กระแสเก็งกำไรในเหรียญมีมและกำไรระยะสั้นกำลังเปลี่ยนโฉมตลาดคริปโตไปจากจุดเริ่มต้นที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม สู่สนามพนันที่เต็มไปด้วยการปั่นราคาและหลอกลวง ในขณะที่บิทคอยน์ ยังคงครองตลาดด้วยส่วนแบ่งกว่า 60% เหรียญ Altcoin ส่วนใหญ่กลับร่วงหนัก สะท้อนถึงความเชื่อมั่นที่ถดถอย และทำให้ตลาดที่เคยเต็มไปด้วยไอเดียใหม่ๆ กลายเป็นพื้นที่แห่งการซื้อขายแบบไร้หลักการ
หลังจากเติบโตมากว่าทศวรรษ ตลาดคริปโตดูเหมือนจะหลงทาง ไล่ตามกระแสและผลกำไรระยะสั้นแทนที่จะมุ่งพัฒนาโครงการที่ยั่งยืน
Alejandro Navia ผู้ร่วมก่อตั้ง NFT Now เตือนว่า สิ่งที่เกิดขึ้นในตลาดขณะนี้ไม่ใช่แค่ช่วงขาลงตามวัฏจักร แต่เป็นปัญหาที่ลึกกว่านั้นมาก
ด้าน Lin Alden นักวิเคราะห์เศรษฐศาสตร์มหภาคมองว่า แอปพลิเคชันคริปโตส่วนใหญ่ไม่มีพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่แท้จริง ทำให้เรื่องราวของ Altcoin ในที่สุดก็กลายเป็นเพียง “มีม” ที่ไม่มีเนื้อหาสาระ มีแต่การเล่นเก็งกำไรกันเอง
โครงการจริงพ่ายแพ้ให้กับกระแสเหรียญมีมปั่นราคา
กระแสการซื้อขายเหรียญมีมเดินไปสู่จุดที่นักลงทุนต้องรีบซื้อตามภายในไม่กี่นาที มิฉะนั้นจะ "ตกขบวน" และการถือครองเหรียญเหล่านี้อาจมีอายุเพียงไม่กี่ชั่วโมง ตัวอย่างล่าสุดคือโทเค็น Trump ที่ทำให้นักลงทุนกว่า 800,000 รายสูญเงินไปกว่า 2 พันล้านดอลลาร์ หลังราคาดิ่งลง 65% ภายในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง
ตลาดคริปโตที่เต็มไปด้วยการเก็งกำไรเช่นนี้ ได้สร้างวัฒนธรรมแห่งความกลัวและความโลภ ส่งผลให้การฉ้อโกงและกลโกงหลอกเงินแพร่ระบาดหนักขึ้นเรื่อยๆ แม้แต่นักเทรดที่มีประสบการณ์ก็เริ่มหมดไฟ ท่ามกลางวังวนของ "เหรียญใหม่ที่มาแรง" ที่เกิดขึ้นทุกวัน ขณะที่โครงการที่มีมูลค่าจริงกลับถูกมองข้าม
ตลาดคริปโตต้องกลับสู่รากฐานที่แท้จริง
Navia เตือนว่า ตลาดต้องกลับมาให้ความสำคัญกับปัจจัยพื้นฐาน สนับสนุนโครงการที่มีกรณีการใช้งานจริง และสร้างความรับผิดชอบในระดับชุมชน เพื่อกำจัดพฤติกรรมฉ้อโกงที่บั่นทอนความน่าเชื่อถือของอุตสาหกรรมนี้
“เราต้องเริ่มพูดคุยกันอย่างจริงจังว่า ตลาดกำลังมุ่งหน้าไปทางไหน เพราะมันอาจจะแย่ลง ก่อนที่จะดีขึ้น” เขากล่าวทิ้งท้าย