ตลาดหุ้นไทยปี 2568 ไม่สดใสอย่างแรง ผันผวนหนักก่อนจะปิดลบช่วงท้ายสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเผชิญแรงกดดันจากแรงขายหุ้นบิ๊กแคป โดยเฉพาะหุ้นผู้ประกอบธุรกิจท่าอากาศยานจากผลประกอบการไตรมาสล่าสุดออกมาต่ำกว่าคาดการณ์ ประกอบกับบรรยากาศยังคงถูกดดันจากความไม่แน่นอนของประเด็นสงครามการค้าฉะนั้นพาไปส่อง10 หุ้นบิ๊กแคปแสนล้าน ดิ่งหนักต่อเนื่อง ผลตอบแทนราคาYTD ไล่มาตั้งแต่ ปี 66 ปี 67จนถึง ปัจจุบัน ปี 68 ตัวแดงติดดอยทั่วหน้า
1.AOT บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ผลตอบแทนราคาตั้งแต่ต้นปี 68 คือ -21.01% ผลตอบแทนราคา YTD ปี 67 คือ -0.42% ผลตอบแทนราคา YTD ปี 66 คือ -20.33% ณ 14 ก.พ.68 ปิด 47.00 บาท ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์คือ 67.50/46.50 บาท มาร์เกตแคปล่าสุด 671,427.90 ล้านบาท ค่า P/E 33.63 เท่า อัตราเงินปันผล YTD ปี 68 คือ 1.68% เงินปันผล YTD ปี 67 คือ 1.33% เงินปันผล YTD ปี 66 คือ 0.60% โบรกฯ คาดเหตุราคาปรับตัวแรง จาก รายได้ส่วนแบ่งผลประโยชน์โตต่ำกว่าคาด เนื่องจากมีรายได้บางส่วนที่ไม่ได้เพิ่มตามปริมาณผู้โดยสาร 2.ยอดลูกหนี้ค้างจ่ายสูงขึ้นจากผู้ประกอบการในสนามบินมีปัญหาสภาพคล่อง แต่อย่างไรก็ตาม ระยะเวลายังไม่เกินวงเงินประกันที่ AOT เรียกเก็บจากผู้ประกอบการ โดยหนึ่งในลูกหนี้สำคัญ คือ King Power หลังกลุ่ม King Power ขอเลื่อนชำระค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำ เดือน ส.ค. 67-ก.พ.68 ออกไป 18 เดือน โดยยอมจ่ายค่าปรับ 18% ต่อปี
2.CPN บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ผลตอบแทนราคาตั้งแต่ต้นปี 68 คือ -14.47% ผลตอบแทนราคา YTDปี 67 คือ -18.57% ผลตอบแทนราคา YTD ปี 66 คือ -1.41% ณ 14 ก.พ.68 ปิด 48.75 บาท ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์คือ68.75/48.75 บาท มาร์เกตแคปล่าสุด 218,790.00 ล้านบาท ค่า P/E 13.01 เท่า อัตราเงินปันผล YTD ปี 68 คือ 3.69% เงินปันผล YTD ปี 67 คือ 3.16% เงินปันผล YTD ปี 66 คือ 1.64%
โบรกฯ คาดกำไรปกติ ไตรมาส 4/67 อยู่ที่ 3.9 พันล้านบาท ลดลง -2% YoY และ -5% QoQ ต่ำกว่าที่คาดไว้เบื้องต้นเล็กน้อยที่ 4 พันล้านบาท โดยการลดลงมาจาก SG&A to sale ที่เพิ่มขึ้นมากกว่าคาด เพราะมีจัดงานอีเวนต์เยอะตามเทศกาลต่างๆ และมีการจัดในหลายศูนย์เพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ดี ธุรกิจหลักยังคงเติบโตได้ต่อเนื่อง โดยรายได้ค่าเช่ายังทรงตัวระดับสูงอยู่ที่ 1.06 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นได้ดี +7% YoY และ +1% QoQ โดยต่างจังหวัดโตได้มากกว่า กทม.
3.AWC บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) ผลตอบแทนราคาตั้งแต่ต้นปี 68 คือ -13.64% ผลตอบแทนราคา YTD ปี 67 คือ -1.12% ผลตอบแทนราคา YTD ปี 66 คือ -43.49% ณ 14 ก.พ.68 ปิด 3.04 บาท ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์คือ 4.58/2.88 บาท มาร์เกตแคปล่าสุด 97,295.08 ล้านบาท ค่า P/E 18.19 เท่า อัตราเงินปันผล YTD ปี 68 คือ 1.64% เงินปันผล YTD ปี 67 คือ 1.42% เงินปันผล YTD ปี 66 คือ 0.90%
โบรกฯ คาดกำไรหลักไตรมาส 4/67 อยู่ที่ 556 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19% จากช่วงเดียวกันปีก่อน หรือ YoY และเพิ่มขึ้น 93% จากไตรมาสก่อน หรือ QoQ การเติบโตของกำไรหลัก YoY ได้แรงหนุนจากรายได้เฉลี่ยต่อห้องต่อคืน หรือ RevPar และการประหยัดจากขนาดจากการดำเนินงานที่แข็งแกร่งของกลุ่ม MICE และโรงแรมในกรุงเทพฯ กระบี่ ภูเก็ต และเชียงใหม่ ส่วนการเติบโต QoQ เป็นผลมาจากฐานต่ำ
4.HMPRO บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) ผลตอบแทนราคาตั้งแต่ต้นปี 68 คือ -11.17% ผลตอบแทนราคา YTD ปี 67 คือ -19.66% ผลตอบแทนราคา YTD ปี 66 คือ -24.52% ณ 14 ก.พ.68 ปิด 8.35 บาท ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์คือ 11.60/7.65 บาท มาร์เกตแคปล่าสุด 109,812.50 ล้านบาท ค่า P/E 17.01 เท่า อัตราเงินปันผล YTD ปี 68 คือ 4.79% เงินปันผล YTD ปี 67 คือ 4.26% เงินปันผล YTD ปี 66 คือ 3.25%
โบรกฯ คาด Q4/67 กำไ ร +7.2% YoY ผลหลักจากรายได้ดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นมาก บวกกับหนี้สูญรับคืนที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้กำไรทั้งปี 67 ยังทำนิวไฮต่อเนื่องอีกปี โดย +1.9% YoY ยังลุ้นกำไรปี 68 ยังทำนิวไฮต่อเนื่อง หันมาเน้นเจาะกลุ่มลูกค้า Hi-end ในธุรกิจบัตรเครดิต ถือเป็นลูกค้าชั้นดีทำให้คุมคุณภาพสินทรัพย์ได้ดี โดย ณ สิ้นปี 67 มี NPL เพียง 1.95% และ รับประโยชน์จากมาตรการ Easy e-receipt ช่วง 16 ม.ค.-28 ก.พ.68 กระตุ้นยอดใช้จ่ายผ่านบัตร Q1/68
5.CPALL บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผลตอบแทนราคาตั้งแต่ต้นปี 68 คือ -10.76% ผลตอบแทนราคา YTD ปี 67 คือ -0.45% ผลตอบแทนราคา YTD ปี 66 คือ -17.95% ณ 14 ก.พ.68 ปิด 49.75 บาท ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์คือ 68.00/46.75 บาท มาร์เกตแคปล่าสุด 446,909.29 ล้านบาท ค่า P/E 18.89 เท่า อัตราเงินปันผล YTD ปี 68 คือ 2.01% เงินปันผล YTD ปี 67 คือ 1.79% เงินปันผล YTD ปี 66 คือ 1.34%
โบรกฯ คาดกำไรไตรมาส 4/67 อยู่ที่ 8,256 ล้านบาท เติบโต 50.2% จากช่วงเดียวกันปีก่อนหรือ YoY และเพิ่มขึ้น 47.2% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน หรือ QoQ ขณะที่ยอดขายรวมอยู่ที่ 2.48 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.9% YoY และเพิ่มขึ้น 5.8% QoQ ส่วนเฉพาะร้านสะดวกซื้อ หรือ CVS คาดยอดขายอยู่ที่ 1.13 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.4% YoY และเพิ่มขึ้น 9.0% QoQ รวมถึงยอดขายต่อสาขาเดิมหรือ SSSG ที่ +3.4% รับแรงหนุนจากไฮซีซั่นการท่องเที่ยว
6.BEM บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ผลตอบแทนราคาตั้งแต่ต้นปี 68 คือ -9.15% ผลตอบแทนราคา YTD ปี 67 คือ -10.69% ผลตอบแทนราคา YTD ปี 66 คือ -18.88% ณ 14 ก.พ.68 ปิด 98,588.25 บาท ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์คือ 8.45/6.40 บาท มาร์เกตแคปล่าสุด 98,588.25 ล้านบาท ค่า P/E 25.58 เท่า อัตราเงินปันผล YTD ปี 68 คือ 2.22% เงินปันผล YTD ปี 67 คือ 2.01% เงินปันผล YTD ปี 66 คือ 1.51%
โบรกฯ คาด Q4/67 กำไรจะลดลง 18% QoQ อยู่ที่ 875 ล้านบาท ทำให้ตัวเลขทั้งปีอยู่ที่ 3.8 พันล้านบาท (+9% YoY) ในเวลาเดียวกันได้ปรับประมาณการกำไรเล็กน้อยในปี 2567F-2569F ซึ่งคาดว่าจะเติบโตในอัตราเลขหลักเดียวต่อปี ส่วนประเด็นต่างๆ เช่น โครงการทางด่วนยกระดับ (double deck) ที่รอคอยมานานมูลค่า 3.5 หมื่นล้านบาท รวมถึงการแก้ไขระยะเวลาสัมปทานและรูปแบบการแบ่งรายได้ อย่างไรก็ดี BEM ไม่น่าจะได้รับผลกระทบมากนัก เนื่องจากรัฐบาลจะยังคงให้คำมั่นในการรักษาผลประโยชน์ตามสัญญาสัมปทานเดิมไว้
7.BDMS บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) ผลตอบแทนราคาตั้งแต่ต้นปี 68 คือ -8.57% ผลตอบแทนราคา YTD ปี 67 คือ -11.71% ผลตอบแทนราคา YTD ปี 66 คือ -4.31% ณ 14 ก.พ.68 ปิด 22.40 บาท ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์คือ 31.25/22.20 บาท มาร์เกตแคปล่าสุด 355,980.84 ล้านบาท ค่า P/E 22.81 เท่า อัตราเงินปันผล YTD ปี 68 คือ 3.13% เงินปันผล YTD ปี 67 คือ 2.86% เงินปันผล YTD ปี 66 คือ 2.16%
โบรกฯ คาดกำไร Q4/67 +6%YoY จากรายได้โต 4%YoY โดยผู้ป่วยไทยเพิ่มขึ้น 3% YoY ผู้ป่วยต่างชาติโต 10% YoY หนุนกำไรปีนี้โต 10% และคาดรายได้ปี 68 โตราว 6-7% ขณะกำไรเติบโตราว 8% แม้ได้รับผลกระทบจากฐานรายได้ที่สูงในปีก่อน และภาวะเศรษฐกิจในไทยยังชะลอตัว
8.IVL บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) ผลตอบแทนราคาตั้งแต่ต้นปี 68 คือ -7.63% ผลตอบแทนราคา YTD ปี 67 คือ -8.62% ผลตอบแทนราคา YTD ปี 66 คือ -33.13% ณ 14 ก.พ.68 ปิด 23.00 บาท ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์คือ 27.50/16.00 บาท มาร์เกตแคปล่าสุด 129,134.69 ล้านบาท ค่า P/E - เท่า อัตราเงินปันผล YTD ปี 68 คือ 4.02% เงินปันผล YTD ปี 67 คือ 3.71% เงินปันผล YTD ปี 66 คือ 5.87%
โบรกฯ คาดสำหรับ Q1/68 กำไร IVL จะทรงตัว YoY และเติบโตได้ดี QoQ หนุนจากทั้งปริมาณขาย และส่วนต่างผลิตภัณฑ์โดยเฉพาะ PET ที่เพิ่มขึ้น ในขณะที่คาด PTTGC จะขาดทุนหลักต่อเนื่องพลิกเป็นขาดทุน YoY และขาดทุนมากขึ้น QoQ จากทั้ง GRM และอัตรากำไรของเคมิคอลส์ที่ลดลง
9.OR บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) ผลตอบแทนราคาตั้งแต่ต้นปี 68 คือ -6.77% ผลตอบแทนราคา YTD ปี 67 คือ -30.37% ผลตอบแทนราคา YTD ปี 66 คือ -19.75% ณ 14 ก.พ.68 ปิด 12.40 บาท ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์คือ 19.00/10.70 บาท มาร์เก็ ตแคปล่าสุด 148,800.00 ล้านบาท ค่า P/E 19.45 เท่า อัตราเงินปันผล YTD ปี 68 คือ 3.23% เงินปันผล YTD ปี 67 คือ 3.91% เงินปันผล YTD ปี 66 คือ 2.62%
OR เผยผลการดำเนินงานปี 2567 มีรายได้ขายและบริการ 723,958 ล้านบาท ลดลง 45,783 ล้านบาท หรือลดลง 5.9% จากปี 2566 โดยหลักจากปริมาณจำหน่ายน้ำมันที่ลดลงและราคาน้ำมันในตลาดโลกเฉลี่ยปรับลดลงของกลุ่มธุรกิจ Mobility โดยรายได้ขายลดลง 7.4% สวนทางกับกลุ่มธุรกิจ Lifestyle ที่เพิ่มขึ้น 8.2% ตามการขยายสาขาที่เพิ่มขึ้นของทั้งธุรกิจค้าปลีกอาหารและเครื่องดื่ม
10.SCC บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) ผลตอบแทนราคาตั้งแต่ต้นปี 68 คือ -13.39% ผลตอบแทนราคา YTD ปี 67 คือ -45.10% ผลตอบแทนราคา YTD ปี 66 คือ -10.53% ณ 14 ก.พ.68 ปิด 145.50 บาท ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์คือ 275.00/142.50 บาท มาร์เกตแคปล่าสุด 174,600.00 ล้านบาท ค่า P/E 30.53 เท่า อัตราเงินปันผล YTD ปี 68 คือ 3.44% เงินปันผล YTD ปี 67 คือ 3.57% เงินปันผล YTD ปี 66 คือ 2.61%
บริษัทเตรียมเสนอขายหุ้นกู้ชุดใหม่ ครั้งที่ 1/2568 ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2572 “SCC294A” ให้แก่ผู้ลงทุนประชาชนทั่วไป มูลค่าเสนอขายไม่เกิน 1.5 หมื่นล้านบาท อายุหุ้นกู้ 4 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.20% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน