ธปท.หนุน พรก.มาตราการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568 ที่ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว เมื่อวันที่ 12 เม.ย.68 ที่กำหนดให้สถาบันการเงินต้องร่วมรับผิดชอบในความเสียหายของลูกค้า เตรียมประกาศหน้าที่ความรับผิดชอบของสถาบันการเงินภายในเดือนนี้
นางรุ่ง มัลลิกะมาส รองผู้ว่าการด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า พระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568 ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว เมื่อวันที่ 12 เม.ย.68 ที่ผ่านมา ธปท. สนับสนุนหลักการของ พ.ร.ก. ข้างต้น และได้ร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการเสนอความเห็นและปรับปรุงเนื้อหาใน พ.ร.ก. เพื่อยกระดับมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
หนึ่งในประเด็นสำคัญ คือ การกำหนดให้ผู้ให้บริการที่เกี่ยวข้อง เช่น สถาบันการเงิน ผู้ประกอบธุรกิจบริการการชำระเงิน ผู้ให้บริการโทรคมนาคม (telco) ผู้ให้บริการสื่อสังคมออนไลน์ (social platform) และผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล ต้องยกระดับการดูแลลูกค้า และร่วมชดเชยความเสียหาย
ขณะนี้ ธปท. อยู่ระหว่างจัดทำประกาศเพื่อกำหนดหน้าที่และความรับผิดชอบที่ชัดเจนของสถาบันการเงินและผู้ประกอบธุรกิจบริการการชำระเงิน โดยประกาศจะครอบคลุมทั้งการป้องกันการสวมรอยทำธุรกรรมแทนผู้ใช้บริการ การจัดการบัญชีม้า และกระบวนการรับแจ้งเหตุที่รวดเร็ว คาดว่าจะใช้ได้ภายในสิ้นเดือนเม.ย.นี้
อย่างไรก็ดี แม้ พ.ร.ก. จะกำหนดให้ผู้ให้บริการอาจมีส่วนต้องรับผิดชอบในความเสียหายของลูกค้า ธปท. ขอให้ประชาชนใช้บริการทางการเงินด้วยความระมัดระวัง รวมทั้งปฏิบัติตามคำแนะนำในการรักษาความปลอดภัย ไม่กดลิงค์ที่ไม่รู้จัก และตรวจสอบข้อมูลการทำธุรกรรมอย่างถี่ถ้วน เพื่อไม่ให้ตกเป็นผู้เสียหายจากอาชญากรรมทางเทคโนโลยี