xs
xsm
sm
md
lg

ดอกเบี้ยลง...ปลุกหุ้นฟื้นไหม / สุนันท์ ศรีจันทรา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) สร้างความประหลาดใจเล็กๆ โดยประกาศลดดอกเบี้ย 0.25% จาก 2.25% เหลือ 2% ซึ่งได้รับการตอบรับจากตลาดหุ้นในทันที ดัชนีพุ่งทะยานขึ้น +24.75 จุด ปิดที่ 1,231.14 จุด มูลค่าการซื้อขาย 62,652.67 ล้านบาท ในการซื้อขายวันที่ 26 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

การประกาศลดดอกเบี้ยของ กนง. เป็นข่าวดีชิ้นใหญ่ กระตุ้นให้ตลาดหุ้นฟื้น หลังจากดิ่งลง และมีแนวโน้มที่จะลงต่ำกว่า 1,200 จุด เพราะถูกข่าวร้ายปัจจัยลบกระหน่ำ ขณะที่นักลงทุนต่างชาติกระหน่ำขาย โดยรัฐบาลไม่มีมาตรการใดกระตุ้นความเชื่อมั่นนักลงทุน

คณะกรรมการ กนง. มีมติ 6 ต่อ 1 เห็นควรลดดอกเบี้ย 0.25% เพราะเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวต่ำกว่าที่ประเมินไว้ จากภาคการผลิตอุตสาหกรรมที่ถูกกดดันจากปัญหาเชิงโครงสร้างและการแข่งขันจากสินค้าต่างประเทศ

และมีความเสี่ยงสูงขึ้นจากนโยบายการค้าของประเทศเศรษฐกิจหลัก แม้ว่าเศรษฐกิจจะได้รับแรงสนับสนุนจากอุปสงค์ภายในประเทศและการท่องเที่ยว ซี่งการลดดอกเบี้ย เพื่อให้ภาวะการเงินสอดคล้องกับแนวโน้มเศรษฐกิจ เงินเฟ้อ และเสถียรภาพระบบการเงิน รวมทั้งรองรับความเสี่ยงด้านต่ำที่ชัดเจนขึ้น

วันก่อนหน้า 25 กุมภาพันธ์ ตลาดหุ้นทรุดลงหนักกว่า 29 จุด โดยนักลงทุนต่างชาติถล่มขายหุ้นกว่า 3,398 ล้านบาท ผสมโรงด้วยนักลงทุนสถาบัน ซึ่งคาดว่าจะเป็นแรงเทขายของกองทุน LTF อีก 1,036 ล้านบาท

นักลงทุนรายย่อยเป็นผู้รับเละ เพราะเข้ามาช้อนซื้อหุ้นแต่ผู้เดียวกว่า 5,000 ล้านบาท

การลดดอกเบี้ยช่วยระงับยับยั้งตลาดหุ้นที่กำลังตกต่ำสุดขีด และดึงดัชนีหุ้นให้ผงกหัวขึ้น พร้อมกับการกลับมาของนักลงทุนต่างชาติ แต่แรงกระตุ้นของการลดดอกเบี้ยอาจเกิดขึ้นเพียงระยะสั้น และไม่อาจพลิกฟื้นตลาดหุ้นได้ในระยะยาว

นักลงทุนยังต้องการเห็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่กำลังซบเซาอย่างหนัก ต้องการมาตรการกระตุ้นความเชื่อมั่นนักลงทุน เพื่อเรียกต่างชาติกลับมา

เพราะถ้าไม่มีแรงซื้อจากนักลงทุนต่างชาติ หุ้นแทบไม่มีโอกาสฟื้น เนื่องจากแรงซื้อในประเทศอ่อนล้าเต็มที และกองทุน LTF ที่ครบกำหนดขายหน่วยลงทุนได้ โดยไม่เสียสิทธิการลดหย่อนภาษียังคงเทขายหุ้นไม่เลิก ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญกดดันให้หุ้นทรุดหนักนับจากต้นปีนี้

ในปี 2566 และ 2567 นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นทิ้งกว่า 3.4 แสนล้านบาท ส่วนปีนี้ยังคงขายต่อ มียอดขายหุ้นสุทธิจนสิ้นวันที่ 26 กุมภาพันธ์จำนวน 10,485 ล้านบาท และไม่มีสัญญาณบ่งชี้ใดๆ ว่า ต่างชาติจะกลับมาในระยะสั้น

นักลงทุนต่างชาติสามารถเลือกลงทุนในตลาดหุ้นใดก็ได้ในโลก ถ้าเห็นว่ามีโอกาสทำกำไร สร้างผลตอบแทนที่ดี และเมื่อมองว่า ตลาดหุ้นไทยยังมีความเสี่ยง ไร้เสน่ห์ ไม่เห็นโอกาสการทำกำไร

ทำไมนักลงทุนต่างชาติต้องลงทุนในตลาดหุ้นไทย

แบงก์ชาติได้ทำตามข้อเรียกร้องและแรงกดดันของรัฐบาลแล้ว โดยยอมลดดอกเบี้ยลง 0.25% ซึ่งเห็นผลทันทีในการกระตุ้นตลาดหุ้นให้ฟื้น 24.75 จุด

แต่การลดดอกเบี้ยช่วยความคึกคักในบรรยากาศการลงทุนระยะสั้นเท่านั้น

คำถามต่อไปคือ รัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร จะทำอะไรบ้างเพื่อฟื้นฟูตลาดหุ้น จะมีมาตรการอะไรกระตุ้นเศรษฐกิจ

และจะมีมาตรการอะไรเพื่อเรียกความเชื่อมั่นนักลงทุน

ภารกิจในการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยการลดดอกเบี้ย แบงก์ชาติได้ทำแล้ว

ต่อจากนี้เป็นภารกิจของรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ในการผลักดันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและปลุกตลาดหุ้นให้ฟื้น

เพราะตั้งแต่เข้ามาบริหารประเทศยังไม่มีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างเป็นชิ้นเป็นอัน เศรษฐกิจจึงยังฟุบหนัก

และไม่มีมาตรการปลุกตลาดหุ้น ที่สามารถเรียกความเชื่อมั่นนักลงทุนกลับมาได้ ดัชนีหุ้นจึงปักหัวลงไปแล้วกว่า 150 จุดนับจากต้นปี

การลดดอกเบี้ยตามคำเรียกร้องและแรงกดดันของรัฐบาล อาจกลายเป็นความสูญเปล่าในตลาดหุ้น

ถ้ารัฐบาล น.ส.แพรทองธาร ไม่มีมาตรการที่สามารถเรียกความมั่นใจของนักลงทุนกลับมาได้

และหุ้นอาจถอยหลังกลับลงไปใหม่ จนได้เห็นดัชนีระดับ 1,100 จุดหรือ 1,000 จุดได้ ซึ่งตอกย้ำความล้มเหลวของรัฐบาลแพทองธารอย่างสิ้นเชิง








กำลังโหลดความคิดเห็น