กลุ่มโตโยต้าเตรียมออกพันธบัตรดิจิทัล (Security Token) ที่พัฒนาบนเทคโนโลยีบล็อคเชนเป็นครั้งแรกในเดือนหน้า โดยมี Daiwa Securities และ Mitsubishi UFJ Bank ร่วมสนับสนุนการเสนอขาย
ตามรายงานจากสื่อญี่ปุ่น CoinPost และการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการของ Toyota Financial Services ระบุว่า ค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่จากญี่ปุ่น เตรียมเสนอขายพันธบัตรดิจิทัลบนบล็อกเชนเป็นครั้งแรก โดยพันธบัตรดิจิทัลดังกล่าว จะถูกเปิดตัวบนแพลตฟอร์ม Progmat ซึ่งพัฒนาโดย Mitsubishi UFJ Bank แพลตฟอร์มนี้เคยถูกกล่าวถึงในฐานะผู้ให้บริการโซลูชันสำหรับสเตเบิลคอยน์ (Stablecoin) ที่ทำงานร่วมกันได้บนบล็อคเชนหลายประเภท
โดยสิทธิประโยชน์ของผู้ถือโทเค็น จะได้รับสิทธิประโยชน์พิเศษหากมีบัญชี Toyota Wallet ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันชำระเงินดิจิทัลของกลุ่มโตโยต้า โดยพันธบัตรนี้มีชื่อว่า "Toyota Wallet ST" (Security Token) มูลค่า 1,000 ล้านเยน (ประมาณ 6.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) และถูกจัดเป็น "พันธบัตรโทเค็นหลักทรัพย์ที่ไม่มีหลักประกัน"
กำหนดการเสนอขายสำหรับนักลงทุน
การเสนอขายจะเริ่มในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ และสิ้นสุดในวันที่ 27 กุมภาพันธ์ โดยพันธบัตรจะครบกำหนดในวันที่ 3 มีนาคม 2568 หรือภายใน 1 ปีนับจากวันออก
เป้าหมายระดมทุนของโตโยต้า
โตโยต้ามุ่งใช้เทคโนโลยีบล็อคเชนเพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างกลุ่มบริษัทและนักลงทุนรายบุคคล นอกจากนี้ บริษัทยังจะใช้แพลตฟอร์ม Progmat ซึ่งเป็นระบบซอฟต์แวร์แบบบริการ (SaaS) ในการออกและจัดการสินทรัพย์ดิจิทัล
สิทธิประโยชน์เพิ่มเติมสำหรับนักลงทุน
Toyota Financial Services ระบุว่าจะมอบเครดิต "โบนัส" ให้กับผู้ถือโทเค็นผ่าน Toyota Wallet โดยนักลงทุนที่ซื้อโทเค็นมูลค่ามากกว่า 1 ล้านเยน (ประมาณ 6,567 ดอลลาร์สหรัฐ) จะได้รับเครดิต Toyota Wallet มูลค่า 65.67 ดอลลาร์สหรัฐ
ความร่วมมือระหว่างพันธมิตร
Daiwa Securities ทำหน้าที่เป็นผู้รับประกันการเสนอขาย ส่วน Mitsubishi UFJ Bank ทำหน้าที่เป็นผู้ดูแลพันธบัตร ในขณะที่ Mitsubishi UFJ Trust and Banking Corporation จะรับผิดชอบการบริหารการจดทะเบียนพันธบัตร
ทิศทางตลาดโทเค็นความปลอดภัยในญี่ปุ่น
ทั้งนี้บริษัทขนาดใหญ่ในญี่ปุ่นกำลังเร่งดำเนินการด้านโทเค็นความปลอดภัย เนื่องจากรัฐบาลสนับสนุนการเติบโตของเทคโนโลยีบล็อคเชน โดยเมื่อปีที่แล้ว Mitsubishi UFJ ได้มีการประกาศความร่วมมือกับ Rakuten และ Mizuho Bank ในโครงการโทเค็นหลักทรัพย์ใหม่ ซึ่งมี Daiwa Securities เข้าร่วมด้วย
อย่างไรก็ตามการเคลื่อนไหวนี้สะท้อนถึงความพยายามของบริษัทญี่ปุ่นในการนำเทคโนโลยีบล็อคเชนมาใช้เพื่อสร้างนวัตกรรมทางการเงินและดึงดูดนักลงทุนรายย่อยให้เข้ามามีส่วนร่วมในตลาดทุนมากขึ้น