ตลาดคริปโตเผชิญแรงสั่นสะเทือน หลังอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศ "สถานการณ์ฉุกเฉินระดับชาติ" และเก็บภาษีศุลกากรใหม่ กระทบตลาดการเงินทั่วโลกโดยตรง ทำบิทคอยน์ผนผวนแรงพุ่งขึ้นก่อนร่วงหนัก ขณะที่นักวิเคราะห์มองว่าความชัดเจนของนโยบายภาษีอาจช่วยสร้างเสถียรภาพในระยะยาว แต่ยังต้องจับตาท่าทีตอบโต้จากจีนและสหภาพยุโรป
ตลาดคริปโตเผชิญแรงกดดันหนัก หลังอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศ "สถานการณ์ฉุกเฉินระดับชาติ" และบังคับใช้มาตรการภาษีศุลกากรครั้งใหญ่ โดยเรียกเก็บ ภาษีนำเข้า 10% จากทุกประเทศ และขึ้นภาษีเฉพาะประเทศ เช่น จีน 34% สหภาพยุโรป 20% และญี่ปุ่น 24% ส่งผลให้ตลาดการเงินและสินทรัพย์เสี่ยงร่วงระนาว
โดยบิทคอยน์ที่ก่อนหน้านี้เคยพุ่งขึ้นไปแตะ 88,500 ดอลลาร์ ในช่วงข่าวแรกของภาษีศุลกากร ก่อนจะร่วงลง 2.6% เหลือ 82,876 ดอลลาร์ ขณะที่ Ether (ETH) ดิ่งลงกว่า 6% จาก 1,934 ดอลลาร์ เหลือ 1,797 ดอลลาร์ มูลค่าตลาดรวมของคริปโตทรุด 5.3% เหลือ 2.7 ล้านล้านดอลลาร์
ดัชนี Crypto Fear & Greed ล่าสุดลดลงเหลือ 25 คะแนน ซึ่งอยู่ในระดับ "ความหวาดกลัวอย่างรุนแรง" สะท้อนถึงความวิตกกังวลของนักลงทุน
ราคาฟื้นตัวเล็กน้อย – นักลงทุนยังระแวงความเสี่ยง
แม้ว่าตลาดจะร่วงหนัก แต่บิทคอยน์และ Ether เริ่มฟื้นตัวบางส่วน โดย BTC ดีดกลับ 0.8% มาที่ 83,205 ดอลลาร์ และ ETH ฟื้นตัว 1.2% แตะ 1,810 ดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงจากมาตรการตอบโต้ของจีนและสหภาพยุโรปอาจทำให้เกิดแรงขายครั้งใหม่
ตามรายงานของ The Kobeissi Letter ระบุว่าตลาดหุ้นก็ไม่รอดจากแรงกดดันเช่นกัน โดยดัชนี S&P 500 สูญเสียมูลค่าตลาดไปกว่า 2 ล้านล้านดอลลาร์ หรือเฉลี่ย 125,000 ล้านดอลลาร์ต่อนาที
ด้าน ราเชล ลูคัส นักวิเคราะห์จาก BTC Markets ระบุว่า การพุ่งขึ้นของ BTC เป็นผลจากแรงซื้อคลายความไม่แน่นอนแต่เมื่อรายละเอียดภาษีถูกเปิดเผยเต็มรูปแบบ แรงขายก็ถาโถมเข้ามา
"ปริมาณการซื้อขาย BTC พุ่งขึ้น 46% เพราะนักลงทุนรีบปรับสถานะ ผู้เล่นรายใหญ่ทำกำไร ขณะที่นักลงทุนรายย่อยยังลังเล" ลูคัส กล่าว
นอกจากนี้ เธอเตือนว่า "หากจีนหรือสหภาพยุโรป ตอบโต้กลับอย่างรุนแรง อาจทำให้ตลาดคริปโตเผชิญแรงขายตื่นตระหนกอีกครั้ง"
"ภาษีนี้อาจเป็นจุดสิ้นสุดของความไม่แน่นอน" นักวิเคราะห์มองบวกในระยะยาว
ในขณะที่ตลาดอยู่ในช่วงสับสน สก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของสหรัฐฯ ได้ออกมาเรียกร้องให้พันธมิตรทางการค้าหลีกเลี่ยงการใช้มาตรการตอบโต้ โดยให้เหตุผลว่า "อัตราภาษีที่ประกาศไปอาจเป็นเพดานสูงสุดแล้ว"
เดวิด เฮอร์นันเดส ผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนจาก 21Shares มองว่าความผันผวนในช่วงแถลงการณ์ของทรัมป์เป็นเรื่องปกติ แต่ความชัดเจนของนโยบายภาษีอาจเป็นผลดีในระยะยาว
"แม้ว่าภาษีจะสูงกว่าที่คาดไว้เล็กน้อย แต่ตลาดก็ต้องการความแน่นอน การเก็งกำไรที่มากเกินไปถูกกำจัดออกไปแล้ว อาจเปิดโอกาสให้นักลงทุนสถาบันกลับเข้ามาในตลาด" เฮอร์นันเดส กล่าว
เขามองว่า การตอบสนองของประเทศอื่นๆ โดยเฉพาะจีน เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น จะเป็นตัวแปรสำคัญต่อทิศทางของตลาดคริปโตในอนาคต
อย่างไรก็ดี ตลาดคริปโตยังอยู่ในจุดเสี่ยง! นักลงทุนต้องจับตาความเคลื่อนไหวของนโยบายภาษีและมาตรการตอบโต้จากนานาชาติอย่างใกล้ชิดและพิจารณาวางแผนการลงทุนอย่างเหมาะสม