xs
xsm
sm
md
lg

ORI ยื่นขายหุ้นกู้ล็อตใหม่ 2 รุ่น ชูดอกเบี้ย 4.85-5.15% ต่อปี แบ็กล็อกแกร่ง 44,562 ล้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ เตรียมขายหุ้นกู้ล็อตใหม่ 2 รุ่น อัตราดอกเบี้ย 4.85-5.15% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน คาดเสนอขายวันที่ 1-3 เมษายน 2568 ผ่าน 9 สถาบันการเงิน การันตีความน่าเชื่อถือระดับ “BBB+/Stable” จากทริสเรทติ้ง พร้อมแบ็กล็อกแกร่ง 44,562 ล้านบาท

นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI กล่าวว่า บริษัทเตรียมเสนอขายหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ ต่อผู้ลงทุนทั่วไป และ/หรือผู้ลงทุนสถาบัน หรือที่เรียกว่า Public Offering โดยหุ้นกู้ที่ออกจำหน่ายเป็นครั้งที่ 2/2568 มีจำนวน 2 รุ่น ได้แก่ รุ่นอายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ย 4.85% ต่อปี และรุ่นอายุ 4 ปี อัตราดอกเบี้ย 5.15% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน ตลอดอายุหุ้นกู้ จองขั้นต่ำหน่วยละ 100,000 บาท และทวีคูณครั้งละ 100,000 บาท คาดว่าจะเสนอขายระหว่างวันที่ 1-3 เมษายน 2568 โดยบริษัท และหุ้นกู้ได้รับความน่าเชื่อถือระดับ “BBB+” แนวโน้ม “Stable” หรือ "คงที่" จากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2567

สำหรับผลประกอบการของปี 2567 กลุ่มบริษัทออริจิ้นฯ (รวมบริษัทย่อย) มีรายได้รวมทั้งสิ้น 11,985 ล้านบาท และทำกำไรสุทธิอยู่ที่ 1,052 ล้านบาท ส่วนยอดขาย (Presale) รวมทั้งหมด ปี 2567 อยู่ที่ 35,442 ล้านบาทได้ตามเป้าหมาย โดยแบ่งเป็นยอดขายจากคอนโดมิเนียม ภายใต้ ORIGIN VERTICALอยู่ที่ 28,891 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 82% และเป็นยอดขายจากบ้านแนวราบ ภายใต้ BRITANIA อยู่ที่ 6,551 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 18% ทั้งนี้เป็นยอดขายต่างชาติกว่า 5,700 ล้านบาท ซึ่งเติบโตจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาถึง 225% ถือเป็นยอดที่สูงที่สุดที่เคยทำมา

ในจำนวนยอดขาย 35,442 ล้านบาท ที่ทำได้ทั้งหมดในปีที่ผ่านมา แยกเป็นยอดขายจากโครงการที่บริษัทพัฒนา (Non- JV) ประมาณ 19,768 ล้านบาท และยอดขายจากกลุ่มโครงการร่วมทุน (JV) กับพาร์ตเนอร์ ประมาณ 15,674 ล้านบาท เป็นยอดขายมาจากโครงการสร้างเสร็จพร้อมอยู่ (Ready to move) มีทั้งคอนโดมิเนียม บ้านเดี่ยว บ้านแฝดกระจายทำเลทั้งในกรุงเทพฯ และหัวเมืองหลักในต่างจังหวัดประมาณ 19,635 ล้านบาท และมาจากโครงการที่เปิดขายใหม่และอยู่ระหว่างดำเนินการ (Ongoing) ประมาณ 15,787 ล้านบาท โดยปี 2567 มีโครงการใหม่ที่เปิดตัว 12 โครงการ มีจำนวนยูนิตทั้งสิ้น 5,455 ยูนิต รวมมูลค่าทั้งสิ้น 19,500 ล้านบาท แบ่งเป็นคอนโดมิเนียมจำนวน 4,944 ยูนิต รวมมูลค่า 14,500 ล้านบาท และเป็นบ้านจัดสรรจำนวน 511 ยูนิต รวมมูลค่า 5,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ บริษัทมีการปรับกลยุทธ์การขายโดยเพิ่มกลุ่มเป้าหมายเป็นกลุ่มลูกค้าต่างชาติ กลุ่มลูกค้า wealth กลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมเพื่อขยายฐานลูกค้า ทั้งนี้ ณ สิ้นปี 2567 มียอดขายที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) จำนวน 44,562 ล้านบาท ซึ่งรองรับรายได้ต่อเนื่อง 4 ปี โดยในปี 2568 มีโครงการที่รอรับรู้รายได้จำนวน 16 โครงการ รวมเป็นจำนวน 23,440 ล้านบาท

สำหรับผู้ลงทุนที่สนใจลงทุนหุ้นกู้ สามารถจองซื้อได้ระหว่างวันที่ 1-3 เมษายน 2568 ผ่านสถาบันการเงินทั้ง 9 แห่ง


กำลังโหลดความคิดเห็น