xs
xsm
sm
md
lg

นักลงทุนหุ้น 3 ล้านชีวิตใกล้สิ้นใจ / สุนันท์ ศรีจันทรา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นับตั้งแต่วิกฤตการณ์ราชาเงินทุน ความตกต่ำของตลาดหุ้นรอบนี้ ถือว่ายืดเยื้อและยาวนานที่สุด โดยไม่มีสัญญาณการฟื้นตัวระยะสั้น

ช่วงวิกฤตการณ์ราชาเงินทุน ตลาดหุ้นตกอยู่ในภาวะเงียบเหงาซบเซา ยาวนานประมาณ 8 ปี จากปี 2522 จนถึงปี 2530 จึงเริ่มฟื้นตัวขึ้น

ส่วนวิกฤตการณ์ตลาดหุ้นรอบนี้ เริ่มต้นตั้งแต่ปี 2566 จากดัชนี ฯ ระดับ 1600 จุด และทรุดตัวลงต่อเนื่อง กินเวลายาวนานกว่า 2 ปีแล้ว จนดัชนี ฯ ทรุดลงเหลือระดับ 1260 จุด และมีแนวโน้มที่จะปรับตัวลงต่อ โดยไม่คาดหมายว่า ดัชนี ฯ จะลงไปต่ำสุดที่ระดับใด

ในปี 2568 ตลาดหุ้นไทย ถูกจัดอันดับเป็นตลาดหุ้นที่แย่ที่สุดในโลก ผลตอบแทนติดลบมากที่สุด สวนทางกับตลาดหุ้นทั่วโลก ซึ่งส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้น และปรับตัวขึ้นต่อเนื่องมาหลายปีแล้ว ขณะที่ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงสวนทาง

ปัจจัยที่กดดันให้หุ้นตกต่ำ เกิดจากภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซา ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนไม่เติบโต และมีปัญหาการเมืองภายในประเทศ ทำให้นักลงทุนต่างประเทศหมดความมั่นใจ และเทขายหุ้นออกมาต่อเนื่อง 3 ปีติดต่อ รวมยอดเทขายหุ้นทิ้ง ถอนเงินกลับบ้านประมาณ 3.5 แสนล้านบาท

ความพยายามเรียกความเชื่อมั่นนักลงทุนต่างชาติ ประสบความล้มเหลวโดยสิ้นเชิง และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ดำเนินแทบทุกมาตรการแล้ว ในการกระตุ้นความเชื่อมั่นนักลงทุน แต่ไม่สบประสบผลสำเร็จ

แรงขายหุ้นของต่างชาติยังเกิดขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่แรงซื้อในประเทศอ่อนล้า หรือหมดกำลังซื้อ โดยเฉพาะนักลงทุนรายย่อย ที่ข้อนซื้อหุ้นมาตลอด ยอดซื้อหุ้นสะสมรอบ 6 ปีที่ผ่านมาประมาณ 7 แสนล้านบาท และอยู่ในฐานะที่แบกหุ้นต้นทุนสูงไว้

นักลงทุนในตลาดหุ้น ตัวเลขล่าสุดเมื่อสิ้นเดือนธันวาคม 2567 มีจำนวนทั้งสิ้น 2.96 ล้านคน ซึ่งทั้งหมดขาดทุนย่อยยับ เพราะราคาหุ้นดิ่งลง จนสร้างจุดต่ำสุดในรอบหลายปีที่ระดับ 1252 จุด

การกระตุ้นให้ตลาดหุ้นกลับมาสู่ความคึกคัก ช่วยปลดเปลื้องภาวะขาดทุนของนักลงทุนเกือบ 3 ล้านชีวิต อยู่นอกเหนือความสามารถของหน่วยงานที่กำกับดูแลตลาดหุ้นแล้ว ไม่ว่าจะเป็น ก.ล.ต.หรือตลาดหลักทรัพย์ ฯ

เพราะมาตรการที่จะเรียกความเชื่อมั่นนักลงทุนได้ จะต้องเป็นมาตรการระดับชาติ หรือมาตรการที่รัฐบาลเป็นผู้ผลักดัน แต่กลับไม่มีความเคลื่อนไหวใดจากรัฐบาลนางสาวแพทองธาร ชินวัตร ซึ่งไม่รู้ว่า เป็นเพราะไม่มีความใส่ใจในตลาดตกต่ำของตลาดหุ้น หรือไม่รู้ว่า จะแก้ปัญหาอย่างไร จึงไม่แสดงท่าทีใดกับวิกฤตตลาดหุ้น

และปล่อยลอยแพนักลงทุนให้เผชิญกับหายนะที่มองไม่เห็นจุดสิ้นสุด

รัฐบาลนางสาวแพทองธาร ชินวัตร ควรต้องโดดลงมากอบกู้วิกฤตตลาดหุ้น โดยเรียกประชุมทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ตั้งแต่กระทรวงการคลัง ก.ล.ต. ตลาดหลักทรัพย์ สมาคมบริษัทหลักทรัพย์ สมาคมบริษัทจัดการลงทุน สมาคมนักวิเคราะห์ สมาคมส่งเสริมผู้ลงทุน เพื่อหารือถึงมาตรการกระตุ้นบรรยากาศความเชื่อมั่น

ปลุกความเชื่อมั่นนักลงทุนกลับมา โดยเฉพาะนักลงทุนต่างชาติ เพราะเป็นแนวทางเดียวที่จะทำให้ตลาดหุ้นกระเตื้องขึ้น

แต่ถ้ารัฐบาลยังทอดทิ้งตลาดหุ้น ลอยแพนักลงทุน 3 ล้านชีวิต ไม่คิดจะหามาตรการเรียกความเชื่อมั่นนักลงทุน ปล่อยให้ตลาดหุ้นเป็นไปตามยถากรรม

ดัชนีหุ้นปักหัวลงต่อไป และไม่อาจคาดหมายได้จริง ๆ ว่า วิกฤตหุ้นรอบนี้ จะทำให้นักลงทุน 3 ล้านชีวิต ขาดทุนย่อยยับขนาดไหน

และตลาดหุ้นจะพังทลาย จนเกินกว่าจะกอบกู้ให้ฟื้นในระยะสั้นหรือไม่








กำลังโหลดความคิดเห็น