xs
xsm
sm
md
lg

Krungthai GLOBAL MARKETS เผยค่าบาทเปิดที่ 33.55 แกว่งตัวในกรอบ Sideways รอข้อมูลเศรษฐกิจยูโร

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ (21 ก.พ.) ที่ระดับ 33.55 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นจากระดับปิดวันที่ผ่านมา ณ ระดับ 33.63 บาทต่อดอลลาร์ และมองกรอบเงินบาทในช่วง 24 ชั่วโมง คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 33.45-33.75 บาท/ดอลลาร์ โดยนับตั้งแต่ช่วงคืนวันที่ผ่านมา เงินบาท (USDTHB) ทยอยแข็งค่าขึ้นเข้าใกล้โซนแนวรับสำคัญ 33.50 บาทต่อดอลลาร์ (แกว่งตัวในกรอบ 33.52-33.69 บาทต่อดอลลาร์) ตามการทยอยอ่อนค่าลงของเงินดอลลาร์ ที่มาพร้อมกับการย่อตัวลงบ้างของบอนด์ยิลด์ 10 ปี สหรัฐฯ โดยถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด ซึ่งต่างสนับสนุนให้เฟดชะลอการลดดอกเบี้ย ท่ามกลางความไม่แน่นอนของนโยบายกีดกันทางการค้าของรัฐฐาล Trump กลับไม่ได้ช่วยหนุนเงินดอลลาร์มากนัก ดังจะเห็นได้ว่า บรรดาผู้เล่นในตลาดต่างคงให้โอกาสราว 52% ที่เฟดจะสามารถเดินหน้าลดดอกเบี้ย 2 ครั้ง หรือ 50bps ในปีนี้ได้

ทว่า การทยอยแข็งค่าขึ้นต่อเนื่องของบรรดาสกุลเงินหลัก โดยเฉพาะเงินเยนญี่ปุ่น (JPY) ที่ล่าสุดแข็งค่าขึ้นหลุดโซนแนวรับสำคัญ 150 เยนต่อดอลลาร์ ท่ามกลางมุมมองของผู้เล่นในตลาดที่คาดหวังว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) จะสามารถเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้อีกอย่างน้อย 1 ครั้ง ก็มีส่วนกดดันให้เงินดอลลาร์ทยอยอ่อนค่าลง

สำหรับในช่วง 24 ชั่วโมงหลังจากนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจอังกฤษและยูโรโซน ผ่านรายงานยอดค้าปลีก (Retail Sales) ของอังกฤษ ในเดือนมกราคม รวมถึง ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตและภาคการบริการของทั้งอังกฤษ และยูโรโซน (Manufacturing & Services PMIs) ในเดือนกุมภาพันธ์

และในฝั่งสหรัฐฯ ผู้เล่นในตลาดจะรอจับตารายงานดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคการบริการ ในเดือนกุมภาพันธ์ โดย S&P Global ด้วยเช่นกัน เพื่อประกอบการประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ พร้อมทั้งรอติดตามถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด เพื่อประเมินแนวโน้มการดำเนินนโยบายการเงินของเฟด

ส่วนในช่วงวันอาทิตย์ที่จะถึงนี้ บรรดาผู้เล่นในตลาดจะรอลุ้นผลการเลือกตั้งทั่วไปของเยอรมนี ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อทิศทางตลาดการเงินฝั่งยุโรป โดยเฉพาะในส่วนของตลาดหุ้นยุโรปและเงินยูโร (EUR) ได้อย่างมีนัยสำคัญ

สำหรับแนวโน้มของค่าเงินบาท การทยอยแข็งค่าขึ้นของเงินบาทเข้าใกล้โซนแนวรับสำคัญ 33.50 บาทต่อดอลลาร์ ในช่วงคืนที่ผ่านมา ถือว่าเหนือความคาดหมายของเราไปบ้าง หลังบรรดาสกุลเงินหลัก โดยเฉพาะเงินเยนญี่ปุ่น (JPY) ยังคงทยอยแข็งค่าขึ้นทะลุโซนแนวรับสำคัญ 150 เยนต่อดอลลาร์ อีกทั้ง ราคาทองคำสามารถรีบาวนด์ขึ้นได้บ้าง อย่างไรก็ดี เรายังคงเห็นแรงซื้อเงินดอลลาร์กลับเข้ามาบ้าง จากทั้งฝั่งผู้ประกอบการ อย่างผู้นำเข้า และเราประเมินว่า บรรดาผู้เล่นในตลาดบางส่วนที่คงมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มเงินดอลลาร์อาจทยอยเพิ่มสถานะ Long USD (มองเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น) หลังดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY) ได้ปรับตัวลงสู่โซนแนวรับสำคัญระยะสั้น

อนึ่ง เนื่องจากตลาดยังขาดปัจจัยใหม่ๆ เพิ่มเติม ทำให้เรายังคงมุมมองเดิมว่า เงินบาท (USDTHB) อาจยังคงแกว่งตัวในกรอบ Sideways โดยยังมีโซนแนวรับแถว 33.50 บาทต่อดอลลาร์ (แนวรับถัดไป 33.30 บาทต่อดอลลาร์) ขณะที่โซนแนวต้านจะอยู่แถว 33.70-33.80 บาทต่อดอลลาร์ (แนวต้านถัดไป 34.00 บาทต่อดอลลาร์) ทว่า เงินบาทเสี่ยงจะเคลื่อนไหวผันผวนสูงขึ้น เนื่องจากตลาดจะทยอยรับรู้รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญจากทั้งฝั่งยุโรป (อังกฤษและยูโรโซน) และสหรัฐฯ อีกทั้งตลาดจะรับรู้ปัจจัยการเมืองยุโรป อย่างการเลือกตั้งทั่วไปของเยอรมนี ที่จะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 23 กุมภาพันธ์นี้ โดยเราประเมินว่าผลการเลือกตั้งของเยอรมนี อาจส่งผลกระทบต่อตลาดการเงินในช่วงวันจันทร์ได้พอสมควร

โดยหากประเมินจากผลโพลล่าสุด เรามองว่า ผู้เล่นในตลาดต่างคาดหวังว่า พรรค CDU/CSU พรรค SPD (รัฐบาลก่อนหน้า) และพรรค Greens อาจจะได้รับที่นั่งในสภาพอที่จะสามารถจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างมากได้สำเร็จ ซึ่งภาพดังกล่าวได้หนุนการปรับตัวขึ้นของตลาดหุ้นยุโรป รวมถึงการแข็งค่าขึ้นของเงินยูโร (EUR) ในช่วงระยะสั้นนี้ อย่างไรก็ดี ความเสี่ยงที่ต้องระวัง คือ กรณีที่พรรคขวาจัด อย่าง AfD สามารถชนะการเลือกตั้งได้มากกว่าคาด ซึ่งในกรณีดังกล่าวอาจเห็นแรงขายสินทรัพย์เสี่ยง อย่างบรรดาหุ้นเยอรมนี จนอาจกดดันให้เงินยูโร (EUR) อ่อนค่าลงได้
กำลังโหลดความคิดเห็น