xs
xsm
sm
md
lg

IRPC ประสบความสำเร็จ หุ้นกู้ขายเกลี้ยง มูลค่ารวม 11,000 ล้านบาท

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



IRPC ปิดการเสนอขายหุ้นกู้ 5 ชุด และหุ้นกู้ดิจิทัล 1 ชุด รวมทั้งหมด 6 ชุด มูลค่ารวม 11,000 ล้านบาท ได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดี สะท้อนความเชื่อมั่นของผู้ลงทุนที่มีต่อปัจจัยพื้นฐานของบริษัทฯ

นายพิจินต์ อภิวันทนาพร รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บัญชีและการเงิน บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) หรือ “IRPC” เปิดเผยว่า การเสนอขายหุ้นกู้ของ IRPC ครั้งที่ 1/2568 จำนวนรวม 6 ชุด แบ่งเป็นการเสนอขายให้กับผู้ลงทุนสถาบันจำนวน 1 ชุด และเสนอขายให้กับประชาชนเป็นการทั่วไป จำนวน 5 ชุด ที่เปิดจองซื้อระหว่างวันที่ 20 - 21 และ 24 มีนาคม ที่ผ่านมานั้น ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี ได้รับการตอบรับจากผู้ลงทุนทุกกลุ่ม ทำให้ IRPC สามารถออกหุ้นกู้ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของผู้ลงทุนทุกกลุ่มที่มีต่อบริษัทฯ

ทั้งนี้ IRPC ได้เสนอขายหุ้นกู้ 5 ชุด และหุ้นกู้ดิจิทัล 1 ชุด ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน ประกอบด้วยหุ้นกู้ชุดที่ 1 อายุ 2 ปี 10 เดือนอัตราส่วนลดต่อหน่วยร้อยละ 3.34 ต่อปี หุ้นกู้ชุดที่ 2 อายุ 4 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.80% ต่อปี หุ้นกู้ชุดที่ 3 อายุ 6 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.10% ต่อปี หุ้นกู้ชุดที่ 4 อายุ 7 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.25% ต่อปี หุ้นกู้ชุดที่ 5 อายุ 9 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.35% ต่อปี และหุ้นกู้ดิจิทัล ชุดที่ 6 อายุ 5 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.95% ต่อปี ซึ่งผู้ลงทุนสามารถจองซื้อหุ้นกู้ผ่านช่องทางที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น สำนักงานใหญ่ สาขา ช่องทางออนไลน์ และแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ของผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้

“บริษัทฯ ขอขอบคุณผู้ลงทุนทุกท่านที่ไว้วางใจและให้ความสนใจจองซื้อหุ้นกู้ IRPC ทำให้การเสนอขายครั้งนี้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันถึงความเชื่อมั่นที่ผู้ลงทุน มีต่อปัจจัยพื้นฐานของบริษัทฯ โดยหุ้นกู้ IRPC ได้รับการจัดอันดับเครดิตที่ระดับ “A-” แนวโน้ม “คงที่” หรือ “Stable” จากทริสเรทติ้ง เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2568 นอกจากนี้ บริษัทฯ ขอขอบคุณสถาบันการเงินทั้ง 10 แห่ง ที่มีบทบาทสำคัญในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ที่สนับสนุนให้การเสนอขายหุ้นกู้ครั้งนี้ประสบความสำเร็จ ประกอบด้วย ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย ธนาคารทหารไทยธนชาต ธนาคาร ยูโอบี ธนาคารออมสิน และบริษัทหลักทรัพย์เกียรตินาคินภัทร” นายพิจินต์ กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น