"ฑีฆาก่อสร้าง" พอใจผลงานปี 67 กำไรเติบโต 47.08% โชว์บริหารต้นทุนได้ดี ไม่มีหนี้ รับเหมาที่มีสภาพคล่องสูงถึง 700 ล้านบาท เดินหน้าชิงประมูลงานใหม่ 20 โครงการ มูลค่า 10,000 ล้านบาท ทั้งคอนโดฯ-โรงแรม-รพ. เผยศักยภาพทั้งปีมีกำลังผลิตงานเกือบ 10 โครงการ ลุ้นจีดีพีโตดี หนุนรายได้ กำไร เติบโตเท่าตัว แย้มสนใจขยายไลน์ลงทุนธุรกิจโรงแรมขนาด 100 ห้อง รับท่องเที่ยวบูม
ดร.วีระศักดิ์ วานิชวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฑีฆาก่อสร้าง จำกัด (มหาชน) หรือ TEKA ผู้เชี่ยวชาญในธุรกิจก่อสร้างที่มีความชำนาญทั้งงานอาคารสูง และอาคารขนาดใหญ่ มีผลงานหลักที่ส่งมอบโครงการคุณภาพให้ผู้ประกอบการรายใหญ่ในภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงงานรัฐวิสาหกิจ ตั้งแต่ดำเนินธุรกิจมาตั้งแต่ปี 2528-2567 สามารถส่งมอบโครงการให้ลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว ตรงเวลา สะสมมาแล้ว 72 โครงการ มูลค่ากว่า 30,000 ล้านบาท ว่า แม้ในปี 2567 ที่ผ่านมา ภาคอสังหาฯ จะซบเซา การแข่งขันสูง แต่ด้วยความมุ่งมั่นกับกลยุทธ์ในการขยายฐานลูกค้าใหม่ ควบคู่ไปกับการรักษาลูกค้าเดิม ให้ลูกค้ามีความประทับใจ ทั้งการส่งมอบงานที่รวดเร็ว ส่งผลดีให้เจ้าของโครงการ สามารถโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดในโครงการคอนโดมิเนียม ให้ผู้ซื้อได้ตรงตามสัญญา มีรายได้เข้ามาสม่ำเสมอและเต็มตามมูลค่าโครงการ
และจากกลยุทธ์ดังกล่าว ได้ส่งผลให้บริษัทประสบความสำเร็จในธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง เห็นได้จากผลการดำเนินงานในปี 2567 ที่สามารถสร้างรายได้รวมระดับ 1,939.15 ล้านบาท ปรับลดลงเล็กน้อย แต่กำไรสุทธิกลับเติบโตอย่างก้าวกระโดดถึง 47.08% คิดเป็น 112.61 ล้านบาท หรือ 0.38 บาทต่อหุ้น สาเหตุหลักมาจากการควบคุมต้นทุนได้ดีขึ้น การจัดซื้อจ้าง ข้อบกพร่องหรือจุดตำหนิที่เกิดขึ้นในระหว่างขั้นตอนการก่อสร้าง หรือ Defect มีน้อย พนักงานมีประสิทธิภาพ มีพัฒนาการทำธุรกิจ เน้นให้ความสำคัญการเงินที่แข็งแกร่ง ไม่มีหนี้ ไม่มีภาระหุ้นกู้ แต่บริษัทมีสภาพคล่องประมาณ 700 ล้านบาท โดยในปีที่ผ่านมา ได้จ่ายเงินปันผล 0.15 บาทต่อหุ้น ให้ผลตอบแทนราว 7%
"เราไม่ได้หยุดนิ่ง มีปรับปรุงการทำงานตลอดเวลา ผลงานในปีที่ผ่านมา เมื่อเทียบกับอุตสาหกรรมก่อสร้างแล้ว ผมพอใจ และถ้าจะให้ดีต้องมีการสร้างผลงานต่อไป"
สำหรับเป้าหมายการดำเนินธุรกิจในปี 2568 และโอกาสในการขยายไลน์ธุรกิจใหม่ๆ ดร.วีระศักดิ์ กล่าวว่า ในธุรกิจหลักรับเหมาก่อสร้าง จะเน้นไปเจาะตลาดโครงการระดับบนมากขึ้น เนื่องจากลูกค้ากลุ่มนี้มีศักยภาพ แข็งแกร่ง โอกาสเติบโต แม้ภาพรวมตลาดอสังหาฯ ไม่ดี แต่เราสามารถเติบโตไปพร้อมกับบริษัทอสังหาฯ ที่มีการขยายตลาดไปตลาดต่างจังหวัด เช่น ภูเก็ต หัวหิน ซึ่งเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่บริษัทจะขยายตลาดงานก่อสร้างในพื้นที่ต่างจังหวัดมากขึ้นเช่นกัน ปัจจุบัน งานก่อสร้างคอนโดฯ จะเป็นในกลุ่มบริษัทอสังหาฯ ชั้นนำ เช่น แสนสิริ เอสซีฯ อนันดา เอพี ไทยแลนด์ และพฤกษา เป็นต้น
"ตลาดก่อสร้างคอนโดมิเนียมระดับลักชัวรีจะเป็นมาร์เก็ตที่สำคัญ เพิ่มโอกาสและศักยภาพทางธุรกิจใหักับฑีฆาฯ มากยิ่งขึ้น เป็นผลสืบเนื่องจากการที่ลูกค้าเชื่อมั่นในผลงานของบริษัท ได้ยกระดับให้เป็นบริษัทรับเหมาก่อสร้างเกรด A ในกลุ่มก่อสร้างคอนโดฯ ระดับลักชัวรี จึงเป็นโอกาสดีต่อเนื่องที่จะเข้าไปแชร์ตลาดเพิ่มขึ้น ซึ่งในปี 68 เตรียมเข้าไปประมูลงานประมาณ 20 โครงการ มูลค่าประมาณ 10,000 ล้านบาท มีทั้งงานก่อสร้างโรงแรม โรงพยาบาลเอกชน อาคารสำนักงาน ยกเว้นตลาดคอมเมอร์เชียลที่แข่งขันสูง ทำให้เรามั่นใจ จากสถิติที่ทำธุรกิจมาจะชนะประมูล 1 ใน 4 หรือมีงานใหม่เข้ามา 5 โครงการ เนื่องจากบริษัทมีศักยภาพที่จะขยายงานก่อสร้างโครงการได้ จากความสามารถในกำลังการผลิตประมาณ 8-9 โครงการต่อปี"
โดยผลงานในปีนี้ วางเป้ารายได้เติบโต 10% กำไรสุทธิเติบโตราว 5% ปัจจุบัน ฑีฆาฯ มีงานก่อสร้างที่รอรับรู้เป็นรายได้ หรือ Backlog มูลค่าเกือบ 3,000 ล้านบาท เป็นตัวเลขที่มั่นคงสามารถรองรับรายได้ให้บริษัทต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2568-2570 อย่างไรก็ดี เราคาดหวังและมั่นใจเศรษฐกิจจะฟื้นตัว และหากเติบโต จะช่วยผลักดันให้ตัวเลขแบ็กล็อกมีแนวโน้มไปสู่ระดับ 3,000-4,000 ล้านบาทได้ รายได้และกำไรเติบโตเป็นเท่าตัวได้เช่นกัน
ดร.วีระศักดิ์ กล่าวถึงแนวโน้มขยายตลาดใหม่ๆ ว่า เรามีความสนใจและกำลังศึกษาที่จะเพิ่มธุรกิจโรงแรม เนื่องจากการท่องเที่ยวของประเทศไทยเติบโตมาก รูปแบบจะมีการลงทุนโดยตรงและร่วมทุน (JV) กับพันธมิตร เช่น โรงแรมห้องพักไม่เกิน 100 ห้อง บนเนื้อที่ไม่เกิน 2 ไร่ จะเป็นการลงทุนตรง แต่ใหญ่ขึ้นจะเป็นรูปแบบ JV คาดว่าไม่เกิน 1-2 ปี จะได้เห็นความชัดเจน