บิทคอยน์ร่วงเฉียด 6% หลุดแนวรับสำคัญ 78,000 ดอลลาร์ เหตุภาษีศุลกากรของทรัมป์กระทบความเชื่อมั่นทั่วโลก หุ้นสหรัฐฯ ฮ่องกง-จีนดิ่งหนัก สัญญาณเศรษฐกิจโลกเริ่มสั่นคลอน ตลาดคริปโตโดนลูกหลง ปริมาณชำระบัญชีทะลุ 976 ล้านดอลลาร์
Ethereum, XRP, Solana ร่วงตามบิทคอยน์ นักลงทุนเทขายจากความกลัว แต่บางฝ่ายยังมองบวกในระยะยาว วอลล์สตรีทเตือนเศรษฐกิจสหรัฐฯ มีโอกาสถดถอย 45%
บิทคอยน์ปรับตัวร่วงแรงในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาโดยลดลงกว่า 6% สู่ระดับ 77,730 ดอลลาร์ ท่ามกลางความผันผวนที่ปกคลุมทั้งตลาดโลก หลังจากประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ประกาศมาตรการภาษีศุลกากรใหม่ กระทบโดยตรงต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนทั่วโลก
$77,500 is a critical support level in Bitcoin and if that fails, it should plunge sharply from there...$BTC $IBIT pic.twitter.com/G2GyFOHCv1— Jesse Colombo (@TheBubbleBubble) April 7, 2025
ข้อมูลจาก Coinglass เผยว่า มีการชำระบัญชีสถานะการซื้อขายคริปโตสูงถึง 976 ล้านดอลลาร์ ภายในเวลา 24 ชั่วโมง โดยในจำนวนนี้เป็นสถานะ Long หรือซื้อจำนวนมหาศาลถึง 842.2 ล้านดอลลาร์ สะท้อนการความกังวลการลงทุนในช่วงเวลาสั้น ๆ
การเทขายคราวนี้ ยังส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ทรุดตัวแรงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2563 ก่อนที่แรงกระแทกจะลามไปยังตลาดคริปโต โดยเฉพาะบิทคอยน์ซึ่งก่อนหน้านี้เคลื่อนไหวเหนือระดับ 80,000 ดอลลาร์ตลอดปี 2568 ได้หลุดระดับสำคัญ 78,000 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกในรอบหลายสัปดาห์
อย่างไรก็ดีบิทคอยน์ยังแสดงพฤติกรรมเคลื่อนไหวสอดคล้องกับหุ้นเทคโนโลยีอย่างใกล้ชิด โดยมักจะเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับดัชนี S&P 500 และ Nasdaq โดยมีค่า “คอร์เรเลชั่น” รายสัปดาห์สูงถึง 0.88 ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งหมายถึงความสัมพันธ์ที่แนบแน่นระหว่างสองตลาดนี้
ทั้งนี้ล่าสุดบิทคอยน์ร่วงลงมากถึง 28% จากจุดสูงสุดตลอดกาลในเดือนมกราคม
ขณะที่เหรียญคริปโตหลักอื่นๆ ก็ไม่ได้รอดพ้นจากแรงขาย
- Ethereum ร่วง 13% เหลือ 1,568 ดอลลาร์
- XRP ร่วงเกือบ 12%
- Solana ทรุดกว่า 12% เหลือ 105.43 ดอลลาร์
นอกจากนึ้สถานการณ์ตึงเครียดไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในสหรัฐฯ เท่านั้น ตลาดหุ้นฮ่องกงก็ร่วงลงแรงเช่นกัน โดยดัชนี Hang Seng ดิ่งกว่า 10% ในช่วงเช้าวันจันทร์ ซึ่งถือเป็นการร่วงลงรายวันครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่วิกฤตการเงินโลกในปี 2008
ขณะที่ฝั่งตลาดทุนในประเทศจีนก็ไม่ต่างกัน เมื่อปักกิ่งต้องรับมือกับการเก็บภาษีจากสหรัฐฯ ที่พุ่งสูงกว่า 50% จนต้องตอบโต้ด้วยมาตรการภาษีนำเข้าสินค้าสหรัฐฯ กลับทันทีในวันศุกร์ ก่อกระแสวิตกว่า “สงครามการค้ารอบใหม่” อาจลากยาว และนำไปสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลก
ล่าสุดธนาคารโกลด์แมนแซคส์ถึงกับปรับเพิ่มความเป็นไปได้ที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ จะเข้าสู่ภาวะถดถอยภายใน 12 เดือนข้างหน้า เป็น 45% พร้อมสะท้อนคำเตือนจากธนาคารใหญ่หลายแห่ง
แม้จะเกิดการเทขายอย่างรุนแรงในตลาด แต่ผู้เชี่ยวชาญบางคนยังมองโลกในแง่ดี การ์ดี้ ชาอิตผู้จัดการฝ่ายการลงทุนของ Xapo Bank ให้ความเห็นว่า “ความผันผวนอาจทำให้บางคนวิตก แต่สำหรับบิทคอยน์แล้ว สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงเสียงรบกวนระยะสั้น เพราะคุณค่าที่แท้จริงของมันอยู่ที่การกระจายศูนย์กลาง ความมีอธิปไตยในตัว และจำนวนที่จำกัด ไม่ใช่ราคาที่ขึ้นลงในช่วงไม่กี่วัน”
อย่างไรก็ดี ตลาดอนุพันธ์ก็ยังสะท้อนความเครียดอย่างชัดเจน
โดย Coinglass รายงานว่า มีผู้ค้ากว่า 318,000 รายถูกบังคับปิดสถานะ (liquidated) ซึ่งแสดงให้เห็นว่า "อารมณ์ตลาด" สามารถเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วได้เพียงใดในช่วงที่ทุกอย่างสั่นคลอน
ขณะนี้ เทรดเดอร์กำลังจับตาแนวรับถัดไปที่ระดับ 76,600 ดอลลาร์อย่างใกล้ชิด หากราคาหลุดต่ำกว่าระดับดังกล่าว อาจเป็นจุดเริ่มต้นของการปรับฐานที่รุนแรงกว่านี้ แต่สำหรับฝั่งกระทิง (bulls) แล้ว ยังมองว่านี่เป็นเพียง “จังหวะพักหายใจ” ชั่วคราวในตลาดที่ยังคงยืดหยุ่นได้ดี