เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ เดินหน้าคืนเงินสกุลเงินดิจิทัลมูลค่า 8.2 ล้านดอลลาร์ ให้กับเหยื่อที่ตกเป็นเป้าของแผนการลงทุนปลอม หลังจาก FBI ระบุตัวเหยื่อ 33 รายที่สูญเสียเงินรวม 6 ล้านดอลลาร์ โดยอาศัยกลโกง "โทรเบอร์ผิด" และแชทหลอกลวงผ่านแอปต่างๆ
มิจฉาชีพใช้ข้อความลวงล่อเหยื่อ
กลุ่มต้มตุ๋นเริ่มแผนการหลอกลวงด้วยอุบายส่งข้อความ "โทรผิดเบอร์" เพื่อเปิดบทสนทนา สร้างความไว้วางใจ ก่อนโน้มน้าวให้เหยื่อลงทุนในคริปโต โดยอ้างว่ามีผลตอบแทนสูง จากนั้นหลอกให้เหยื่อโอนเงินไปยังแพลตฟอร์มปลอมที่ควบคุมโดยกลุ่มผู้หลอกลวง
หนึ่งในเหยื่อคือ หญิงชาวโอไฮโอที่สูญเงินออมทั้งชีวิตกว่า 663,000 ดอลลาร์ หลังจากถูกหลอกให้ลงทุน เมื่อมิจฉาชีพต้องการเงินเพื่ม แต่เธอไม่สามารถจ่ายเงินเพิ่มได้ กลุ่มมิจฉาชีพถึงขั้นข่มขู่ทำร้ายคนในครอบครัวของเธอ
FBI ตามรอย ติดตามเงินคืน
หลังจากมีการร้องเรียนเข้าไปยัง FBI เจ้าหน้าที่เปิดการสอบสวนและพบว่าเงินที่ถูกขโมยบางส่วนถูกแปลงเป็น Tether (USDT) และถูกโอนไปยัง 3 ที่อยู่คริปโต ที่สามารถระบุตัวได้
รัฐบาลกลางจึงออกหมายจับและอายัดเงินดังกล่าว โดยได้รับความร่วมมือจาก Tether ในการโอนเงินกลับมายังหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย
ล่าสุด อัยการเขตโอไฮโอได้ยื่นคำร้องต่อศาล ขอให้ริบเงินที่ถูกยึดทั้งหมด เพื่อนำกลับไปคืนให้เหยื่อโดยเร็วที่สุด
ภัยหลอกลวงคริปโตยังพุ่งสูง
ข้อมูลจาก Immunefi ระบุว่า ในเดือนกุมภาพันธ์ 2568 เพียงเดือนเดียว ระบบนิเวศคริปโตสูญเสียมูลค่ากว่า 1.5 พันล้านดอลลาร์ จากการแฮ็กและการฉ้อโกง ซึ่งเพิ่มขึ้น 20 เท่าเมื่อเทียบกับเดือนมกราคมที่ผ่านมา และมากกว่าช่วงเดียวกันของปี 2568 ถึง 18 เท่า