xs
xsm
sm
md
lg

'ทองมา' คัมแบ็กดันพฤกษาฯ ขึ้นผู้นำ เน้นลงทุนอสังหาฯ และเฮลท์แคร์ ดันรายได้ 2.35 หมื่นล้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


(ซ้าย) ธีระ ทองวิไล, ทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ , สุวาณิช เตรียมชาญชูชัย
"ทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์" ประกาศชัดเจน พร้อมนำพฤกษากลับมายืนในธุรกิจอสังหาฯ เผยแผนธุรกิจปี 68 เดินหน้าสู่การเป็นผู้นำด้านการอยู่อาศัยที่ผสานความเป็นอยู่ที่ดี ควบคู่การบริการด้านสุขภาพ ขึ้นโครงการใหม่เพิ่มถึง 22 โครงการ มูลค่ารวม 23,400 ล้านบาท ตั้งเป้ารายได้รวม 23,500 ล้านบาท โฟกัสธุรกิจหลักอสังหาฯ และเฮลท์แคร์ ปรับพอร์ตโฟลิโอเพิ่มสัดส่วนตลาดบ้านระดับกลางถึงบน ต่อยอดธุรกิจพรีคาสท์ พร้อมรุกตลาดก่อสร้างเต็มรูปแบบ ด้านธุรกิจการดูแลสุขภาพเติบโตต่อเนื่องในทุกมิติ เตรียมขยายโรงพยาบาลเฉพาะทาง รองรับความต้องการอีก 3 แห่ง

นายทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่ม พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) แถลงข่าวเป็นครั้งแรก หลังได้มีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างการบริหารงานก่อนหน้านี้ว่า ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์เผชิญกับความท้าทายจากภาวะเศรษฐกิจและอัตราการปฏิเสธสินเชื่อของธนาคารที่ยังคงสูงอยู่ ซึ่งคิดว่าหากมีการผ่อนอัตราส่วนการให้สินเชื่อซื้อบ้านโดยเทียบกับมูลค่า (Loan to Value หรือ LTV) ออกไปอย่างน้อย 1-2 ปีน่าจะเป็นผลดีกับตลาดอสังหาฯ

ในส่วนทิศทางธุรกิจของพฤกษาฯ นับจากนี้ไป จะมุ่งเน้นในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจ Healthcare โดยเฉพาะในด้านของการเชื่อมโยงเป็น Wellness Residence เพื่อเป็นประโยชน์ต่อลูกค้าในด้านที่อยู่อาศัย

ส่วนธุรกิจที่ลงทุนไปก่อนหน้านี้ยังดำเนินการอยู่ เช่น โอเมก้า บางนา โลจิสติกส์ แคมปัส คลังสินค้าครบวงจร ตามเป้าหมายแผนงานแล้ว จะเริ่มดำเนินกลางได้กลางปี 2569 เป็นต้นไป

"ในปี 2567 เรามีรายได้รวม 21,000 ล้านบาท มีกำไรสุทธิที่ 456 ล้านบาท มีอัตรากำไรขั้นต้นได้ที่ร้อยละ 31.3 มีหนี้สินต่อทุนต่ำที่ 0.31 เท่า ทำให้เราในปีนี้ และปีต่อๆ ไป เราคงเน้นของการลงทุนในธุรกิจหลักอสังหาฯ ที่เรามีความเชี่ยวชาญ และมุ่งการขยายธุรกิจโรงพยาบาล ยึดหลักการพัฒนาเพื่อความยั่งยืน และเน้นการสร้างสรรค์โครงการ ที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตที่สมดุล ทั้งสุขภาพและความสะดวกสบาย"

นายทองมา กล่าวว่า ปี 68 ตั้งเป้ารายได้รวมไว้ที่ 23,500 ล้านบาท ชู 2 กลยุทธ์หลัก ได้แก่ (1) กลยุทธ์เชิงรับเพื่อรักษาข้อได้เปรียบทางการแข่งขัน (Strategic Positioning Strategy) ด้วยการบริหารสินทรัพย์อย่างมีประสิทธิภาพ มุ่งเน้นการจัดการและปรับโครงสร้างสินทรัพย์ให้เหมาะสมสอดคล้องกับความต้องการของตลาด เสริมสร้างสภาพคล่องด้วยการรักษากระแสเงินสดและเสถียรภาพทางการเงินที่แข็งแกร่ง รองรับการลงทุนในอนาคต พร้อมปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารต้นทุนอย่างเป็นระบบและสม่ำเสมอ

(2) กลยุทธ์เชิงรุก สร้างการเติบโตท่ามกลางสถานการณ์ที่ท้าทาย (Resilient Growth Strategy) ด้วยการสร้างนิยามใหม่ของแนวคิดการออกแบบที่อยู่อาศัยให้สอดคล้องกับมาตรฐานการดูแลสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของผู้อยู่อาศัย พร้อมขับเคลื่อนการลงทุนและเสริมสร้างความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจที่มีศักยภาพทั้งในและต่างชาติ

นายธีระ ทองวิไล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในปี 2568 มีแผนเปิดตัวโครงการใหม่เพิ่มขึ้นเป็น 22 โครงการ มูลค่ารวม 23,400 ล้านบาท แบ่งเป็นทาวน์เฮาส์ 8 โครงการ มูลค่า 4,900 ล้านบาท บ้านเดี่ยว 9 โครงการ มูลค่า 10,400 ล้านบาท และกลับมาเป็นคอนโดฯ เพิ่มเป็น 5 โครงการ มูลค่า 8,100 ล้านบาท เน้นพัฒนาโครงการเวลเนส เรสซิเดนซ์ และโครงการที่มีจุดเด่นด้านทำเล

โดยในปี 68 จะมีการเปิดตัวแบรนด์ระดับบนหลายโครงการ เช่น The Palm, The Reserve และ Chapter โดยมีสัดส่วนสินค้าในกลุ่มราคามากกว่า 7 ล้านบาท ราว 50% และโครงการที่ใกล้เมืองมากขึ้นและมีขนาดเล็กลง เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในยุคปัจจุบัน ตั้งเป้ายอดขายที่ 19,800 ล้านบาท และยอดขายผ่านโครงการ JV อีก 3,200 ล้านบาท รวมถึงยอดโอน 18,700 ล้านบาท และยอดโอนผ่านโครงการ JV อีก 1,600 ล้านบาท ซึ่งในส่วนนี้จะรับรู้เป็นกำไรจากการลงทุนใน JV

ด้านกลยุทธ์ธุรกิจอสังหาฯ ปี 68 ชู 2 กลยุทธ์ที่สอดคล้องกับกลยุทธ์หลักของบริษัท ได้แก่ การปรับปรุงพอร์ตโฟลิโอจำหน่ายที่ดินที่ไม่ได้อยู่ในแผนการพัฒนา มูลค่า 1,000 ล้านบาท และพัฒนาโครงการใหม่จากที่ดินที่มีอยู่เดิมมูลค่ารวม 2,900 ล้านบาท เร่งปิดโครงการเพื่อลดค่าใช้จ่ายให้ได้อีก 31 โครงการ และปรับสัดส่วนโครงการแนวราบจาก ทาวน์เฮาส์ต่อบ้านเดี่ยว จาก 60:40 เป็น 50:50 ให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดในปัจจุบัน พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการด้วยการแบ่งโซนนิ่ง ครอบคลุมเป็น 6 โซนหลัก และการบริหารจัดการสินค้าคงคลังที่มีมูลค่าประมาณ 23,000 ล้านบาท เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและก่อสร้างด้วยเทคโนโลยีจากอินโนพรีคาสท์ และอินโนโฮม คอนสตรักชัน


กลยุทธ์เชิงรุก เปิดตัวโครงการใหม่ เน้นแบรนด์ที่เป็นที่รู้จักในระดับ Ultra-premium segment เช่น THE RESERVE, THE PALM สร้างความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ส่งเสริมการอยู่อาศัยเพื่อสุขภาพ พร้อมโอนคอนโดฯ ใหม่ในปีนี้อีก 4 โครงการ เพื่อรักษามาร์จิ้นในระดับสูงไว้ได้ ซึ่งมั่นใจว่าด้วยกลยุทธ์ทั้งหมดนี้จะทำให้สร้างกำไรมากขึ้นได้ในปีนี้

ด้านธุรกิจพรีคาสท์และก่อสร้าง ตั้งเป้ารายได้ 2,100 ล้านบาท เน้นขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ให้หลากหลาย เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของตลาดให้มากขึ้น เช่น ผนังน้ำหนักเบา กำแพงกันดิน และรั้วสำเร็จรูป ในขณะที่ธุรกิจก่อสร้างตั้งเป้ารายได้ 5,400 ล้านบาท มุ่งเจาะกลุ่มลูกค้าทั้ง B2B และ B2C สำหรับการขยายตลาดสร้างบ้านในกลุ่มระดับราคา 10-30 ล้านบาท

ด้านธุรกิจการดูแลสุขภาพ นายแพทย์สุวาณิช เตรียมชาญชูชัย ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวิมุต กล่าวว่า ธุรกิจการดูแลสุขภาพของโรงพยาบาลมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องในทุกมิติ โดยในปี 68 ตั้งเป้ารายได้ 2,600 ล้านบาท โดยบริษัทจะนำที่ดินเดิมมาลงทุนสร้าง 3 โรงพยาบาล ย่านทองหล่อ สุขุมวิท และปิ่นเกล้า รวมมูลค่าเฉพาะก่อสร้าง 3,500 ล้านบาท
กำลังโหลดความคิดเห็น