รัฐสหรัฐฯ เตรียมนำบิทคอยน์เป็นเงินสำรองก่อนรัฐบาลกลาง วุฒิสมาชิก Lummis ชี้แนวโน้มใหม่หลังเสนอร่างกฎหมาย BITCOIN Act ให้สหรัฐฯ สะสมบิทคอยน์1 ล้าน BTC ทรัมป์ผลักดันคลังบิทคอยน์แห่งชาติ พร้อมตั้งกองทุนความมั่งคั่งฯ นักวิเคราะห์ชี้ ผลกระทบระยะยาวอาจเหนือกว่า ETF Bitcoin ที่เพิ่งเปิดตัว
นางซินเธียร์ ลัมมิส วุฒิสมาชิกจากรัฐไวโอมิง เปิดเผยในงาน Bitcoin Investor Week ที่นิวยอร์กเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ว่า รัฐต่างๆ ในสหรัฐฯ มีแนวโน้มที่จะนำบิทคอยน์มาใช้เป็นเงินสำรองเชิงกลยุทธ์ ก่อนที่รัฐบาลกลางจะตัดสินใจดำเนินการในทิศทางเดียวกัน โดยนางลัมมิส กล่าวว่า "ฉันเดิมพันว่าคุณจะได้เห็นรัฐต่างๆมีเงินสำรองบิทคอยน์ก่อนที่รัฐบาลกลางจะเข้ามา"
ร่างกฎหมาย BITCOIN Act: เสนอให้สหรัฐฯ สะสม Bitcoin 1 ล้าน BTC
ลัมมิส ซึ่งเป็นสมาชิกพรรครีพับลิกัน ได้เสนอร่างกฎหมาย BITCOIN Act ในเดือนกรกฎาคม 2567 โดยมีเป้าหมายให้กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ค่อยๆ สะสมบิทคอยน์จนถึง 1 ล้าน BTC ซึ่งคิดเป็นประมาณ 5% ของอุปทานบิทคอยน์ทั้งหมด เทียบเท่ากับสัดส่วนของทองคำที่สหรัฐฯ ถือครองในปัจจุบัน ตามข้อมูลจากเว็บไซต์ของ Lummis
ทรัมป์ผลักดันคลังบิทคอยน์แห่งชาติ
ความเคลื่อนไหวล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารเมื่อเดือนมกราคม ที่ผ่านมา ให้เจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางศึกษาความเป็นไปได้ในการจัดตั้งคลังบิทคอยน์แห่งชาติ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในนโยบายสำคัญในช่วงเริ่มต้นวาระประธานาธิบดีสมัยที่สองของเขา
นอกจากนี้ในเดือนกุมภาพันธ์ ทรัมป์ยังได้ลงนามคำสั่งให้จัดตั้งกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ ซึ่งอาจเป็นช่องทางในการซื้อบิทคอยน์ในอนาคต
ขณะเดียวกัน นางลัมมิสยังชี้ให้เห็นถึงตัวอย่างของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ที่เริ่มซื้อบิทคอยน์และคาดการณ์ว่ากองทุนความมั่งคั่งของรัฐอื่นๆ ทั่วโลกอาจเดินตามรอยนี้เช่นกัน
รัฐสหรัฐฯ กับกฎหมายสกุลเงินดิจิทัล
ขณะนี้มี 18 รัฐในสหรัฐฯ ที่มีร่างกฎหมายเกี่ยวกับการสำรองสกุลเงินดิจิทัลรอการพิจารณา โดยรัฐแอริโซนาและยูทาห์อยู่ในขั้นตอนสุดท้ายก่อนการอนุมัติ ส่วนรัฐมอนทานา ไวโอมิง นอร์ทดาโคตา เซาท์ดาโคตา และเพนซิลเวเนีย ได้ปฏิเสธร่างกฎหมายดังกล่าวไปแล้ว
แม้ว่ารัฐบางแห่งที่บริหารงานโดยพรรคเดโมแครตอาจต่อต้านนโยบายสนับสนุนสกุลเงินดิจิทัลของทรัมป์ แต่ Ashley Gunn ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายนโยบายสหรัฐฯ ของ Coinbase ระบุว่า สกุลเงินดิจิทัลเป็นประเด็นที่ทั้งสองพรรคสามารถเห็นพ้องกันได้ โดยกล่าวในงาน ETHDenver เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ว่า "มีรัฐต่างๆ มากมายที่สนับสนุนสกุลเงินดิจิทัล และพวกเขาไม่จำเป็นต้องปฏิบัติตามนโยบายของกลุ่มสีน้ำเงิน (เดโมแครต) หรือสีแดง (รีพับลิกัน)"
ผลกระทบระยะยาว: สำรอง Bitcoin vs. ETF
นักวิจัยจาก CoinShares ระบุในรายงานเดือนมกราคมว่า การจัดตั้งหน่วยสำรองบิทคอยน์ เชิงยุทธศาสตร์ในสหรัฐฯ จะส่งผลกระทบระยะยาวต่อบิทคอยน์มากกว่าการเปิดตัวกองทุนซื้อขายแลกเปลี่ยน (ETF) ที่มีฐานอยู่ในสหรัฐฯ ซึ่งเปิดตัวในเดือนมกราคม 2024 และถือครองบิทคอยน์มูลค่ากว่า 100,000 ล้านดอลลาร์
CoinShares กล่าวว่า "เราเชื่อว่าการบังคับใช้กฎหมายบิทคอยน์ในสหรัฐอเมริกาจะมีผลกระทบระยะยาวต่อบิทคอยน์มากกว่าการเปิดตัว ETF"
ทั้งนี้แนวโน้มการนำบิทคอยน์มาใช้เป็นเงินสำรองเชิงกลยุทธ์ของรัฐสหรัฐฯ ก่อนที่รัฐบาลกลางจะตัดสินใจดำเนินการ สะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในนโยบายการเงินและการลงทุนของสหรัฐฯ หากร่างกฎหมาย BITCOIN Act ได้รับการอนุมัติ และรัฐบาลกลางเริ่มสะสมบิทคอยน์จริง จะเป็นการเปิดบทใหม่ให้กับอุตสาหกรรมคริปโต และอาจส่งผลกระทบต่อตลาดการเงินโลกในระยะยาว