xs
xsm
sm
md
lg

นักเศรษฐศาสตร์ชั้นนำเร่งจีนเพิ่มศักยภาพแข่งขันe-CNY เตือนสเตเบิลคอยน์ยิ่งหนุนดอลลาร์ครอบงำการเงินโลก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


เทเธอร์ (USDT) สเตเบิลคอยน์ทรงอิทธิพลที่สุดถูกมองว่า จะช่วยส่งเสริมการครอบงำระบบการเงินโลกของดอลลาร์
นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสจีนเตือนการปล่อยให้สเตเบิลคอยน์ที่อ้างอิงตามค่าดอลลาร์ขยายอิทธิพลอย่างอิสระเท่ากับเปิดโอกาสให้อเมริกาครอบงำระบบการเงินระหว่างประเทศมากขึ้น แนะปักกิ่งเพิ่มความพยายามสร้างเสริมบทบาทของเงินหยวนดิจิทัลในระบบการค้าโลกก่อนถูกทิ้งไว้ข้างหลัง

รายงานล่าสุดจากสื่อท้องถิ่นสะท้อนความกังวลภายในพรรคคอมมิวนิสต์จีนเกี่ยวกับการที่อเมริกาทุ่มเทความสนใจมากขึ้นในการพัฒนาสเตเบิลคอยน์ และเตือนว่า สเตเบิลคอยน์โดยเฉพาะที่ผูกกับค่าดอลลาร์กำลังจะเปลี่ยนแปลงโฉมหน้าตลาดการเงินระหว่างประเทศ รวมทั้งเรียกร้องให้ปักกิ่งเร่งรัดการยอมรับและเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของสกุลเงินดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลาง (CBDC) ของจีน ซึ่งหมายถึงเงินหยวนดิจิทัล (e-CNY)

สินทรัพย์ดิจิทัลแบ่งออกเป็น 3 หมวดหมู่ ได้แก่ คริปโตอย่างบิตคอยน์, อัลต์คอยน์ ซึ่งหมายถึงเงินดิจิทัลสกุลอื่นๆ นอกเหนือจากบิตคอยน์ และหมวดหมู่ที่ 3 คือ CBDC

ในบรรดาสินทรัพย์ดิจิทัลเหล่านี้ สเตเบิลคอยน์และ CBDC ถูกคาดหมายว่า จะส่งผลกระทบต่อระบบการเงินโลกมากที่สุด และเนื่องจากสเตเบิลคอยน์ผูกติดกับสกุลเงินของประเทศจึงได้รับถ่ายทอดคุณสมบัติทางการเงินของสกุลเงินเหล่านั้นมาด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสเตเบิลคอยน์ที่อ้างอิงตามค่าดอลลาร์ที่ได้ประโยชน์จากความเสถียรและการได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางของดอลลาร์ จึงดึงดูดความสนใจของนักลงทุนระหว่างประเทศมากขึ้น

นอกจากนั้นการที่ขณะนี้อเมริกาเร่งรัดกำหนดกฎระเบียบที่ชัดเจนขึ้นซึ่งอาจปักหมุดสถานะสเตเบิลคอยน์เป็นเครื่องมือหลักในการค้าระหว่างประเทศ จึงทำให้ผู้นำจีนเชื่อว่า ต้องเร่งพัฒนาเงินหยวนดิจิทัลให้สามารถแข่งขันได้มากขึ้น

อย่างไรก็ตาม แม้เป็นประเทศแรกๆ ที่ออก CBDC แต่จีนยังคงจำกัดการใช้เงินหยวนดิจิทัลกับการทำธุรกรรมรายย่อยเป็นหลัก
จากข้อมูลของจาง หมิง รองผู้อำนวยการสถาบันการเงินและเศรษฐศาสตร์ และห้องปฏิบัติการการเงินและการพัฒนาแห่งชาติ สถานการณ์ปัจจุบันเอื้ออำนวยต่อสเตเบิลคอยน์ที่อ้างอิงตามค่าดอลลาร์อย่างมาก

จางเตือนว่า ถ้าอเมริกาเชื่อมโยงสเตเบิลคอยน์ที่อ้างอิงตามค่าดอลลาร์กับตลาดสินเชื่อระหว่างประเทศโดยใช้สถานการณ์ของโลกเสมือนสำเร็จ อาจทำให้สถานะการเป็นเจ้าโลกของดอลลาร์มั่นคงแข็งแรงยิ่งขึ้นทั้งในระบบเศรษฐกิจทางกายภาพและระบบเศรษฐกิจดิจิทัล ซึ่งจะทำให้การแข่งขันในระดับโลกท้าทายมากขึ้นสำหรับสกุลเงินอื่นๆ

จากข้อมูลของคริปโตสเลต ปัจจุบันเทเธอร์ (USDT) และยูเอสดี คอยน์ (USDC) ร่วมกันครองส่วนแบ่งตลาดสเตเบิลคอยน์เกือบ 90% เฉพาะ USDT นั้นมีมูลค่าตามราคาตลาด 143,000 ล้านดอลลาร์ ส่วน USDC มี 60,000 ล้านดอลลาร์ โทเคนสองสกุลนี้เป็นส่วนหนึ่งในอุตสาหกรรมสเตเบิลคอยน์ที่มีมูลค่า 236,000 ล้านดอลลาร์

สเตเบิลคอยน์เหล่านี้มีการนำไปใช้อย่างกว้างขวางในรูปคู่ซื้อขายในการเทรดคริปโต โดยนำเสนอสภาพคล่องและทำหน้าที่เป็นตัวกลางระหว่างเงินจริงกับสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างบิตคอยน์และอีเธอเรียม

ในประเทศกำลังพัฒนาหลายแห่ง สินทรัพย์เหล่านี้ได้รับความนิยมในฐานะสินทรัพย์ดิจิทัลที่เก็บรักษามูลค่าได้ ช่วยให้ผู้ใช้รักษาอำนาจซื้อในระบบเศรษฐกิจที่ไร้เสถียรภาพ

รายงานของจางเรียกร้องให้จีนเพิ่มความพยายามในการขยายบทบาท e-CNY ในระบบการเงินโลก โดยแนะนำให้จีนเพิ่มการใช้โทเคนดิจิทัลในแพลตฟอร์มออนไลน์และรวมเข้าสู่แอปพลิเคชันระดับโลกมากขึ้น จางเชื่อว่า การออกแบบ ตลอดทั้งการป้องกันและควบคุมความเสี่ยงอย่างเหมาะสม และการเพิ่มการใช้โทเคนดิจิทัลบนแพลตฟอร์มระหว่างประเทศจะช่วยยกระดับสถานะของเงินหยวนดิจิทัลและคานอำนาจสเตเบิลคอยน์ที่อ้างอิงตามค่าดอลลาร์ที่กำลังแผ่ขยายอิทธิพลได้มากขึ้น

ความกังวลของจีนสะท้อนคำเตือนในลักษณะเดียวกันในยุโรป โดยเมื่อต้นเดือนมีนาคม เจ้าหน้าที่สหภาพยุโรป (อียู) แสดงความหวาดวิตกว่า จุดยืนในการสนับสนุนคริปโตของอเมริกาอาจส่งให้สเตเบิลคอยน์ที่อ้างอิงตามค่าดอลลาร์ยิ่งได้เปรียบสเตเบิลคอยน์ที่ผูกกับค่าเงินยูโร

Pierre Gramegna กรรมการผู้จัดการกลไกเสถียรภาพยุโรป (European Stability Mechanism) ย้ำว่า แนวโน้มนี้อาจคุกคามอิสรภาพทางการเงินของอียู
กำลังโหลดความคิดเห็น