คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ระบุในกาคแถลงข่าวการประชุมคณะกรรมการประจำเดือนกุมภาพันธ์ว่า กกร.สนับสนุนแนวทางการยกระดับการจัดการบัญชีม้าของสมาคมธนาคารไทยและธนาคารสมาชิก โดยที่ผ่านมาได้พัฒนาระบบรักษาความปลอดภัยของ Mobile Banking เพื่อป้องกัน Appreciate ดูดเงินและการควบคุมโทรศัพท์มือถือระยะไกล งดการส่งข้อความ SMS แนบลิงก์ให้ลูกค้า จัดให้มี Hotline รับแจ้งเหตุ 24 ชั่วโมงตลอด 7 วัน ร่วมกับศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ (AOC) พัฒนาระบบแลกเปลี่ยนข้อมูลบัญชีในภาคธนาคารเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลบัญชี ธุรกรรมต้องสงสัย และบัญชีม้า ทำให้สามารถจัดการระงับบัญชีม้าไปแล้วกว่า 1.8 ล้านบัญชี และเตรียมออกมาตรการเพิ่มเติมในการจัดการบัญชีม้านิติบุคคล
ทั้งนี้ เพื่อความสำเร็จจำเป็นที่ทุกภาคส่วนต้องมีส่วนร่วมในการจัดการปัญหาภัยทางการเงินตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ทั้งภาครัฐและเอกชน ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรคมนาคม (Telco) ผู้ให้บริการแพลตฟอร์ม ผู้ประกอบการธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล และผู้ให้บริการ E Wallet รวมถึงภาคประชาชนที่ต้องตื่นตัวและรู้เท่าทันภัยทางการเงิน เพื่อให้แก้ไขและป้องกันภัยทางการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน
นายผยง ศรีวณิช ในฐานะประธานสมาคมธนาคารไทย เปิดเผยว่า การป้องกันการเปิดบัญชีม้าในส่วนของธนาคารพาณิชย์นั้นถือว่าได้ผลดี ซึ่งระบบธนาคารเองใช้ทรัพยากรค่อนข้างมากในการสร้างระบบขึ้นมาและผลักดันให้เกิดกลไกทั้งระบบตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ อย่างในเรื่องของการตัดไฟที่พม่าถือเป็นเรื่องที่ดี เป็นอีกกลไกที่สะท้อนว่าทางรัฐให้ความสำคัญกับเรื่องการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ อย่างไรก็ตาม หากดูในภาพรวมแล้ว ส่วนของต้นน้ำตั้งแต่ในมุมของกลุ่มเทเลคอมที่ต้องมีการพิจารณาในเรื่องของซิมการ์ดไปจนถึงปลายน้ำที่เงินออกคือ คริปโต แล้วยังต่อเนื่องไปถึงเรื่องแพลตฟอร์มที่ไม่ได้มีเรื่องของ Governance ที่จะมาดูแลเรื่องทุจริตที่เกี่ยวข้อง เพราะฉะนั้นถ้าองคาพยพเหล่านี้ทั้งหมดร่วมมือกันในการปะทะกับอาชญกรรมทางการเงินทางไซเบอร์จะมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ส่วน พ.ร.ก.ที่กำหนดให้ธนาคารพาณิชย์มีส่วนในการรับผิดชอบในความเสียหายร่วมกันนั้น เป็นเรื่องปกติแต่ความรับผิดชอบร่วมกันต้องครบทั้งทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตาม ในเรื่องกลไกของระบบสิ่งที่เราอยากเห็นคือ บทบาทที่ครบทุกกลไก เพราะระบบธนาคารพาณิชย์ตอนนี้เหมือนเป็นส่วนที่อยู่ตรงกลางที่ต้องรับเข้ามาจากต้นน้ำ แล้วต้องระงับการออกไปที่ปลายน้ำ ดังนั้น การออกไปที่ปลายน้ำต้องสามารถระงับได้ แต่ต้นน้ำต้องมีด่านสกัดบ้าง อันนี้เป็นจุดที่หวังว่าจะมีกลไกเกิดขึ้นไปพร้อมๆ กัน
"การดูแลเรื่องนี้ธนาคารใช้กลไกปกติที่ดูอยู่แล้ว และเราลงทุนอะไรต่างๆ มากมาย มันมีทั้งเรื่องข้อจำกัดทางกฎหมาย เรื่องของการดำเนินการได้เต็มประสิทธิภาพ ซึ่งธนาคารยกระดับไปอย่างเข้มข้น ตอนนี้เราปิดบัญชีม้าไปเป็นล้านบัญชีแล้ว เดี๋ยวต้องปิดปากม้าที่เข้ามาด้วย แต่ต้องย้ำว่าม้ามันเกิดขึ้นทุกวันมันไม่ได้อยู่นิ่งๆ เพราะฉะนั้นการที่เราจะรู้เท่าทันมันต้องกิจกรรมที่ต่อเนื่อง ไม่ใช่แค่ One Shot เพราะฉะนั้นทุกองคาพยพของระบบนิเวศนี้ต้องยกระดับ นี่คือสิ่งที่เราอยากเห็น พูดคุยอยู่ตลอด เราอยากเห็นการยกระดับทั้งระบบ"
ในส่วนของบัญชีต้องสงสัยที่ถูกระงับธุรกรรมไป จะต้องไปปลดล็อกโดยการยืนยันตัวตนที่เข้มข้นขึ้น และต้องยอมรับว่า มาตรการป้องกันบัญชีม้าจะทำให่เกิดความไม่สะดวกในระบบ แต่เป็นแนวทางที่เราพยายามจะต่อสู้กับองค์กรอาชญากรรมให้ได้ ขณะเดียวกัน ธนาคารเองต้องจัดสรรทรัพยากรที่เราทำกิจกรรมทางเศรษฐกิจปกติมาป้องกันประเด็นต่างๆ เหล่านี้ด้วย ซึ่งจะต้องทำให้ทันกับกำหนดที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กำหนดไว้ในเดือนมีนาคม