xs
xsm
sm
md
lg

บสย.เร่งเจรจาลีสซิ่ง ร่วมปล่อยกู้เช่าซื้อรถกระบะมือหนึ่ง จัดวงเงิน 1 แสนล้านพลิกฟื้น SME

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เร่งเจรจาบริษัทลีสซิ่ง Non-Bank และลีสซิ่งของบริษัทรถยนต์ ภายในเดือน มี.ค.นี้ เพื่อชักชวนร่วมเป็นพันธมิตร “ปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อรถกระบะมือหนึ่ง” จำนวน 1 หมื่นคัน พร้อมเปิดตัวก่อนเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ช่วงงานมอเตอร์โชว์ จัดวงเงินค้ำประกันสินเชื่อกว่า 1 แสนล้านตลอดปี 2568 พลิกฟื้น SMEs ไทย

ขานรับนโยบายรัฐ ปลดล็อก SMEs ซื้อรถกระบะใหม่ หนุน “กลุ่มเปราะบาง” เข้าถึงสินเชื่อ

นายสิทธิกร ดิเรกสุนทร กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) กล่าวว่า ขณะนี้ บสย.ได้เตรียมวงเงินค้ำประกันสินเชื่อเช่าซื้อรถกระบะใหม่มือหนึ่ง เพื่อให้ SME ใช้เชิงพาณิชย์เพื่อการขนส่งสินค้าและธุรกิจค้าขาย (บสย.SMEs PICK-UP) วงเงิน 1 หมื่นล้านบาท อายุโครงการ 7 ปี ตั้งเป้าช่วยเหลือ SME ทั้งบุคคลธรรมดาและนิติบุคคลเข้าถึงสินเชื่อรถยนต์กระบะมือหนึ่ง จำนวน 1 หมื่นคัน โดยขณะนี้ บสย.อยู่ระหว่างเข้าพบหารือกับลีสซิ่งของบริษัทรถยนต์ ลีสซิ่ง Non-Bank และลีสซิ่งในเครือสถาบันการเงิน เพื่อร่วมเป็นพันธมิตรภายใต้ “มาตรการค้ำประกันสินเชื่อเช่าซื้อรถกระบะมือหนึ่ง” ทั้งนี้ จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการก่อนเทศกาลสงกรานต์ปี 2568 (ระยะเดียวกับงานมอเตอร์โชว์) รวมทั้งได้นำมาตรการปรับโครงสร้างหนี้ (สีฟ้า) “บสย.พร้อมช่วย” มาดำเนินการคู่ขนานกับ SMEs PICK-UP นี้

อย่างไรก็ตาม จะต้องมีการแก้ พ.ร.บ.บสย.เพื่อเปิดทางให้ บสย.สามารถค้ำสินเชื่อรถกระบะมือหนึ่งได้เพิ่มเติม เนื่องจากปัจจุบันค้ำประกันแต่ได้ลีสซิ่งในเครือสถาบันการเงินเท่านั้น มีเพียง 6 ธนาคารพาณิชย์ที่เข้าร่วม เช่น ธนาคารทหารไทยธนชาต (TTB) ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) ธนาคารทิสโก้ (TISCO) และธนาคารเกียรตินาคินภัทร (KKP) และมีธนาคารที่ทำธุรกรรมเช่าซื้อรถผ่านบริษัทลูก เช่น ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) ดำเนินการผ่าน บจก.ลีสซิ่ง กสิรกรไทย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) ดำเนินการผ่าน บจก.อยุธยา แคปปิตอล ออโต้ ลิส (กรุงศรี ออโต้) ทั้งนี้ โดยจะแก้กฎหมายให้ครอบคลุมการค้ำประกันลีสซิ่ง Non-Bank และลีสซิ่งของบริษัทรถยนต์ ทั้งนี้ มีค่ายรถยนต์ที่มีลีสซิ่งเป็นของตนเอง แต่ยังไม่ได้เข้าระบบของ บสย.เช่น โตโยต้า อีซูซุ มาสด้า ฟอร์ด หากแก้กฎหมายเสร็จจะเปิดทางให้ลีสซิ่งบริษัทรถยนต์เหล่านี้ทำธุรกรรมได้ง่ายขึ้นตามโครงการ

“ช่วงเริ่มต้นสามารถเข้าค้ำประกันสินเชื่อรถกระบะมือหนึ่งกับลีสซิ่งในเครือสถาบันการเงินได้ทันที การหารือกับลีสซิ่ง Non-Bank และลีสซิ่งบริษัทรถยนต์ เพื่อหาพันธมิตรและปิดจุดอ่อนการค้ำประกันสินเชื่อและปล่อยสินเชื่อให้มีคุณภาพเพิ่มขึ้น ซึ่งแต่ละลีสซิ่งสามารถมีข้อกำหนดในการกำกับความเสี่ยงที่แตกต่างกันได้ ดังนั้น ลูกค้าจะต้องศึกษารายละเอียดก่อนตัดสินใจ ค่าธรรมเนียมค้ำประกันอยู่ที่ 2% ส่วนดอกเบี้ยเงินกู้ของลีสซิ่งคาดว่าอยู่ประมาณ 3% รวมค่าใช้จ่ายโดยประมาณไม่เกิน 6% ทั้งนี้ คาดว่าจะใช้เวลาเจรจากับลีสซิ่งให้ร่วมโครงการและกำกับความเสี่ยงร่วมกันให้ได้ข้อยุติภายในเดือน มี.ค.นี้ พร้อมเปิดตัวก่อนเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ ช่วงระยะเวลางานมอเตอร์โชว์ ส่วนที่มีผู้สอบถามว่าจะเข้าค้ำประกันเพื่อปล่อยกู้รถกระบะมือสองหรือไม่ อยู่ระหว่างรันโครงการนี้ก่อน หากประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี อาจมีแผนเข้าค้ำรถกระบะมือสองในอนาคตได้

สำหรับขั้นตอนการค้ำประกันรถกระบะเช่าซื้อมือหนึ่ง ประกอบด้วย ลูกค้า SME ไปโชว์รูมรถยนต์กระบะมือหนึ่งและขอกู้กับลีสซิ่งที่เข้าร่วมและดำเนินการขอค้ำประกันสินเชื่อกับ บสย.ผ่านกระบวนการเครดิตการันตี ลูกค้ารับรถไปใช้งาน โดยผ่อนส่งงวดรถตามปกติ (ขึ้นอยู่กับความสามารถในการผ่อน 1-7 ปี) หากประสบปัญหาผ่อนไม่ไหว ทาง บสย.ได้วางแนวทางกรณีผ่อนไม่ไหวไว้ 2 แนวทางคือ 1.ผ่อนไม่ไหว ให้ลูกค้านำรถมาคืนลีสซิ่ง โดยหยุดผ่อนต่อ ลีสซิ่งจะนำรถออกประมูล โดย บสย.จะจ่ายส่วนต่างของภาระหนี้กับราคาขายทอดตลาด ส่วนแนวทางที่ 2 คือ ผ่อนไม่ไหวแล้วติดต่อลูกค้าไม่ได้ บสย.จะจ่ายเคลมให้ลีสซิ่งระหว่าง 30-50% ของหนี้ เพื่อให้ลีสซิ่งคู่สัญญาลดภาระกันสำรองหนี้สงสัยจะสูญ


สำหรับผลดำเนินงานปี 2567 บสย. มียอดค้ำประกันสินเชื่อ 53,738 ล้านบาท ช่วย SMEs ได้รับสินเชื่อ 88,472 ราย ในจำนวนนี้เป็นผู้ประกอบการรายย่อย (Micro SMEs) 90% ค้ำประกันเฉลี่ย 100,000 บาทต่อราย อีก 10% เป็น SMEs ทั่วไป ค้ำประกันเฉลี่ย 4.96 ล้านบาทต่อราย ก่อให้เกิดสินเชื่อในระบบสถาบันการเงิน 58,986 ล้านบาท รักษาการจ้างงาน 487,253 ตำแหน่ง และสร้างผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจได้มากกว่า 220,462 ล้านบาท ภายใต้ 3 โครงการหลัก ได้แก่ 1.โครงการตามมาตรการรัฐ วงเงิน 33,502 ล้านบาท คิดเป็น 62% ของยอดค้ำประกัน ช่วย SMEs เข้าถึงสินเชื่อ 83,012 ราย 2.โครงการค้ำประกันสินเชื่อ โดย บสย. ดำเนินการเอง วงเงิน 10,343 ล้านบาท คิดเป็น 20% ของยอดค้ำประกัน ช่วย SMEs เข้าถึงสินเชื่อ 5,184 ราย และ 3.โครงการ พ.ร.ก. สินเชื่อฟื้นฟู ระยะที่ 2 (โครงการค้ำประกันสินเชื่อดอกเบี้ยถูก) วงเงิน 9,893 ล้านบาท คิดเป็น 18% ของยอดค้ำประกัน ช่วย SMEs เข้าถึงสินเชื่อ 1,543 ราย

สำหรับโครงการหลัก PGS 11 “บสย. SMEs ยั่งยืน” มียอดค้ำประกัน 28,537 ล้านบาท ช่วย SMEs เข้าถึงสินเชื่อ 30,381 ราย โดยเป็นกลุ่มที่ไม่เคยใช้บริการ บสย. (ลูกค้าใหม่) ถึง 72% และเป็นกลุ่ม Micro SMEs ถึง 83% ตอกย้ำความสำเร็จในการช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อย พ่อค้า แม่ค้า อาชีพอิสระ ที่มีปัญหาในการเข้าถึงสินเชื่อ สามารถเข้าถึงสินเชื่อในระบบได้มากขึ้น โดยประเภทอุตสาหกรรมที่ค้ำประกันสินเชื่อสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ 1.ภาคบริการ 28.4% 2.การผลิตสินค้าและการค้าอื่นๆ 10.8% และ 3.อาหารและเครื่องดื่ม 10.7% ซึ่งทั้ง 3 อุตสาหกรรมมีสัดส่วนค้ำประกันถึง 50% สะท้อนถึงอุตสาหกรรมหลักของประเทศที่มีส่วนสำคัญขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย

จัดกิจกรรม “บสย. พร้อมค้ำ พร้อมช่วย” ปลดหนี้ ลดต้นสูงสุด 30%
นายสิทธิกร กล่าวว่า ตลอดปี 2567 บสย. ยังมีภารกิจสำคัญในการช่วยแก้หนี้ให้ SMEs ที่ บสย. จ่ายค่าประกันชดเชย (ลูกหนี้ บสย.) ตอบโจทย์นโยบายภาครัฐ ผ่านมาตรการ “บสย. พร้อมช่วย” หรือมาตรการ 3 สี (ม่วง เหลือง เขียว) ซึ่งเริ่มขึ้นในเดือนเมษายน 2565 จุดเด่นคือ “ผ่อนน้อย เบาแรง” “ตัดเงินต้น ก่อนตัดดอก” หรือจ่ายเงินต้นบางส่วน คิดอัตราดอกเบี้ย 0% และผ่อนยาว 7 ปี “หนี้ลด หมดเร็ว“ โดยตั้งแต่ออกมาตรการในปี 2565 ประสบผลสำเร็จในการช่วยเหลือลูกหนี้ไปแล้วถึง 18,489 ราย (เฉพาะปี 2567 จำนวน 4,037 ราย) คิดเป็นมูลหนี้รวมกว่า 11,872 ล้านบาท สูงสุดเป็นประวัติการณ์ในรอบ 33 ปี นับตั้งแต่ก่อตั้ง บสย.

ทั้งนี้ เพื่อให้ความช่วยเหลือเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ในปี 2568 บสย. ได้ปรับเงื่อนไขมาตรการ “บสย. พร้อมช่วย” ให้ผ่อนปรนยิ่งขึ้น เพื่อช่วย SMEs ปลดหนี้ได้เร็วขึ้น ง่ายขึ้น เช่น เพิ่มระยะเวลาผ่อน ตัดเงินต้นเพิ่มขึ้น เป็นต้น นอกจากนี้ ยังได้เปิดตัวมาตรการใหม่ ช่วย SMEs “กลุ่มเปราะบาง” ที่มียอดหนี้ เงินต้นไม่เกิน 2 แสนบาท อัตราดอกเบี้ย 0% ชำระครั้งแรกเพียง 500 บาท ผ่อนสูงสุด 80 เดือน ตัดเงินต้นทั้งจำนวน ค่างวดขั้นต่ำเพียง 500-2,500 บาท และสามารถปลดหนี้ ลดต้น 30% เมื่อจ่ายต่อเนื่อง 6 งวด โดยตลอดปี 2568 ตั้งเป้าปรับโครงสร้างหนี้ผ่านมาตรการ “บสย. พร้อมช่วย” ไม่ต่ำกว่า 5,000 ราย คิดเป็นมูลหนี้ไม่ต่ำกว่า 5,000 ล้านบาท

พร้อมกันนี้ ยังได้จัดกิจกรรมเชิงรุก “บสย. พร้อมค้ำ พร้อมช่วย” ระดมทีมงานผู้เชี่ยวชาญให้คำแนะนำการปรับโครงสร้างหนี้ผ่านมาตรการ “บสย. พร้อมช่วย” และการเข้าถึงสินเชื่อให้กับ SMEs เดินสายออกบูทที่ห้างโลตัส 12 จังหวัด กระจายไปยังทุกภูมิภาคทั่วประเทศ ตลอดเดือนมกราคม-มีนาคม 2568 โดยในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา มี SMEs และลูกหนี้ บสย. เข้าร่วมกิจกรรมที่บูทรวม 288 ราย เป็นลูกหนี้ที่เข้ามาเจรจาปรับโครงสร้างหนี้ 229 ราย คิดเป็นมูลหนี้ 183 ล้านบาท ในจำนวนนี้เป็น SMEs ลูกหนี้ “กลุ่มเปราะบาง” ยอดหนี้ไม่เกิน 200,000 บาท จำนวน 175 ราย โดยมีลูกหนี้สามารถปลดหนี้ ปิดบัญชีได้ถึง 93 ราย จำนวนนี้เป็นกลุ่มเปราะบางสูงถึง 96% คิดเป็นมูลหนี้ 5.6 ล้านบาท สำหรับลูกหนี้ บสย. ที่ต้องการปรับโครงสร้างหนี้ สามารถลงทะเบียนผ่าน LINE OA : @tcgfirst ฟรี! หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ บสย. Call Center โทร.0-2890-9999

จัดวงเงินค้ำประกันสินเชื่อกว่า 1 แสนล้านตลอดปี 2568
นายสิทธิกร กล่าวว่า ในปีนี้ บสย. สานต่อการยกระดับ และพัฒนาการค้ำประกันสินเชื่อในประเทศไทยให้แข็งแกร่ง เสริมสร้างกลไกการค้ำประกันสินเชื่อ การบริหารจัดการความเสี่ยงที่ดีขึ้น และเพิ่มศักยภาพในการสนับสนุนทางการเงินให้ SMEs พร้อมเปิดตัวโครงการค้ำประกันสินเชื่อรูปแบบใหม่ๆ เพื่อขยายการช่วยเหลือ SMEs ให้ครอบคลุมมากที่สุด เมื่อบวกกับข้อมูลของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ล่าสุดที่ระบุถึงสินเชื่อที่หดตัวลงในปี 2567 สำหรับสินเชื่อระบบธนาคารพาณิชย์หดตัว 0.4% ลดลงสูงสุดในรอบ 15 ปี โดยสินเชื่อธุรกิจ SMEs หดตัวลง เช่นเดียวกับสินเชื่อเช่าซื้อที่ลดลง 9.9% ซึ่งเป็นการลดลงต่อเนื่อง

จากสถานการณ์ดังกล่าว บสย. ต้องการเป็นส่วนหนึ่งในการช่วย SMEs จำนวนกว่า 3.2 ล้านราย ให้สามารถเข้าถึงสินเชื่อได้ง่ายขึ้น ผ่านกลไกการค้ำประกันของ บสย. ปีนี้ได้เตรียมวงเงินค้ำประกันสินเชื่อ 110,000 ล้านบาท คาดว่าจะก่อให้เกิดสินเชื่อในระบบ 142,000 ล้านบาท ช่วย SMEs เข้าถึงสินเชื่อ 165,000 ราย รักษาการจ้างงาน 940,000 ตำแหน่ง และสร้างผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจได้ 454,300 ล้านบาท ผ่านโครงการค้ำประกันสินเชื่อต่างๆ ทั้งโครงการตามมาตรการรัฐ PGS 11 “บสย. SMEs ยั่งยืน” และโครงการค้ำประกันสินเชื่อ โดย บสย. ดำเนินการเอง ครอบคลุมการช่วยเหลือ SMEs ทุกกลุ่ม


กำลังโหลดความคิดเห็น