นายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย นายกสภาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวเสวนาในงาน "Chula Thailand Presidents Summit 2025" หัวข้อ "Future Thailand: The Comprehensive View" ว่า ปัจจัยสำคัญที่มีผลต่ออนาคตประเทศไทย คือ ความปั่นป่วนของโลก (Global disruption) ได้แก่
1.การเข้ามาของเทคโนโลยี (Tecnology disruption) 2.การก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ (Demographic disruption) 3.โรคระบาด (Pandemic disruption) 4.สิ่งแวดล้อม (Environmental disruption) 5.อาชีพที่จะหายไป (Jobs disruption) และ 6.ปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ (Geo-political disruption)
ดังนั้น ทิศทางอนาคตของไทยจะเป็นอย่างไรนั้น ประเทศไทยจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับ 10 ประเด็น ดังนี้
1.ต้องวางจุดยืนทางการเมือง และภูมิรัฐศาสตร์ โดยตั้งผู้แทนพิเศษในด้านต่างๆ ในการเจรจากับสหรัฐฯ และจับมือกับอาเซียน ถ้าไทยมีอำนาจต่อรองไม่พอ
2.เตรียมพร้อมรับมือกับการดิสรัปชันทั้ง 4 ด้าน กล่าวคือ ด้านเทคโนโลยี สังคมสูงอายุ โรคระบาด และสิ่งแวดล้อม
3.การก้าวสู่ความยั่งยืน โดยอาศัยกรอบ SDGs, ESG
4.การท่องเที่ยว ซึ่งเป็นเครื่องยนต์หลักของไทย
5.ความมั่นคงทางอาหาร และสุขภาพ
6.ความมั่นคงด้านพลังงาน
7.การปฏิรูปการศึกษา
8.การกิโยตินกฎหมาย
9.การปฏิรูปการทำงานของกระทรวง ทบวง กรม
10.ให้ความสำคัญกับงานวิจัย (R&D for competitiveness)
นายสุรเกียรติ์ กล่าวว่า ในอนาคตไทยต้องเป็น Future Ready Thailand ต้องเป็นประเทศที่พร้อมต่อการปั่นป่วน เปลี่ยนแปลง มีความยืดหยุ่น และมีความพร้อมในการปฏิรูป โดยต้องอาศัยผู้นำจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาควิชาการ และภาคประชาสังคม ทั้ง 4 ฝ่ายต้องทำงานร่วมกันเพื่ออนาคตของประเทศไทย