดสัปดาห์ก่อนหน้า ที่ระดับ 33.56 บาทต่อดอลลาร์ (ณ วันศุกร์ที่ 11 เมษายน) โดยนับตั้งแต่ช่วงคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา รวมถึงช่วงวันหยุดเทศกาลสงกรานต์ของไทย เงินบาท (USDTHB) โดยรวมเคลื่อนไหวในกรอบ Sideways แถวโซน 33.50 บาทต่อดอลลาร์ (แกว่งตัวในกรอบ 33.41-33.74 บาทต่อดอลลาร์) โดยมีการเคลื่อนไหวผันผวนไปตามทิศทางเงินดอลลาร์และราคาทองคำเป็นหลัก ซึ่งแม้ว่าเงินดอลลาร์จะรีบาวด์ขึ้นบ้าง แต่ก็ยังคงเผชิญแรงขายจากบรรดาผู้เล่นในตลาดอยู่ ท่ามกลางความเชื่อมั่นต่อการถือครองสินทรัพย์สหรัฐฯ ที่ถูกสั่นคลอนจากความไม่แน่นอนของการดำเนินนโยบายการค้าและนโยบายต่างๆ ของรัฐบาลสหรัฐฯ

นอกจากนี้ ในช่วงเช้าตรู่ของวันนี้ เงินบาทได้แรงหนุนฝั่งแข็งค่าเพิ่มเติม หลังราคาทองคำปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง ทำจุดสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์อีกครั้ง อย่างไรก็ดี แม้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเงินบาทกับราคาทองคำในช่วงที่ผ่านมาจะเป็นลักษณะเคลื่อนไหวสอดคล้องกัน (Positive Correlation) ทว่า หากผู้เล่นในตลาดกลับมาไล่ราคาซื้อทองคำ ในจังหวะราคาทองคำปรับตัวขึ้น (หลังส่วนหนึ่งอาจขายทำกำไรทองคำไปพอสมควรแล้ว) ก็อาจทำให้ ความสัมพันธ์ระหว่างเงินบาทกับราคาทองคำเปลี่ยนไปได้ เช่น เดิม การปรับตัวขึ้นของราคาทองคำอาจหนุนให้เงินบาทแข็งค่า กลายเป็น การปรับตัวขึ้นของราคาทองคำ อาจกดดันให้เงินบาทอ่อนค่าบ้าง ตามโฟลว์ธุรกรรมไล่ซื้อทองคำ

สัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทพลิกกลับมาแข็งค่าขึ้นมากกว่าคาด หลังความเชื่อมั่นต่อสินทรัพย์สหรัฐฯ ถูกสั่นคลอนจากนโยบายกีดกันทางการค้าของรัฐบาล Trump 2.0 อีกทั้ง ราคาทองคำก็ปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่

สำหรับในสัปดาห์นี้ เรามองว่า ควรจับรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ และจีน พร้อมรอลุ้น ผลการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) และรายงานผลประกอบการของบรรดาบริษัทจดทะเบียน

สำหรับ แนวโน้มของค่าเงินบาท โมเมนตัมการแข็งค่าของเงินบาทยังมีกำลังอยู่ แต่การแข็งค่าของเงินบาทอาจถูกชะลอแถวโซนแนวรับ 33.40-33.50 บาทต่อดอลลาร์ ทั้งนี้ ต้องจับตาทิศทางเงินหยวนจีนและราคาทองคำ อย่างใกล้ชิด ขณะที่ ฟันด์โฟลว์นักลงทุนต่างชาติในระยะสั้นอาจมีความผันผวนอยู่ ขึ้นกับบรรยากาศในตลาดการเงินว่าจะกลับมาอยู่ในภาวะเปิดรับความเสี่ยงได้ต่อเนื่องหรือไม่

ในส่วนเงินดอลลาร์นั้น เรามองว่า เงินดอลลาร์ยังคงเผชิญความเสี่ยง Two-Way risk ตาม “ความเชื่อมั่น” ของผู้เล่นในตลาดต่อสินทรัพย์สหรัฐฯ ซึ่งจะขึ้นกับแนวโน้มการดำเนินนโยบายการค้าของสหรัฐฯ รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ และรายงานผลประกอบการของบรรดาบริษัทจดทะเบียนที่จะส่งผลต่อบรรยากาศในตลาดการเงินสหรัฐฯ
กำลังโหลดความคิดเห็น