นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ (20 ก.พ.) ที่ระดับ 33.73 บาทต่อดอลลาร์ อ่อนค่าลงเล็กน้อย แทบไม่เปลี่ยนแปลงจากระดับปิดวันที่ผ่านมา ณ ระดับ 33.69 บาทต่อดอลลาร์ และมองกรอบเงินบาทในช่วง 24 ชั่วโมง คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 33.60-33.80 บาท/ดอลลาร์ โดยนับตั้งแต่ช่วงคืนวันที่ผ่านมา เงินบาท (USDTHB) ทยอยอ่อนค่าลงเล็กน้อยในลักษณะ Sideways Up (แกว่งตัวในกรอบ 33.64-33.78 บาทต่อดอลลาร์) ตามการรีบาวนด์แข็งค่าขึ้นบ้างของเงินดอลลาร์ ที่ยังพอได้แรงหนุนจากภาวะระมัดระวังตัวของบรรดาผู้เล่นในตลาด ท่ามกลางปัจจัยเสี่ยงทั้งความไม่แน่นอนของแนวโน้มการดำเนินนโยบายกีดกันทางการค้าของรัฐบาล Trump 2.0 รวมถึงความไม่แน่นอนของการเจรจาสันติภาพเพื่อยุติสงครามรัสเซีย-ยูเครน
นอกจากนี้ เงินดอลลาร์ยังคงได้แรงหนุนอยู่บ้างจากแนวโน้มเฟดชะลอการลดดอกเบี้ย ทั้งนี้ เงินบาทยังไม่ได้อ่อนค่าลงต่อเนื่องชัดเจน หลังราคาทองคำยังสามารถแกว่งตัวในกรอบ Sideways ได้ โดยมีจังหวะรีบาวนด์ขึ้นบ้าง ซึ่งช่วยลดทอนแรงกดดันฝั่งอ่อนค่าต่อเงินบาทในช่วงคืนที่ผ่านมา
สำหรับในช่วง 24 ชั่วโมงหลังจากนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอประเมินแนวโน้มการดำเนินนโยบายการเงินของเฟด ผ่านถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด รวมถึงรายงานยอดผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงาน (Jobless Claims) และรายงานภาวะเศรษฐกิจจากบรรดาเฟดสาขาต่างๆ เช่น ดัชนีภาคการผลิต และดัชนีภาวะภาคธุรกิจโดยเฟดสาขาฟิลาเดลเฟีย
ส่วนในฝั่งเอเชีย ผู้เล่นในตลาดจะรอลุ้น รายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI ของญี่ปุ่น ในเดือนมกราคม เพื่อประกอบการประเมินแนวโน้มการดำเนินนโยบายการเงินของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) โดยล่าสุด บรรดาผู้เล่นในตลาดประเมินว่า BOJ มีโอกาสราว 48% ที่จะเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยอีก 2 ครั้ง หรือ 50bps ในปีนี้
สำหรับแนวโน้มของค่าเงินบาท เรายังคงมุมมองเดิมว่าเงินบาทอาจยังคงแกว่งตัวในกรอบ Sideways ไปก่อนจนกว่าตลาดจะรับรู้ปัจจัยใหม่ๆ เพิ่มเติม ที่ทำให้การเคลื่อนไหวของสินทรัพย์หลัก ไม่ว่าจะเป็นเงินดอลลาร์ (รวมถึงบรรดาสกุลเงินหลัก) และราคาทองคำมีทิศทางที่ชัดเจนขึ้น ไม่ว่าจะทิศทางใด ทิศทางหนึ่งก็ตาม ซึ่งภาพดังกล่าวจะเกิดขึ้นได้ เมื่อตลาดรับรู้รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ หรือรับรู้ปัจจัยพิเศษ เช่น พัฒนาการเจรจาเพื่อยุติสงครามรัสเซีย-ยูเครน แนวโน้มการดำเนินนโยบายกีดกันทางการค้าของรัฐบาลสหรัฐฯ และผลการเลือกตั้งทั่วไปของเยอรมนี (รอลุ้นในช่วงสุดสัปดาห์นี้)
โดยเงินบาท (USDTHB) อาจยังมีโซนแนวต้านแถว 33.80 บาทต่อดอลลาร์ (แนวต้านถัดไป 34.00 บาทต่อดอลลาร์) ขณะที่โซนแนวรับยังคงเห็นในช่วง 33.60-33.70 บาทต่อดอลลาร์ (แนวรับสำคัญถัดไป 33.50 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งหากเงินบาทแข็งค่าทะลุโซนดังกล่าวอาจแข็งค่าต่อได้ถึงโซน 33.30 บาทต่อดอลลาร์)