xs
xsm
sm
md
lg

DMT โชว์รายได้ 2,485 ล้านบาท ปีนี้ตั้งเป้ารายได้โต 10%

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์






ทางยกระดับดอนเมือง ปี 67 โชว์รายได้ 2,485.65 ล้านบาท กำไรสุทธิ 899.33 ล้านบาท บอร์ดไฟเขียวจ่ายปันผลงวดปี 67 อัตราหุ้นละ 0.83 บาท โดยได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลไปแล้วหุ้นละ 0.63 บาท จึงเหลือจ่ายงวดใหม่อัตราหุ้นละ 0.20 บาท กำหนดขึ้น XD วันที่ 6 มี.ค.2568 จ่ายเงินปันผลวันที่ 23 พ.ค.68 ฟากบิ๊กบอส ประกาศกลยุทธ์ New Business Venture ขับเคลื่อนธุรกิจเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน ลุยหาธุรกิจใหม่ ควบคู่กับงานประมูลโครงการ มุ่งเน้น M82 M5 และจุดพักรถริมทางหลวง พร้อมตั้งเป้ารายได้ปีนี้โต 10% ตามคาดการณ์ปริมาณการจราจรเฉลี่ยอยู่ที่ระดับเดียวกับปีก่อน


ดร.ศักดิ์ดา พรรณไวย กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทางยกระดับดอนเมือง จำกัด (มหาชน) หรือ DMT เปิดเผยผลการดำเนินงานงวดปี 2567 (สิ้นสุด 31 ธันวาคม 2567) ว่า บริษัทมีรายได้รวม จำนวน 2,485.65 ล้านบาท โดยมีรายได้ค่าผ่านทาง จำนวน 2,458.19 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% จากปีก่อนที่มีรายได้ค่าผ่านทาง จำนวน 2,324.97 ล้านบาท มีรายได้จากการลงทุน จำนวน 25.35 ล้านบาท และรายได้อื่น จำนวน 2.11 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ จำนวน 899.33 ล้านบาท
โดยในปี 2567 มีปริมาณจราจรเฉลี่ยต่อวันรวม 111,922 คัน เพิ่มขึ้น 4.69% เมื่อเทียบกับปี 2566 ที่มีปริมาณจราจรเฉลี่ยต่อวันรวม 106,907 คัน และมีรายได้ค่าผ่านทางทั้งปีเป็นจำนวน 2,458.19 ล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้น 6%

พร้อมกันนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 1/2568 เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2568 มีมติอนุมัติให้จ่ายเงินปันผลสำหรับงวดดำเนินงานวันที่ 1 มกราคม 2567 ถึง 31 ธันวาคม 2567 ในอัตราหุ้นละ 0.83 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น จำนวน 980.42 ล้านบาท กำหนดการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นเพื่อขอมติอนุมัติเรื่องดังกล่าวในวันที่ 25 เมษายน 2568 และเนื่องจากในปีที่ผ่านมา บริษัทได้จ่ายปันผลระหว่างกาลไปแล้วรวมหุ้นละ 0.63 บาท จึงเหลือเงินปันผลที่จะจ่ายครั้งล่าสุดนี้ในอัตราหุ้นละ 0.20 บาท กำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) วันที่ 6 มี.ค.2568 กำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 23 พ.ค.2568 

ทั้งนี้ ในปี 2567 บริษัทได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลไปแล้ว 3 ครั้ง โดยครั้งแรกจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลสำหรับผลการดำเนินงานงวด 3 เดือนแรกของปี 2567 ในอัตราหุ้นละ 0.21 บาท จ่ายเงินปันผลในวันที่ 10 มิถุนายน 2567 ครั้งที่สองประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลงวด 6 เดือนแรกของปี 2567 ในอัตราหุ้นละ 0.42 บาท และเนื่องจากรับเงินปันผลครั้งแรกไปแล้ว จึงรับเงินปันผลส่วนที่เหลือในอัตราหุ้นละ 0.21 บาท ในวันที่ 6 กันยายน 2567 และครั้งที่สาม ประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลงวด 9 เดือนแรกของปี 2567 ในอัตราหุ้นละ 0.63 บาท และเนื่องจากรับเงินปันผลสองครั้งแรกไปแล้ว จึงรับเงินปันผลส่วนที่เหลือในอัตราหุ้นละ 0.21 บาท ในวันที่ 12 ธันวาคม 2567

“ในปี 2567 บริษัทมี EBITDA จำนวน 1,886.74 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มี EBITDA จำนวน 1,806.18 ล้านบาท และจ่ายเงินปันผลรวมหุ้นละ 0.63 บาท เพิ่มขึ้น 5% จากงวดปีก่อนที่จ่ายเงินปันผลหุ้นละ 0.60 บาทจากการดำเนินงาน รวมทั้งมีอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นต่ำมากที่ 0.11 เท่า เมื่อเทียบกับปีก่อนที่ 0.18 เท่า เนื่องจากมีเงินกู้ยืมระยะสั้นเพื่อใช้ในการดำเนินงานลดลงจาก 800 ล้านบาท ณ 31 ธันวาคม 2566 เหลือเป็นจำนวน 200 ล้านบาท ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567 โดยไม่มีภาระหนี้สินระยะยาวที่มีดอกเบี้ย ทั้งยังมีวงเงินทุนสำรองหมุนเวียนที่ยังมิได้เบิกใช้จำนวน 2,000 ล้านบาท พร้อมเข้าประมูลโครงการ M82 ที่สำคัญ บริษัทได้ดำเนินการจัดเก็บรายได้ตามสัญญาสัมปทานในอัตราใหม่เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2567 ได้อย่างเรียบร้อย จะเป็นปัจจัยสำคัญที่สนับสนุนผลการดำเนินงานปี 2568 ให้เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง” ดร.ศักดิ์ดา กล่าว

สำหรับปี 2568 บริษัทเน้นดำเนินกลยุทธ์ New Business Venture ซึ่งเป็นกลยุทธ์ขับเคลื่อนธุรกิจเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน ด้วยการเพิ่มธุรกิจและแสวงหาธุรกิจใหม่ๆ ควบคู่กับการเข้าประมูลโครงการ โดยมีเป้าหมายหลัก คือ โครงการ M82, M5 และจุดพักรถริมทางหลวง พร้อมทั้งตั้งเป้ารายได้เติบโตประมาณ 10% จากปีก่อน และคาดการณ์ปริมาณการจราจรปี 2568 เฉลี่ยไม่ต่ำกว่าปี 2567 ทีมีปริมาณการจราจรเฉลี่ยทั้งปีอยู่ที่ 111,922 คันต่อวัน ซึ่งปัจจุบันพบว่าปริมาณจราจรบนทางยกระดับดอนเมืองมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จากปัจจัยสนับสนุนของการเดินทางท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศที่คึกคัก

นอกจากนี้ เชื่อมั่นว่า 2 บริษัทย่อย คือ บริษัท เอ สยาม อินฟรา จำกัด (ASIAM) ที่ดำเนินธุรกิจด้านงานวิศวกรรม และบริษัท แอลฟา ดี เอ็ม เทค จำกัด ที่ได้จัดตั้งในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2568 เพื่อดำเนินธุรกิจให้บริการระบบชำระเงินดิจิทัล ระบบบริหารจัดการการจราจรและความปลอดภัย และระบบบริหารจัดการทรัพย์สิน จะมีส่วนสำคัญในการสนับสนุนผลการดำเนินงานของบริษัทให้เติบโตได้ตามเป้าหมาย


กำลังโหลดความคิดเห็น