ซีคอน เปิดฉากปี 68 เดินเกมรุกด้วยแนวคิด “SEACON Growing Together” พร้อมสานต่อความสำเร็จด้วยโครงการบ้าน Your Home: Your Family ซีรีส์ 2 เจาะกลุ่มข้าราชการ ราคาเริ่มต้น 5 ล้าน มั่นใจยอดขายทั้งปีเกือบ 1,700 ล้าน
นายมนู ตระกูลวัฒนะกิจ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีคอน จำกัด เปิดเผยว่า แม้ในปี 2567 ที่ผ่านมา ซีคอนต้องเผชิญกับความท้าทายที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นอัตราดอกเบี้ยที่ไม่จูงใจ ภาระหนี้ครัวเรือนที่ยังเพิ่มขึ้น ภาวะเศรษฐกิจที่ยังชะลอตัว รวมถึงนโยบายของผู้นำสหรัฐฯ ในเรื่องมาตรการทางภาษี ล้วนแล้วแต่มีผลต่อภาวะตลาดรับสร้างบ้านในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีที่ผ่านมา โดยซีคอนฯ ยังสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ มียอดขายมากถึง 1,500 ล้านบาท
โดยกลุ่มลูกค้าหลักยังเป็นกลุ่มครอบครัวขนาดใหญ่ที่ 48.45% ราคาสั่งสร้างประมาณ 8-50 ล้านบาทต่อหลัง และพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 351 ตร.ม.ขึ้นไป ตามมาด้วยกลุ่มครอบครัวขนาดกลางที่ 34.65% ราคาสั่งสร้างประมาณ 5-7.90 ล้านบาทต่อหลัง และพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 200-350 ตร.ม. และกลุ่มครอบครัวขนาดเล็กที่ 16.90% ราคาสั่งสร้างประมาณ 1.39-4.50 ล้านบาทต่อหลังและพื้นที่น้อยกว่า 200 ตร.ม. โดยแบ่งเป็นยอดจองช่องทาง Offline คิดเป็น 78.05% และยอดจองผ่านช่องทาง Online อยู่ที่ 21.95% ซึ่งเพิ่มขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา
สำหรับแนวทางการดำเนินงานและกลยุทธ์ของซีคอนในปี 2568 นั่น บริษัทยังคงมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำด้านธุรกิจรับสร้างบ้านของประเทศไทย ด้วยการพัฒนาคุณภาพงานด้านการก่อสร้าง โดยได้วางกลยุทธ์ปรับเปลี่ยนผลิตภัณฑ์และแคมเปญบ้านราคาพิเศษ รวมถึงการบริหารจัดการด้านราคาของโครงสร้างกึ่งสำเร็จรูปที่ผลิตเองภายในโรงงาน พร้อมรับประกันคุณภาพนานถึง 20 ปี
นอกจากนี้ บริษัทยังมุ่งหาโอกาสในการลงทุนด้านเทคโนโลยี และปรับรูปแบบการทำงานโดยนำระบบ ERP (Microsoft Dynamics 365 Business Center) เข้ามาใช้เพื่อลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพ เพื่อก้าวสู่เป้าหมายการเติบโตของยอดขายที่ 1,690 ล้านบาทในปี 2568 เติบโต 10-12%
สำหรับผลงานความสำเร็จโครงการบ้าน Your Home Series เพื่อเจาะกลุ่มข้าราชการไทย ที่ได้เปิดตัวไปเมื่อปลายปีที่ผ่านมา มียอดจอง 20 หลัง มูลค่ากว่า 50 ล้านบาท และเพื่อยอดความสำเร็จในปีนี้ ได้สานต่อแคมเปญดังกล่าว โดยได้เปิดตัวโครงการบ้าน “Your Home: Your Family #2” โดยมีแบบบ้านให้เลือกตั้งแต่ 5 ถึง 8 แบบ ราคาเริ่มต้นที่ 5 ล้านบาท พร้อมทั้งจัดโปรโมชันพิเศษในช่วง Early Bird ตั้งแต่มีนาคมถึงมิถุนายน 68
"ข้าราชการไทยมีที่ดิน รายได้มั่นคง มีเงินเก็บ เราจะเข้าไปเจาะกลุ่มที่คลีน โดยซีคอนคัดสิ่งที่ไม่จำเป็นออก ทำให้ลูกค้าเข้าถึงราคาได้ อย่างแบบ Your Home แบบ 409 แบบใหญ่สุด ถ้าสร้างกับซีคอนปกติ หลังนี้ไม่ต่ำกว่า 10 ล้าน แต่แบบ Your Home แบบ 409 สร้างในราคาไม่เกิน 8 ล้านบาท ซึ่งจะเปิดตัวครั้งแรกผ่านช่องทางออนไลน์ในต้นเดือนมีนาคมนี้ และจึงจัดงานเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงาน “รับสร้างบ้านและวัสดุ Focus 2025” ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี ฮออล์8 ระหว่างวันที่ 12-16 มีนาคม 2568 รวมทั้งงาน “บ้านและสวนSelect 2025” ที่ไบเทค บางนา ระหว่างวันที่ 22-30 มีนาคม 2568 โดยมีแบบบ้านให้เลือกตั้งแต่ 5 ถึง 8 แบบ ราคาเริ่มต้นที่ 5 ล้านบาท พร้อมทั้งจัดโปรโมชันพิเศษในช่วง Early Bird ตั้งแต่มีนาคมถึงมิถุนายน 2568"
ทั้งนี้ ในด้านกิจกรรมเพื่อสังคม ซีคอนได้ดำเนินโครงการ “SEACONป้อนฝัน ปันให้น้อง (ปีที่1)” ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความยั่งยืนและพัฒนาศักยภาพของเยาวชน โดยเน้นสนับสนุนโอกาสทางการศึกษาสำหรับนักเรียนมัธยมศึกษาและนักศึกษาที่มีผลการเรียนดีแต่มีฐานะยากจน จากการคัดเลือกพบว่ามีผู้สมัคร 13 คน และได้คัดเลือกผู้เข้าร่วมโครงการจริง 11 คน โดยให้ทุนการศึกษาในระดับมัธยมศึกษาทุนละ 20,000 บาท และระดับอุดมศึกษาทุนละ 40,000 บาท พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้เยาวชนเข้าร่วมกิจกรรมของบริษัทเพื่อเตรียมความพร้อมสู่อนาคต ในขณะเดียวกัน SEACON ยังได้ริเริ่มโครงการ “สร้างงาน สร้างคุณค่า ส่งเสริมสวัสดิภาพคนพิการอย่างเท่าเทียม” ด้วยการปรับเปลี่ยนแนวทางจากการส่งเงินสมทบให้การจ้างงานคนพิการในรูปแบบสัญญาจ้างรายปี โดยร่วมมือกับมูลนิธินวัตกรรมทางสังคมเพื่อคัดเลือกและจ้างคนพิการที่มีความประพฤติและตั้งใจประกอบอาชีพ ซึ่งการจ้างงานในรูปแบบใหม่นี้ไม่เพียงแต่ช่วยให้พวกเขามีรายได้ที่เพียงพอต่อการดำรงชีพ แต่ยังช่วยส่งเสริมคุณภาพชีวิตและสร้างความมั่นคงให้ครอบครัวอีกด้วย
นอกจากนี้ ซีคอนยังได้จัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ภายในองค์กร “SEACON Learning Center (SCL)” เพื่อพัฒนาความรู้และทักษะด้านงานก่อสร้างและ soft skills ของพนักงาน โดยมีการจัดฝึกอบรมมาตรฐานที่ผ่านการทดสอบอย่างเข้มงวด พร้อมทั้งลงทุนในระบบ Knowledge Management System ที่ให้บุคลากรสามารถเข้าศึกษาและเรียนรู้ได้ทุกที่ทุกเวลา เพื่อรองรับความต้องการด้านคุณภาพการบริการและการก่อสร้างที่ได้มาตรฐานในทุกขั้นตอน นอกจากนี้ องค์กรยังให้ความสำคัญกับการตรวจสอบภายใน (Internal Audit) เพื่อประเมินและตรวจสอบระบบควบคุมภายในอย่างต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมายเพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปตามนโยบายและมาตรฐาน ลดความเสี่ยง และเสริมสร้างความโปร่งใสในทุกกระบวนการบริหารจัดการ
ด้านแนวทางการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม บริษัทได้ริเริ่มโครงการรีไซเคิล “กระเป๋าผ้าใบจากป้าย ไวนิล” ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากแนวคิด ESG ภายในองค์กร โดยมีการผลิตกระเป๋าผ้าไวนิลชุดแรกจำนวน 200 ใบ เพื่อนำไปแจกให้เด็กด้อยโอกาสในถิ่นทุรกันดาร รวมทั้งวางจำหน่ายในงาน Exhibition โดยรายได้ที่ได้จะนำมอบให้ผู้ด้อยโอกาส นอกจากนี้ ยังมีการนำ waste รูปแบบอื่นๆ เช่น กระดาษที่ใช้แล้วในสำนักงานมารีไซเคิลร่วมกับพันธมิตร SEACON X SCGP recycle เพื่อใช้ภายในองค์กรอย่างมีประสิทธิภาพ
ในด้านการบริหารจัดการ Carbon Footprint บริษัทใช้ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับฉลากเขียวจากงานก่อสร้างที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น ผลิตภัณฑ์ Thai Metal Aluminium ที่สามารถลดการปล่อยคาร์บอนได้ถึง 437.65 ตันCO₂ เทียบเท่าการปลูกต้นไม้ 17,500 ต้น รวมถึงสี Beger ที่ลดการปล่อยคาร์บอนได้ถึง 38.02 ตันCO₂ เทียบเท่าการปลูกต้นไม้ 625 ต้น และยังมีการใช้พลังงานสะอาดจากโซลาร์เซลล์ในโรงงานซีคอน พรีคาสท์ แฟคทอรี่ (SF) เพื่อผลักดันแนวทางการลดการปล่อยคาร์บอนในทุกปี โดยบริษัทมุ่งมั่นในการสนับสนุนและพัฒนาการลดการปล่อยคาร์บอนอย่างต่อเนื่อง
“SEACON Growing Together เป็นการเดินหน้าที่ไม่เพียงแต่แสดงให้เห็นถึงผลประกอบการที่มั่นคงอย่างยั่งยืน แต่ยังสะท้อนความมุ่งมั่นในการพัฒนาบนบริบทที่ครอบคลุมด้าน ESG ทั้งด้านนวัตกรรมการก่อสร้าง บริการที่มีคุณภาพ และการดำเนินโครงการที่มุ่งสร้างความยั่งยืนในสังคมและสิ่งแวดล้อม ความมุ่งมั่นนี้เป็นหลักการที่ขับเคลื่อนบริษัทให้เติบโตอย่างยั่งยืนและสร้างคุณค่าให้ผู้มีส่วนได้เสียโดยรวม ด้วยการนำหลักการดำเนินธุรกิจในแบบ "Triple Bottom Line" หรือ 3P ที่ประกอบด้วย People Planet Profit มาใช้ประเมินความสำเร็จขององค์กรอย่างครอบคลุมและยั่งยืนจากปัจจุบันสู่อนาคต” นายมนู กล่าว