CEO Bitget เดือด! จวก Hyperliquid จัดการ JELLY ไม่โปร่งใส หมกเม็ดส่อเค้าผิดปกติ เปิด-ปิดฟิวเจอร์ส-คืนเงิน ทำเครือข่ายเสี่ยงเป็น “FTX 2.0” ชี้ความไว้วางใจพังฟื้นความเชื่อมั่นยาก!
วงการคริปโตปั่นป่วน เมื่อ เกรซี่ เฉิน ซีอีโอของเว็บแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัล Bitget ออกโรงตำหนิ Hyperliquid กระดานเทรด Perpetual Futures ชื่อดัง ว่าจัดการเหตุการณ์โทเค็น JELLY เมื่อ 26 มีนาคม ได้แย่สุดๆ “นี่อาจกลายเป็น FTX 2.0” เธอเตือน หลัง Hyperliquid ตัดสินใจยุติการซื้อขายฟิวเจอร์ส JELLY ถาวร และคืนเงินผู้ใช้ ด้วยเหตุผล “กิจกรรมตลาดที่ไม่โปร่งใส และมีความน่าสงสัยอย่างมาก”
โดยก่อนหน้านี้ Hyperliquid อ้างว่า พบหลักฐานการเคลื่อนไหวผิดปกติในโทเค็น JELLY แต่การตัดสินใจนี้ มาจากฉันทามติของผู้ตรวจสอบ (Validators) เพียงหยิบมือ ทำเอาคนสงสัยว่า เครือข่ายนี้กระจายอำนาจจริงหรือ? ขณะที่เฉินบอกว่า “ถึงจะโฆษณาว่าเป็นกระดาน Decentralized สุดล้ำ แต่ดูเหมือนกระดานออฟชอร์มากกว่า”
ปิดตลาด JELLY! ทำลายความเชื่อมั่นนักลงทุน
เฉิน วิจารณ์อย่างหนักหน่วงว่า “การปิดตลาด JELLY แล้วบังคับชำระราคาแบบนี้ เป็นบรรทัดฐานที่อันตราย” เธอย้ำว่า ความไว้วางใจคือหัวใจของทุกกระดานเทรด “ถ้าพังแล้ว ฟื้นคืนยากมาก” แม้ไม่ได้กล่าวหาว่าผิดกฎหมายตรงๆ แต่เธอบอกว่า การตอบสนองของ Hyperliquid “ ดูแล้วไม่เป็นผู้ใหญ่ ไร้จริยธรรม และขาดความเป็นมืออาชีพในการทำธุรกิจ”
ทั้งนี้JELLY โทเค็นจากโปรเจกต์ Web3 JellyJelly ของ "Iqram Magdon-Ismail" อดีตผู้ร่วมก่อตั้ง Venmo เปิดตัวในเดือนมกราคม ด้วยมูลค่าตลาด 250 ล้านดอลลาร์ แต่ร่วงเหลือหลักล้านในไม่กี่สัปดาห์ ตามข้อมูล DexScreener วันที่ 26 มีนาคม มูลค่าพุ่งกลับมาแตะ 25 ล้านดอลลาร์ หลังไบแนนซ์เปิดฟิวเจอร์ส JELLY
ล่อเม่าซื้อขายปั่นราคากันเอง?
"Abhi" จาก AP Collective เผยใน X ว่า มีเทรดเดอร์ใน Hyperliquid เปิดสถานะ Short 6 ล้านดอลลาร์ใน JELLY แล้ว “ปั๊มราคาเอง” เพื่อชำระบัญชีตัวเอง กลายเป็นจุดเริ่มต้นของดราม่า Hyperliquid รีบตัดจบด้วยการปิดตลาด แต่กลับยิ่งจุดคำถามถึงความโปร่งใส
อาร์เธอร์ เฮย์ ชี้ อย่าดราม่าเกินเหตุ มันไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ในวงการนี้
ขณะที่ "อาร์เธอร์ เฮย์ " ผู้ก่อตั้ง BitMEX มองต่างออกไปโดยเผยมุมมองต่อเหตุการณ์ดังกล่าวนี้ผ่านทาง X ว่า “Hyperliquid ตื่นตูมเกินไปกับเรื่องชื่อเสียง ควรเลิกแกล้งทำเป็นว่า Hyperliquid กระจายอำนาจได้แล้ว และเลิกคิดว่าเทรดเดอร์แคร์จริงๆ $HYPE จะกลับมาไวแน่ เพราะคนบ้าที่เสพติดการพนันก็ยังจมอยู่ในหลุมการพนันต่อ”
เจ็บมาแล้ว! ปัญหาเก่ายังหลอน
ย้อนไป 12 มีนาคม Hyperliquid เจอเหตุคล้ายกัน โดยมีนักลงทุนรายใหญ่ (วาฬ) ชำระบัญชี Ether 200 ล้านดอลลาร์ ทำให้คลังสภาพคล่อง HLP ขาดทุน 4 ล้านดอลลาร์ หลังเหตุนั้น พวกเขาเพิ่มหลักประกันสำหรับสถานะใหญ่ เพื่อลดความเสี่ยง แต่กรณี JELLY แสดงว่า ปัญหายังไม่จบ
Hyperliquid ครองตลาด Perpetual
VanEck รายงานมกราคมว่า Hyperliquid ครองตลาด Perpetual Futures ถึง 70% Perpetual คือฟิวเจอร์สแบบไม่มีวันหมดอายุ ใช้มาร์จิ้นอย่าง USDC แต่ L2Beat เผยว่า Hyperliquid มีผู้ตรวจสอบแค่ 8 ราย เทียบกับ Solana (1,000) หรือ Ethereum (1 ล้าน) ยิ่งผู้ตรวจสอบน้อย ความเสี่ยงรวมศูนย์ยิ่งสูง
Hyperliquid จะรอดไหม?
จากคำเตือนของ Chen ถึงเหตุการณ์ JELLY Hyperliquid เจอศึกหนักทั้งความเชื่อมั่นและภาพลักษณ์ ซึ่งท้ายที่สุดแล้วแพล็ตฟอร์มจะกลายเป็น FTX 2.0 หรือไม่ หรือแค่สะดุดชั่วคราว?
