ต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ประกาศใช้มาตรการลงโทษทางแพ่งผู้กระทำผิด 13 ราย ในคดีสร้างราคาหรือปั่นหุ้น บริษัท แมกซ์ เมทัล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ MAX บริษัท อุตสาหกรรม อีเล็คโทรนิคส์ จำกัด (มหาชน) หรือ EIC บริษัท นิวส์ เน็ตเวิร์ค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ NEWS และใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ รุ่นที่ 5 ของ NEWS หรือ NEWS-W5 เรียกให้ชำระค่าปรับทางแพ่งรวม 155,092,540 บาท
ผู้กระทำความผิดจำนวน 13 ราย มีความสัมพันธ์กันทั้งทางการเงินและความสัมพันธ์ส่วนบุคคล ประกอบด้วย นายยรรยงค์ อินทรสงเคราะห์ นายเอกวิชญ์ กมลเทพา นางวรณัน เลิศกุลธรรม นายภาณุรักษ์ แสงอร่าม น.ส.กรรณิดา ตั้งกิจตรงเจริญ นายกรวิช อัศวกุล น.ส.กัญจนารัศม์ วงศ์พันธุ์ นายสุวิทย์ พิพัฒน์วิไลกุล นางอรพิน พิพัฒน์วิไลกุล นายพิสิษฏ์ พิพัฒน์วิไลกุล นายสงกรานต์ ตันศิริ นายภควันต์ วงษ์โอภาสี และนางมะลิวัลย์ วงศ์ชินศรี
ผู้กระทำผิดทั้งหมดร่วมกันส่งคำสั่งซื้อขายหลักทรัพย์ในลักษณะที่ทำให้บุคคลทั่วไปเข้าใจผิดเกี่ยวกับราคาหรือปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์ และส่งคำสั่งซื้อขายในลักษณะต่อเนื่องกัน โดยมุ่งหมายให้ราคาหรือปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์ผิดไปจากสภาพปกติของตลาด ในระหว่างเดือนสิงหาคม-พฤศจิกายน 2559
คดีปั่นหุ้นที่ ก.ล.ต.กล่าวโทษล่าสุด เป็นความผิดที่เกิดขึ้นมาแล้ว 9 ปี จึงถือเป็นอีกคดีที่กระบวนการสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐานมีความล่าช้ามาก แม้ว่าผู้บริหารก.ล.ต.ชุดใหม่พยายามเร่งขั้นตอนการกล่าวโทษให้เร็วขึ้นก็ตาม
ความผิดเกี่ยวกับการปั่นหุ้นในช่วงหลัง หลายคดี ก.ล.ต.หันมาดำเนินคดีทางอาญา โดยร้องทุกข์กล่าวโทษแทนการใช้มาตรการทางแพ่ง แต่ไม่เข้าใจว่า ทำไมจึงใช้มาตรการลงโทษปรับแก๊งปั่นหุ้นร้อนทั่ง 13 ราย ซึ่งค่าปรับจำนวน 155 ล้านบาท ถือว่าน้อยนิดกับความผิดที่ก่อน และไม่รู้ว่า ท้ายที่สุดจะได้รับการชำระค่าปรับ นำเงินส่งคลังหรือไม่
สำหรับหุ้น MAX ถูกปั่นหลายรอบจากเครือข่ายแก๊งปั่นหุ้นขาใหญ่ จนในที่สุดกิจการล่มสลาย หุ้นตายซากคากระดาน จนตลาดหลักทรัพย์สั่งตะเพิดออกจากตลาดหุ้นปลายปี 2566 ส่วน EIC และ NEWS ก็ตกอยู่ในหุ้นที่มีสภาพตายซาก อยู่นอกเหนือความสนใจของนักลงทุน
หุ้น MAX EIC และ NEWS มีประวัติโชกโชน มีข่าวการปั่น หรือมีพฤติกรรมอันต้องสงสัย เกี่ยวกับธุรกรรมที่เข้าข่ายไม่โปร่งใสมากมาย และเป็นหุ้นมีนักปั่นหุ้นรายใหญ่อยู่เบื้องหลัง เช่นเดียวกับหุ้นอีกหลายตัว ซึ่งแม้ยังซื้อขายอยู่ในตลาด แต่ไม่รับความสนใจจากนักลงทุน และเกือบทั้งหมดราคาเคลื่อนไหวไม่กี่สตางค์
นักลงทุนจำนวนเรือนแสนคนต้องย่อยยับ สิ้นเนื้อประดาตัวจากหุ้นทึ่ถูกปั่นราคาขึ้นไปโดยแก๊งเครือข่ายขาใหญ่ ในช่วงระหว่างปี 2555-2559 และมีหุ้นนับสิบบริษัทนับสิบตัวที่ปั่นในเวลาเดียวกัน ก่อนที่จะมีการตัดตอนคดีปั่นหุ้นกว่า 10 คดี ยุคนายธาริษ เพ็งดิษฐ์ เป็นอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ซึ่งหลังจากมีการเปิดโปงการฆ่าตัดตอนคดีปั่นหุ้น โดยการสั่งไม่ฟ้อง
แก๊งปั่นหุ้นรายใหญ่ก็เริ่มลดพฤติกรรมลง ไม่ปั่นหุ้น หรือไซ่ฟ่อนผ่องถ่ายเงินอย่างโจ่งครึ่มเหมือนในอดีต จนดูเหมือนล้างมือในอ่างทองคำแล้ว
การกล่าวโทษแก๊งปั่นหุ้น MAX EIC และ NEWS เป็นการกวาดล้างเครือข่ายแก๊งปั่นหุ้นรายใหญ่ที่มีคดีตกค้างไว้เกือบ 10 ปีที่แล้ว
และหวังว่าเครือข่ายแก๊งปั่นหุ้นรายใหญ่ที่สุดเครือข่ายหนึ่งจะไม่ก่อคดีใหม่ สร้างความเสียหายให้นักลงทุนซ้ำรอยอดีตอีก
