มาร์ก โทเบอรอฟฟ์ ทนายความชื่อดังกล่าวว่า "หาก แซม อัลท์แมน และคณะกรรมการบริหารของ OpenAI Inc. ในปัจจุบันตัดสินใจเปลี่ยนองค์กรไม่แสวงหากำไรไปเป็นบริษัทแสวงหากำไรอย่างเต็มตัว สิ่งสำคัญคือองค์กรการกุศลควรได้รับค่าตอบแทนอย่างยุติธรรมสำหรับสิ่งที่ผู้นำขององค์กรกำลังพรากไป นั่นคือการควบคุมเทคโนโลยีที่อาจสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่สุดในยุคของเรา"
OpenAI แยกหน่วยงานแสวงหากำไรหลัง อีลอน มัสก์ ถอนตัวออก
OpenAI, Inc. ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงหากำไร ได้แยกบริษัทในเครือ OpenAI Global, LLC ออกมาในปี 2019 เพื่อมุ่งเน้นการแสวงหาผลกำไร การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นหลังจาก อีลอน มัสก์ ถอนตัวออกจากบริษัท และ แซม อัลท์แมน เข้ารับตำแหน่งซีอีโอแทน
OpenAI Global ช่วยให้บริษัทสามารถระดมทุนจากผู้สนับสนุนรายใหญ่ เช่น Microsoft เพื่อสนับสนุนการพัฒนาด้านเทคโนโลยีที่มีต้นทุนสูงและความต้องการขึ้นเป็นเบอร์ 1 ด้านปัญญาประดิษฐ์ของบริษัท รวมถึงการมีส่วนร่วมในโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน AI มูลค่า 500,000 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 18 ล้านล้านบาท) ที่มีชื่อว่า "Stargate" ซึ่งประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ได้ประกาศเมื่อเดือนที่แล้ว
“ถึงเวลาแล้วที่ OpenAI จะต้องกลับมาเป็นโอเพ่นซอร์สที่เน้นด้านความปลอดภัยอีกครั้งเพื่อประโยชน์สูงสุดเหมือนอย่างเคย” มัสก์กล่าวในแถลงการณ์ผ่าน มาร์ก โทเบอรอฟฟ์ ทนายความของเขา “เราจะทำให้แน่ใจว่าสิ่งนั้นจะเกิดขึ้น”
รายงานข้อเสนอของมัสก์สำหรับ OpenAI ได้รับการสนับสนุนจากบริษัท AI ของเขา xAI ร่วมกับบริษัทร่วมทุนและบริษัทลงทุนหลายแห่ง รวมถึง Baron Capital, Vy Capital และ 8VC ซึ่งหลังจากนั้นไม่นาน แซม อัลท์แมน ก็โพสต์ผ่านทวิตเตอร์ ปฎิเสธการขายกิจการให้อีลอน มัสก์ ว่า “ไม่เป็นไร แต่ขอบคุณนะที่คุณสนใจ แต่เราจะซื้อทวิตเตอร์ในราคา 9.74 พันล้านดอลลาร์สหรัฐแทน ถ้าคุณต้องการ”
OpenAI มูลค่าสูงลิ่ว หลังระดมทุนรอบล่าสุด
OpenAI ได้รับการประเมินมูลค่าสูงถึง 157,000 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 5.6 ล้านล้านบาท) หลังการระดมทุนรอบล่าสุดมูลค่า 6,600 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 237,600 ล้านบาท) ในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา
ล่าสุด CNBC รายงานเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ว่า Softbank กำลังอยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อสรุปข้อตกลงลงทุนใน OpenAI มูลค่า 40,000 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1.44 ล้านล้านบาท) ซึ่งจะทำให้มูลค่าของ OpenAI พุ่งสูงถึง 260,000 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 9.36 ล้านล้านบาท)
ทั้งนี้การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างองค์กรและการระดมทุนครั้งใหญ่ของ OpenAI สะท้อนให้เห็นถึงความพยายามในการขยายขีดความสามารถด้าน AI และการแข่งขันในตลาดเทคโนโลยีระดับโลก ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อทิศทางของอุตสาหกรรม AI ในอนาคต