CGSI ปรับลดเป้า SET Index สิ้นปี 68 เหลือ 1,200 จุด หลัง "โดนัลด์ ทรัมป์" ประกาศตั้งกำแพงภาษีนำเข้าไทยที่ 37% สูงกว่าคาด หวั่นกระทบส่งออกและการขยายตัวทางเศรษฐกิจ -ขณะที่ประมาณการ EPS ของตลาดหุ้นไทยน่าจะได้รับผลกระทบประมาณ 10% แต่ยังแนะนำลงทุนในหุ้น domestic defensive และหุ้นปันผลสูง BH, CBG, CPALL, CPN, HANA, KTB, MINT, MTC, PTTEP, SCB, PR9 และ SIRI เป็น Top Pick
บล.ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) หรือ CGSI เปิดเผยในบทวิเคราะห์ ว่า หลังจากประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐประกาศเก็บ “ภาษีพื้นฐาน” (baseline tariff) ในอัตรา 10% จากสินค้าทั้งหมดที่นำเข้ามาในประเทศ มีผลวันที่ 5 เม.ย. 2025 พร้อมปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากหลายประเทศทั่วโลก (reciprocal tariff) อย่างเช่น จีนในอัตรา 34%, EU 20%, เวียดนาม 46%, ไต้หวัน 32% และไทย37% ซึ่งสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้มาก โดยจะมีผลบังคับใช้ 9 เม.ย. 2025
ขณะที่รัฐบาลคาดการณ์ว่าจะกระทบมูลค่าการส่งออกสินค้าของไทยประมาณ 7-8 พันล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งคิดเป็นประมาณ 13-15% ของมูลค่าการส่งออกสินค้าไปยังสหรัฐหรือ 2.3% ของมูลค่าการส่งออกของไทยในปี 2024 หากเราตั้งสมมติฐานว่าภาษีตอบโต้ของสหรัฐทำให้มูลค่าการส่งออกสินค้าและมูลค่าการนำเข้าสินค้าของไทยลดลง 10% yoy ในปี 2025
ทั้งนี้เชื่อว่าจะมีผลลบสุทธิต่อ GDP ไทยประมาณ 0.5%อย่างไรก็ตาม มูลค่าการส่งออกสินค้าที่ลดลงมักจะฉุดให้การบริโภคภาคเอกชนลดลงตาม ดังนั้นผลกระทบโดยรวมต่อเศรษฐกิจไทยในปี 2025 จึงน่าจะอยู่ที่ 0.9-1.2%หากปัจจัยอื่นไม่เปลี่ยนแปลง ทั้งนี้ ผลกระทบที่แท้จริงจาก reciprocal tariff อาจรุนแรงกว่าที่คาดการณ์ไว้
CGSI จึงประมาณการ EPS ของตลาดหุ้นไทยน่าจะได้รับผลกระทบประมาณ 10% เราปรับลดเป้าดัชนี SET สิ้นปีนี้เหลือ 1,200 จุด เท่ากับ P/E 13.4x ในปี FY26 (vs. จากเดิม 1,380 จุด P/E 14x ในปี FY26) เราแนะนำให้ลงทุนในหุ้น domestic defensive และหุ้นปันผลสูง โดยมี Top pick คือ BH, CBG, CPALL, CPN, HANA, KTB, MINT, MTC, PTTEP, SCB, PR9 และ SIRI