ราคาบิทคอยน์ ร่วงลงมาแตะจุดต่ำสุดที่ 92,460 ดอลลาร์ ซึ่งต่ำกว่า 100,000 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมกราคม ส่วน Ether ดิ่งหนักสุดในรอบเกือบ 4 ปี นักลงทุนลดความเสี่ยงรับมือสงครามการค้ารอบใหม่
โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศมาตรการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากแคนาดา เม็กซิโก และจีนในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา จุดชนวนความกังวลด้านสงครามการค้า ส่งผลให้ตลาดคริปโตเข้าสู่ภาวะปั่นป่วน นักลงทุนเร่งลดความเสี่ยง ส่งผลให้ Ether ซึ่งเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลก ร่วงลงถึง 26.53% แตะระดับ 2,135 ดอลลาร์ในวันจันทร์ นับเป็นการร่วงลงหนักสุดในรอบเกือบ 4 ปี และเป็นการดิ่งลงรายวันครั้งใหญ่สุดนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2021
ตลาดคริปโตระส่ำ นักลงทุนเทขายรับมือความไม่แน่นอน
คำสั่งขึ้นภาษีศุลกากรของทรัมป์ ทำให้ความตึงเครียดระหว่างประเทศพุ่งสูงขึ้น โดยแต่ละประเทศเตรียมออกมาตรการตอบโต้ นักลงทุนหวั่นผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก เร่งขายสินทรัพย์เสี่ยง ทำให้บิทคอยน์ร่วงลงอย่างรวดเร็ว ทะลุแนวรับ 100,000 ดอลลาร์ และแตะจุดต่ำสุดที่ 92,460 ดอลลาร์ นับเป็นครั้งแรกตั้งแต่ต้นเดือนมกราคมที่บิทคอยน์ หลุดระดับ 100,000 ดอลลาร์
นอกจากนี้ สกุลเงินดิจิทัลอื่น ๆ ก็ร่วงลงหนักตามไปด้วย XRP ร่วง 23% Solana ลดลง 7.5% และ Dogecoin ดิ่ง 24.5% นักลงทุนในตลาดคริปโตลดสถานะการถือครองสินทรัพย์เสี่ยงอย่างหนักเพื่อลดความเสี่ยงจากภาษีของทรัมป์
แรงขายกดดันตลาด มูลค่าชำระบัญชีบิทคอยน์ทะลุ 2 พันล้านดอลลาร์
หลังประกาศขึ้นภาษี การชำระบัญชี (liquidation) ของบิทคอยน์พุ่งแตะ 2 พันล้านดอลลาร์ ตามข้อมูลของ CoinGlass โดยในจำนวนนี้เป็นสถานะซื้อที่ถูกบังคับขายสูงถึง 1.83 พันล้านดอลลาร์ สะท้อนให้นักลงทุนที่คาดหวังทำกำไรต้องเผชิญกับการปรับฐานของตลาดที่รุนแรง
ผลกระทบเชิงลึก : ภาษีศุลกากรกระทบความต้องการคริปโตทั่วโลก
การขึ้นภาษีของทรัมป์ส่งผลให้การค้าโลกชะลอตัว ฉุดกำลังซื้อของผู้บริโภคและทำให้เงินทุนในตลาดลดลงโดยรวม นอกจากนี้ ยังอาจส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น ทำให้บิทคอยน์ และคริปโตอื่น ๆ ซึ่งมีราคาอิงกับดอลลาร์ มีต้นทุนสูงขึ้นสำหรับนักลงทุนต่างชาติ ส่งผลให้ความต้องการลดลงไปอีก
ปัจจัยอีกประการหนึ่งคือการที่ตลาดคริปโตมีความเชื่อมโยงกับตลาดการเงินแบบดั้งเดิมมากขึ้น เมื่อความตึงเครียดทางการค้าทำให้ตลาดหุ้นผันผวน ราคาคริปโตมักได้รับแรงกดดันตามไปด้วย
นักวิเคราะห์มองต่างมุม : โอกาสในระยะยาวหรือความเสี่ยงทางเศรษฐกิจ?
นักวิเคราะห์มีมุมมองที่แตกต่างกันต่อผลกระทบในระยะยาวของมาตรการภาษี บางฝ่ายมองว่า อัตราภาษีที่สูงขึ้นอาจทำให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง ซึ่งอาจส่งผลดีต่อบิทคอยน์ในระยะยาว อย่างไรก็ตาม บางฝ่ายเตือนว่า สงครามการค้าอาจสร้างแรงกดดันต่อเงินเฟ้อ และทำให้ตลาดเผชิญกับความไม่แน่นอนที่สูงขึ้น
Markus Thielen จาก 10X Research ระบุว่า แม้บิทคอยน์จะมีแนวโน้มพุ่งขึ้นแตะจุดสูงสุดในวันศุกร์ แต่คำสั่งขึ้นภาษีของทรัมป์ได้ส่งผลให้ตลาดหันกลับมาขายทำกำไร
ไรอัน ลี หัวหน้านักวิเคราะห์จาก Bitget Research เสริมว่า “แม้ในอดีตบิทคอยน์จะถูกมองว่าเป็นสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยง แต่ความเคลื่อนไหวล่าสุดสะท้อนว่ามันมีความอ่อนไหวต่อปัจจัยเศรษฐกิจโลกมากขึ้นเรื่อย ๆ นักลงทุนต้องจับตาดูผลกระทบจากความขัดแย้งทางการค้าต่อทิศทางของตลาดคริปโตต่อไป”