xs
xsm
sm
md
lg

Krungthai GLOBAL MARKETS เผยค่าบาทเปิดที่ 33.73 แกว่งตัว Sideways รอปัจจัยใหม่ๆ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ (18 ก.พ.) ที่ระดับ 33.70 บาทต่อดอลลาร์ ทรงตัว ไม่เปลี่ยนแปลงจากระดับปิดวันที่ผ่านมา และมองกรอบเงินบาทในช่วง 24 ชั่วโมง คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 33.65-33.90 บาท/ดอลลาร์ (ระวังความผันผวนในช่วงตลาดทยอยรับรู้รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ) โดยนับตั้งแต่ช่วงคืนวันที่ผ่านมา เงินบาท (USDTHB) เคลื่อนไหวในลักษณะ Sideways (แกว่งตัวในกรอบ 33.67-33.75 บาทต่อดอลลาร์) เนื่องจากเป็นวันหยุดทำการของตลาดการเงินสหรัฐฯ เนื่องในวันประธานาธิบดี (Presidents’ Day) ส่งผลให้ปริมาณการทำธุรกรรมในตลาดการเงินเบาบางลงจากช่วงปกติ

อย่างไรก็ดี ภาวะเปิดรับความเสี่ยงของตลาดหุ้นยุโรปยังพอช่วยหนุนให้บรรดาสกุลเงินฝั่งยุโรป โดยเฉพาะเงินปอนด์อังกฤษ (GBP) ต่างทยอยแข็งค่าขึ้น ส่งผลให้เงินดอลลาร์ย่อตัวลงบ้าง ทั้งนี้ ผู้เล่นในตลาดต่างรอรับรู้ปัจจัยใหม่ๆ เพิ่มเติม ก่อนที่จะปรับสถานะถือครองสินทรัพย์ที่ชัดเจนต่อไป

สำหรับในช่วง 24 ชั่วโมงหลังจากนี้ ในฝั่งยุโรป ผู้เล่นในตลาดจะรอติดตามรายงานข้อมูลตลาดแรงงานอังกฤษ โดยเฉพาะในส่วนของอัตราการเติบโตของค่าจ้าง รวมถึงถ้อยแถลงของผู้ว่าฯ ธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) เพื่อประเมินแนวโน้มการปรับดอกเบี้ยนโยบายของ BOE โดยล่าสุด ผู้เล่นในตลาดประเมินว่า BOE มีโอกาสราว 35% ที่จะเดินหน้าลดดอกเบี้ยเพิ่มเติมอีก 3 ครั้ง หรือ 75bps ในปีนี้ นอกจากนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอจับตารายงานดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของเยอรมนีและยูโรโซน (ZEW Economic Sentiment) ในเดือนกุมภาพันธ์

ส่วนในฝั่งสหรัฐฯ ผู้เล่นในตลาดจะรอประเมินแนวโน้มภาคการผลิตอุตสาหกรรมของสหรัฐฯ ผ่านรายงานดัชนีภาคการผลิตโดยเฟด สาขานิวยอร์ก (NY Fed Empire State Manufacturing Index) พร้อมทั้งรอติดตามถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด เพื่อประกอบการประเมินแนวโน้มการปรับลดดอกเบี้ยของเฟดในปีนี้ ซึ่งล่าสุด ผู้เล่นในตลาดคาดว่าเฟดมีโอกาสราว 62% ที่จะลดดอกเบี้ย 2 ครั้ง หรือ 50bps ในปีนี้

และในฝั่งเอเชีย ผู้เล่นในตลาดจะรอลุ้นผลการประชุมธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) โดยบรรดานักวิเคราะห์และผู้เล่นในตลาดต่างประเมินว่า RBA อาจลดดอกเบี้ยลง 25bps สู่ระดับ 4.10% ตามแนวโน้มการชะลอตัวลงของกิจกรรมทางเศรษฐกิจและอัตราเงินเฟ้อ ส่วนในช่วงราว 6.50 น. ของเช้าวันที่ 19 กุมภาพันธ์ ตามเวลาประเทศไทยนั้น ผู้เล่นในตลาดจะรอลุ้นรายงานยอดการค้าระหว่างประเทศ (Exports & Imports) ของญี่ปุ่นในเดือนมกราคม

สำหรับแนวโน้มของค่าเงินบาท เรามองว่าเงินบาทอาจแกว่งตัวในกรอบ Sideways ไปก่อน จนกว่าตลาดจะรับรู้ปัจจัยใหม่ๆ เพิ่มเติม อย่างไรก็ดี เรามองว่าควรระวังความผันผวนในช่วงตลาดทยอยรับรู้รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ อย่างดัชนีภาคการผลิตโดยเฟดสาขานิวยอร์ก (NY Fed Empire State Manufacturing Index) ในช่วงราว 20.30 น. ตามเวลาประเทศไทย เนื่องจากสถิติย้อนหลัง 1 ปี สะท้อนว่า เงินบาท (USDTHB) อาจแกว่งตัวเกิน +/-0.20% ได้ภายในช่วง 30 นาที หลังทยอยรับรู้รายงานข้อมูลดังกล่าว

ทั้งนี้ ในช่วงระยะสั้น เรามองว่าการเคลื่อนไหวของราคาทองคำอาจส่งผลกระทบต่อเงินบาทได้เช่นกัน ทำให้ยังคงต้องติดตามทิศทางราคาทองคำ ซึ่งเราคงประเมินว่า ราคาทองคำมีความเสี่ยงที่จะเข้าสู่ช่วงการพักฐาน หรือย่อตัวได้บ้างในช่วงนี้ โดยเฉพาะหากผู้เล่นในตลาดคลายกังวลปัจจัยเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ และความเสี่ยงจากนโยบายกีดกันทางการค้าของรัฐบาล Trump 2.0 นอกจากนี้ เรามองว่าควรจับตาทิศทางฟันด์โฟลว์นักลงทุนต่างชาติ ที่อาจทยอยเข้าซื้อสินทรัพย์ไทย อย่างหุ้นไทยได้บ้าง หลังในช่วงที่ผ่านมา ตลาดหุ้นไทยได้ปรับตัวลดลงต่อเนื่อง จนทำให้เริ่มเห็นหุ้นที่มีความน่าสนใจทั้งในเชิงปัจจัยพื้นฐานและเชิง Valuation ที่ถูกลงมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น
กำลังโหลดความคิดเห็น