กรุงศรี คอนซูมเมอร์ เปิดแผนปี 2568 ตั้งเป้ามียอดบัญชีลูกค้าใหม่ 652,500 บัญชี (+10%) ยอดใช้จ่ายผ่านบัตร 431,500 ล้านบาท (+10%) ยอดสินเชื่อใหม่ 108,800 ล้านบาท (+14%) และยอดสินเชื่อคงค้าง 158,500 ล้านบาท (+8%) ประกาศกลยุทธ์ พร้อมสานต่อความเป็นผู้นำในธุรกิจบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล พร้อมกันรีแบรนดิ้งบัตรในเครือ-บัตรผ่อนชำระสร้างการเติบโต รายได้ไปพร้อมๆ กับการบริหารความเสี่ยง
นายอธิศ รุจิรวัฒน์ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านกรุงศรี คอนซูมเมอร์ ผู้ให้บริการด้านบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล อันประกอบไปด้วย บัตรเครดิต กรุงศรี บัตรกรุงศรีเฟิร์สช้อยส์ บัตรเครดิตเซ็นทรัล เดอะวัน และบัตรเครดิตโลตัส เปิดเผยว่า ในปี 2568 นี้ บริษัทตั้งเป้าหมายทางธุรกิจโดยมียอดบัญชีลูกค้าใหม่ 652,500 บัญชี เพิ่มขึ้น 10% ยอดใช้จ่ายผ่านบัตร 431,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% ยอดสินเชื่อใหม่ 108,800 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14% และยอดสินเชื่อคงค้าง 158,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8%
โดยยังคงมุ่งเน้นสร้างการเติบโตอย่างมีคุณภาพ พร้อมเพิ่มศักยภาพในการสร้างรายได้ เพื่อคงความเป็นผู้นำในธุรกิจ โดยยึดความต้องการของลูกค้าเป็นศูนย์กลาง ผ่าน 5 กลยุทธ์หลัก ได้แก่ 1.มุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์หลักให้ตอบโจทย์ลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น 2.ขยายระบบนิเวศพันธมิตรเพื่อขยายธุรกิจ 3.สร้างเสริมนวัตกรรมทางการชำระเงิน 4.ผสานความร่วมมือในเครือกรุงศรีเพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจ และ 5.พัฒนาประสิทธิภาพการดำเนินงาน
นายอธิศ กล่าวอีกว่า กลยุทธ์ของกรุงศรี คอนซูมเมอร์ยังคงเดิม แต่จะมีส่วนเสริมในแต่ละกลยุทธ์เพื่อนำไปสู่ดป้าหมายในการสร้างการเติบโตในปีนี้ ซึ่งเราจะต้องมีการรีแบรนดิ้งในหลายบัตรไม่ว่าจะเป็นไม่ว่าจะเป็นบัตรเซ็นทรัล เดอะซัน บัตรกรุงศรี เพื่อให้มีสร้างความพึงพอใจให้ผู้ถือมากขึ้น พร้อมกันนั้น จะหันมาเน้นสร้างรายได้จากกลุ่มธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคล-ผ่อนชำระที่นำโดยกรุงศรี เฟิร์สช้อยส์เพื่อการสร้างรายได้ การเติบโต ไปพร้อมกับการบริหารความเสี่ยง และการบริหารด้านต้นทุนให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
"ในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา เราเบาในเรื่องสินเชื่อบุคคลไปมาก จากที่มองว่าความเสี่ยงสูง แต่จากนี้ด้วยสภาวะการแข่งขันที่สูง และหากต้องการสานต่อความเป็นหนึ่ง ก็จำเป็นต้องโต ซึ่งเรามองไปที่กรุงศรี เฟิร์สช้อยส์หรือสินเชื่อบุคคลที่สร้างรายได้มากกว่า และที่ผ่านมาเราไปเร่งที่บัตรเครดิตจนกินสัดส่วนของสินเชื่อบุคคลไป 10% แล้ว ตอนนี้จะเอาสัดส่วนนั้นกลับมา ซึ่งจะต้องมีการรีเฟรชแบรนด์ด้วย รวมถึงต้องมีการบาลานซ์ระหว่างความเสี่ยงและการเติบโตด้วย"
สำหรับผลประกอบการในปี 2567 ที่ผ่านมาของกรุงศรี คอนซูมเมอร์ เติบโตเป็นที่น่าพอใจ จากความสำเร็จในการเดินกลยุทธ์ของบริษัท โดยมียอดบัญชีลูกค้าใหม่ 594,000 บัญชี เติบโต +6% ยอดใช้จ่ายผ่านบัตร 392,500 ล้านบาท เติบโต +8% ยอดสินเชื่อใหม่ 95,500 ล้านบาท เติบโต +4% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และยอดสินเชื่อคงค้าง 146,200 ล้านบาท ทั้งนี้ หมวดใช้จ่ายผ่านบัตรสูงสุดเรียงตามยอดใช้จ่าย ได้แก่ 1.ประกันภัย 2.ไฮเปอร์มาร์ท ซูเปอร์มาร์เก็ต และร้านสะดวกซื้อ 3.ปั๊มน้ำมัน 4.ตกแต่งบ้านและเครื่องใช้ในครัวเรือน และ 5.ชอปออนไลน์ ส่วนหมวดใช้จ่ายที่มีอัตราเติบโตสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ 1.ตัวแทนท่องเที่ยว 2.โซเชียลมีเดียและแอปพลิเคชัน 3.ชอปออนไลน์ 4.แอปดิลิเวอรี และ 5.สุขภาพและความงาม ขณะที่อัตราส่วนหนี้ที่ค้างชำระเกิน 90 วัน อยู่ที่ระดับ 1.1% สำหรับบัตรเครดิต และ 2.6% สำหรับสินเชื่อส่วนบุคคลและสินเชื่อผ่อนชำระ นับว่าต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในธุรกิจ อันเป็นผลจากการบริหารความเสี่ยงที่รัดกุม
**หนุนตรึงชำระขั้นต่ำ 8%**
"ในปีที่แล้วไม่ง่ายเลยสำหรับทุกอุตสาหกรรม ปีนี้ก็เช่นกัน อาจจะหนักกว่าปีก่อนด้วย โดยปัจจัยหลักๆ ยังเป็นปัจจัยภายนอก ขณะที่ปัจจัยภายในประเทศยังคงเป็นจีดีพีโตต่ำ หนี้ครัวเรือนต่อจีดีพีสูง และเรื่องของคุณภาพหนี้ ซึ่งปัจจุบันถือว่าทรงตัว แต่ยังต้องเฝ้าระวังเช่นกัน โดยในช่วงต้นปีที่ผ่านมาที่ภาครัฐมีมาตรการลดหย่อนภาษี (Easy E-receipt) นั้น จากการสำรวจร้านค้าที่ออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ได้นั้นยอดใช้จ่ายบัตรเครดิตเพิ่มขึ้น 8.9% สินเชื่อบุคคลเพิ่มขึ้น 14% แม้จะไม่เป็นไปตามเป้าแต่เชื่อว่าในช่วงครึ่งปีหลังซึ่งเป็นช่วงไฮซีซันจะมียอดใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นได้อีก ส่วนการคงการชำระขั้นต่ำที่ 8%นั้น น่าจะเป็นอัตราที่เหมาะสมกับสภาวะปัจจุบัน โดยหากปรับขึ้นไปสู่ระดับ 10% อาจจะกระทบเอ็นพีแอลได้เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ยังเปราะบาง"